เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นาทวารดัตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยันเตรียมแขวนถุงมือหลังจบซีซั่นนี้ เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น หลังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ "ปีศาจแดง" มาแล้ว 3 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ฟูแล่ม เมื่อปี 2005
นาย ทวารวัย 40 ปี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ "ปีศาจแดง" มาแล้ว 3 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัยเมื่อปี 2008 นับตั้งแต่ย้ายจาก ฟูแล่ม มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 และยังเหลือสัญญาจนถึงช่วงจบฤดูกาลนี้
ฟาน เดอร์ ซาร์ เผยว่า "ตอนนี้ มันถึงเวลาที่จะให้ความสนใจกับครอบครัว ผมไม่สามารถเจาะจงเวลาได้ว่า การตัดสินใจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผมบอกได้แค่ว่า เรื่องนี้เข้ามาอยู่ในใจตั้งแต่ แอนน์มาเรีย ภรรยาของผมเข้ารับการผ่าตัดอาการเลือดคั่งในสมอง"
"เธอสู้กลับ มาหลังจากนั้น เราตัดสินใจอยู่ในอังกฤษอีก 1 ปี และผมก็อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป ก่อนที่ผมจะมาคิดเรื่องเลิกเล่นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผมอายุ 40 ปี แล้ว แต่ก็ยังฟิต การตัดสินใจเกิดขึ้นในทันทีทันใด โปรดอย่าถามผมว่า อย่างไร หรือทำไม มันเพียงพอแล้ว"
เฟอร์กี้ยกEdwin van der Sar คือสุดยอดโกล์ตัวจริง
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซูฮก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นยอดโกล์ของจริง ชี้มีความคงเส้นคงวาในทุกๆ เรื่อง แย้มพร้อมให้ "น้าซาร์" อยู่ทำงานที่สโมสรต่อไป หลังแขวนถุงมือ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชื่อดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมากล่าวสรรเสริญ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารมือหนึ่งจอมเก๋า ซึ่งจะรีไทร์ตัวเองจากการเฝ้าเสาหลังจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดผู้รักษาประตูในวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง หลังจากที่เห็น "น้าซาร์" กวาดแชมป์ร่วมกับทีมมาได้อย่างมากมาย ตลอดระยะเวลา 5 ปีครึ่ง ที่อยู่รับใช้ทัพ "ปีศาจแดง"
"เฟอร์กี้" ซึ่งมอง ฟาน เดอร์ ซาร์ อยู่ในระดับเดียวกับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล นายด่านที่เก่งสุดตลอดกาลแห่งค่าย "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอ่ยปากเชิดชูยอดโกล์ชาวดัตช์วัย 40 ปีว่า "สุดยอด... เขาเป็นคนที่พิเศษจริงๆ เป็นผู้รักษาประตูมืออาชีพ แถมยังมีประวัติการเล่นที่มหัศจรรย์สุดๆ อีกด้วย"
"เขาคือตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกคนที่อยากเล่นในตำแหน่งผู้รักษา ประตู เอ็ดวิน ไม่เปลี่ยนอะไรเลยในชีวิตของเขา ไม่เคยเลยจริงๆ เขาเป็นคนที่มีความคงเส้นคงวาโดยธรรมชาติ เขาหนักแน่นดีเหลือเกิน เขามีความเยือกเย็น ไม่ต้องกระตุ้นตัวเอง เขามีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้รับมาตลอดชีวิต และเขาก็ไม่ได้จะแสวงหาสิ่งใดๆ อีกแล้ว เขาเป็นคนที่ดีมากๆ ด้วย" นายใหญ่ แมนฯ ยูฯ ระบุ
ถึงแม้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ประกาศชัดเจนแล้วว่า ตนต้องการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากกว่าเป็นโค้ชผู้รักษาประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ เฟอร์กูสัน ก็แย้มว่า ทุกๆ คนพร้อมที่จะเปิดทางให้เจ้าตัวกลับมาทำงานที่สโมสรเสมอ โดยกล่าวว่า "เขาใกล้ที่จะได้พักแล้ว ซึ่งผมเองก็เข้าใจตรงจุดนั้น แต่เขาจะได้มีส่วนร่วมกับเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามในวงการฟุตบอล ในอีก 2 ปีข้างหน้า"
ประวัติ Edwin van der Sar 1 ในสุดยอดโกล์ระดับโลก
แม้จะอายุ 40 แล้ว แต่นายทวารชาวดัตช์ ก็ยังเป็นกำลังสำคัญให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ติดทีมชาติฮอลแลนด์มากที่สุดตลอดกาลด้วย
ฟาน เดอ ซาร์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเล่นให้กับฟอร์โฮลเต้ ซึ่งเป็นทีมบ้านเกิด ก่อนจะย้ายไปอยู่ก็นอร์ดไวค์ หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นของเขาก็ไปเข้าตา หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชของอาแจ็กซ์ในเวลานั้น และได้เซ็นสัญญากับยักษ์ใหญ่ของลีกฮอลแลนด์ในที่สุด
หลังจากใช้เวลาในทีมสำรองได้สักพัก ฟาน เดอ ซาร์ ก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของอาแจ็กซ์มาตลอด
นายทวารเจ้าของความสูง 197 ซม. มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ 1991-92 และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1994-95 นอกจากนั้น การเซฟที่เหนียวหนึบของฟาน เดอ ซาร์ ยังทำให้เขาได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรปในปี 1995 ด้วย
อย่างไรก็ตาม รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 1996 ฟาน เดอ ซาร์ ก็ต้องอกหักได้แค่รองแชมป์ เมื่อ อาแจ็กซ์ พ่ายในการดวลจุดโทษต่อยูเวนตุส
ตลอดการค้าแข้ง 9 ปีกับอาแจ็กซ์ ฟาน เดอ ซาร์ ลงเล่นไปทั้งหมด 226 นัด รวมทั้งสามารถทำประตูจากลูกจุดโทษได้ในเกมที่ต้นสังกัดถล่ม กราฟสคัพ 8-1 ในฤดูกาล 1997-98 ด้วย
ในปี 1999 ฟาน เดอ ซาร์ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม "ม้าลาย" ที่ซึ่งเขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 66 นัดในกัลโช่ เซเรีย อา ก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่งมือ 1 ในทีมให้กับจานลุยจิ บุฟฟ่อน
จอมหนึบชาวดัตช์ กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ไม่ใช่ชาวอิตาเลียนคนแรกที่ได้เฝ้าเสาให้ยูเวนตุส ก่อนที่จะกลายมาเป็นหนึ่งในนายด่านที่ดีที่สุดของเซเรีย อา และแม้ว่าจะได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีม แต่เจ้าตัวกลับเลือกซบฟูแล่มแทน
ในปี 2001 ฟาน เดอ ซาร์ เซ็นสัญญาร่วมทีมฟูแล่มเป็นเวลา 4 ปี ด้วยค่าตัวราว 7 ล้านปอนด์ (ราว 420 ล้านบาทในเวลานั้น) โดยเขาลงเล่นให้ "เจ้าสัวน้อย" ไปทั้งหมด 127 นัดในพรีเมียร์ลีก และฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจของเขาก็ทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมทีมในที่สุด
ฟาน เดอ ซาร์ ย้ายไปอยู่ "ปีศาจแดง" อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2005 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ (ราว 120 ล้านบาท) และเฟอร์กี้ ก็มองว่านายทวารชาวดัตช์ คือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดที่เล่นให้กับสโมสรนับตั้งแต่ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เป็นต้นมา
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2007 ฟาน เดอ ซาร์ เซฟจุดโทษก่อนที่จะช่วยให้ทีมเฉือนชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมดาร์บี้แมตช์ไป 1-0 และวันต่อมาเชลซี ไม่สามารถบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อลได้ ทำให้ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 9 ไปครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดในอังกฤษครั้งแรกของนายด่านทีมชาติฮอลแลนด์ด้วย และจากผลงานที่คงเส้นคงวาก็ทำให้เขาได้รับเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอ ฟเอประจำฤดูกาล 2006-07 ด้วย
2007-08 ถือเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของฟาน เดอ ซาร์ นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเขาโชว์ซูเปอร์เซฟแบบนับไม่ถ้วน แม้ว่าจะมีปัญหาบาดเจ็บที่โคนขาหนีบรบกวน โดยเขาช่วยให้ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในนัดสุดท้ายของซีซั่น และยังเป็นฮีโร่ช่วยเซฟจุดโทษของนิโกล่าส์ อเนลก้า ในการดวลจุดโทษตัดสินรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก
ฟาน เดอ ซาร์ ต่อสัญญากับ "ปีศาจแดง"อีก 1 ปีเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2008 ซึ่งนั่นจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปอย่างน้อยจนถึงจบฤดูกาล 2009-10
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2009 ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ยูไนเต็ด สร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสรและพรีเมียร์ลีกเมื่อไม่เสียประตูติดต่อกันมากที่ สุด 11 เกม 1,032 นาที ในเกมที่ต้อนตือเวสต์บรอมวิช 5-0 (สถิติเก่าเป็นของปีเตอร์ เช็ก ที่ช่วยให้เชลซีไม่เสียประตู 10 เกมติดต่อกัน 1,025 นาทีในฤดูกาล 2004-05)
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2009 ฟาน เดอ ซาร์ ก็ทำลายสถิติโลกด้วยการทำคลีนชีตนานถึง 1,302 นาที เอาชนะโฆเซ่ มาเรีย บูลูเบชิช ที่ทำไว้ในหนึ่งฤดูกาลของลีกชิลีเมื่อปี 2005
สถิติไม่เสียประตูของเขาต้องจบลงในวันที่ 4 มี.ค. 2009 หลังจากที่ปล่อยให้ปีเตอร์ โลเวนครานด์ ของนิวคาสเซิ่ล ทำสกอร์ได้ในนาทีที่ 9 โดยรวมแล้ว ฟาน เดอ ซาร์ ทำสถิติไม่เสียประตู 1,311 นาทีในเกมลีก และความเหนียวหนึบของนายทวารจอมเก๋า เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 11 และเขาก็ได้รางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2008-09 ไปครองด้วย
อย่างไรก็ตาม ฟาน เดอ ซาร์ ต้องพลาดหวังในการคว้าเหรียญแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยที่ 3 เมื่อ "ปีศาจแดง" พ่ายให้บาร์เซโลน่า 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2009 ทว่า เขาก็ยังได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรปจากยูฟ่าเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้ครั้งแรกกับอาแจ็กซ์เมื่อ 14 ปีก่อน นอกจากนั้น ยังได้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเออีกครั้ง
ฟาน เดอ ซาร์ ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วในช่วงปรีซีซั่นระหว่างที่ลงเฝ้าเสาในศึกออดี้ คัพ และนั่นทำให้เขาพลาดการลงสนาม 12 นัดแรกของฤดูกาล 2009-10 ก่อนที่จะกลับมาลงเล่นให้ทีมอีกครั้งในเกมที่ "ปีศาจแดง" เฉือนโบลตัน 2-1 เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2009
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ปีเดียวกัน นายทวารชาวดัตช์ ก็มีปัญหาบาดเจ็บอีกครั้งและพลาดการลงสนามอีก 12 เกม ก่อนที่จะคัมแบ็กในเกมที่พบกับเบิร์นลี่ย์ ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2010
ฟาน เดอ ซาร์ ตัดสินใจต่อสัญญากับต้นสังกัดเพิ่มอีก 1 ปี เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2010 ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับทีมจนจบฤดูกาล 2010-11 และมีแนวโน้มว่าเมื่อหมดสัญญาฉบับปัจจุบันแล้วเจ้าตัวจะตัดสินใจแขวนถุงมือ
สำหรับผลงานในทีมชาติชุดใหญ่นั้น ฟาน เดอ ซาร์ มีชื่อติดทีมชาติฮอลแลนด์ในศึกฟุตบอลโลก 1994 ด้วยแต่เจ้าตัวไม่ได้ลงสนาม ส่วน การลงเล่นนัดแรกเกิดขึ้นในเกมที่พบกับเบลารุส เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 1995
แม้ว่าจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนายทวารที่ดีที่สุดในโลกแต่ ฟาน เดอ ซาร์ ไม่ค่อยมีโชคนักกับทีม "กังหันสีส้ม" หลังตกรอบในการดวลจุดโทษทั้งในศึกยูโร 1996, ฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2000 ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ฮอลแลนด์ ยังตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 ด้วย
ในศึกยูโร 2004 ฟาน เดอ ซาร์ ช่วยเซฟจุดโทษให้ทีมเอาชนะสวีเดน 5-4 ในการดวลจุดโทษตัดสินรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่สุดท้ายฮอลแลนด์ก็ต้องไปพ่ายให้กับโปรตุเกสในรอบตัดเชือก
ก่อนเกมที่จะพบกับไอวอรี่โคสต์ในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2006 ฟาน เดอ ซาร์ ไม่เสียประตู 9 นัดติดต่อกัน และในฐานะกัปตันทีมฮอลแลนด์ เขาทำลายสถิติของแฟรงค์ เดอ บัวร์ ในฐานะผู้เล่นที่ติดทีม "กังหันสีส้ม" มากที่สุดตลอดกาล ในเกมรอบ 2 ที่พบกับโปรตุเกส
ในวันเกิดครบรอบ 37 ปี ฟาน เดอ ซาร์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ เรดิโอ 583 ว่าเขาตั้งใจที่จะเลิกเล่นทีมชาติหลังจบศึกยูโร 2008 และสุดท้ายฮอลแลนด์ก็ตกรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อพ่ายให้กับรัสเซีย 3-1
อย่างไรก็ตาม นายด่านจอมเก๋า ก็เปลี่ยนใจกลับมาเล่นทีมชาติต่อหลังถูก เบิร์ต ฟาน มาร์ไวลด์ โค้ชคนใหม่ของ "กังหันสีส้ม" กล่อมจนใจอ่อน และในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ฮอลแลนด์ ก็เอาชนะ นอร์เวย์ 1-0 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2008 ซึ่งเป็นการติดทีมชาตินัดที่ 130 และทำให้เขาเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ติดทีมชาติฮอลแลนด์สูงสุดตลอดกาล
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น