"ศิริโชค" แจงผ่ายเฟซบุ๊ค อ้างพิกัด TA519234 เป็นถนนศรีเพ็ญ จุดที่รถของคณะคนไทยไปจอดไว้ ก่อนที่จะข้ามรั้วลวดหนาม ไม่ใช่เป็นบริเวณที่คนไทยถูกจับ
เมื่อเวลา 19.51 น. นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ค Sirichok Sopha เรื่อง "ข้อมูลที่ผิดพลาดอีกครั้งหนึ่งของนักวิชาการพันธมิตร" โดยระบุว่า "ตามที่นักวิชาการพันธมิตรได้ออกแถลงการณ์ในเฟซบุ๊ค และ manager on line ได้นำมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าคนไทย 7 คนโดนจับในแผ่นดินไทยแน่นอน โดยอ้างพิกัดใหม่ของ ตชด. "ข้อมูลใหม่ที่ได้รับมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 เป็นรายงานของ ผบ.ร้อย (สบ 2) กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (กก.ตชด.12) (ร.126) และมี ผบ.มว.(สบ 1) บรรยายสรุปสถานการณ์/ตอบข้อซักถามกรณีคนไทยทั้ง 7 คนถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมตัว พร้อมลงพื้นที่เกิดเหตุ พิกัด TA519234 ทำให้ตน และทีมงานตรวจสอบตำแหน่งพิกัดดังกล่าวเพื่อดูว่าคนไทย 7 คนนั้นอยู่ในเขตประเทศไทย หรืออยู่นอกประเทศ เมื่อพิจารณแล้วได้ข้อสรุปเบื้องต้นก็คือ พิกัดที่ TA519234 ของ กก.ตชด.12 (ร.126) เป็นพิกัดที่ทางหน่วยงานนำเสนออย่างเป็นทางการต่อผู้บังคับบัญชา และเมื่อตนนำไปพ๊อตไว้ในแผนที่ L7018 ซึ่งเป็นระวางแผนที่ที่ ตชด.ให้มา ทำให้พบว่าคนไทยทั้ง 7 คนยังอยู่ในประเทศไทย" และยังสรุปทิ้งท้าย "และผลของการพิสูจน์ทำให้หมู่บ้านหนองจาน ที่เคยเป็นที่ตั้งค่ายอพยพหรือศูนย์อพยพที่ปรากฏหลักฐานในแผนที่ L7017 และ L7018 ที่นายพนิชและคณะถูกจับไปนั้นก็ยังอยู่ในเขตประเทศไทยเช่นกัน"
ผมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับตชด.แล้ว พบว่านักวิชาการพันธมิตรคนดังกล่าวมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ผิดพลาดเรื่อง
1) การพล็อตแผนที่คนละระวาง ทำให้มีความคลาดเคลื่อนของหลักเขต แล้วไปสรุปว่ามีคนย้ายหลักเขตแดน
2) ค่ายผู้อพยพ SITE II เนื่องจากไปสรุปว่าอยู่บ้านหนองจาน หลักเขตที่ 46 ทั้งที่อยู่ ตาพระยา หลักเขตที 29 นอกจากนี้ยังเข้าใจผิดคิดว่าบ้านหนองจานไทย เป็นค่ายอพยพเขมรเสรีที่ชื่อหนองจาน
3) เข้าใจว่าค่ายอพยพเขมรเสรีเป็นของ UNHCR และอ้างหลักฐานบ่อน้ำว่าขุดโดย UNHCR เลยสรุปว่าอยู่ในแผ่นดินไทย ทั้งๆที่ค่ายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากโครงการUNBRO และ เป็นค่ายอพยพของเขมรเสรีในแผ่นดินกัมพูชา โดยค่ายดังกล่าวเป็นที่ซ่องสุมกำลังของทหารเขมรเสรีซึ่งมีอดีตนายกฯซอนซานเป็นผู้นำ
ข้อเท็จจริง : ในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.ต. ประพันธ์ จันทร์เอม ผบก.ตชด.ภาค 1 และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม และรับฟังการบรรยายสรุป ณ บก.มว.ตชด. 1263 เพื่อติดตามสถานการณ์กรณีคนไทย 7 คนโดนทหารกัมพูชาจับตัว
ในการบรรยายสรุปนั้น ร.ต.ท. ธนธรณ์ ตามพร ผบ.มวฯ รรท.ผบ.ร้อย ฉก.ตชด. 4 บรรยายถึงสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตอบข้อซักถามกรณีคนไทยทั้ง 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับตัว จากนั้นได้นำคณะฯเดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณพิกัด TA 519234
คำว่าพื้นที่เกิดเหตุนั้น คือบริเวณที่รถของคนไทยทั้ง 7 คนจอดบริเวณถนนศรีเพ็ญ ก่อนที่จะข้ามรั้วลวดหนาม ไม่ใช่เป็นบริเวณที่คนไทยถูกจับแต่อย่างใด ผมได้สอบถาม ผกก. ตชด.12 รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง ต่างยืนยันว่าไม่ใช่บริเวณที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และถ้านักวิชาการพันธมิตรคนนั้น จะเสียเวลาตรวจสอบข้อมูล โดยการดูคลิปจะเห็นชัดว่าคนไทยทั้ง 7 คนได้ก้าวข้ามรั้วลวดหนามและเดินไปจนถึงถนน k5 และเมื่อผมเอาพิกัดดังกล่าวมาพล็อตในแผนที่ L7018 และนำมาทาบบนภาพถ่ายดาวเทียม ก็จะเห็นชัดว่าพิกัดดังกล่าวอยู่บนถนนศรีเพ็ญ ก่อนถึงรั้วลวดหนาม
ผมมีความจำเป็นต้องอธิบาย เพื่อให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่รับฟังข้อมูลและอาจหลงเชื่อ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่มีเจตนาที่จะมาจับผิดใครแต่อย่างใด และผมหวังว่าการนำเสนอข้อมูลแต่ละอย่างควรผ่านการกลั่นกรอง โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องชายแดนที่ความละเอียดอ่อนแบบนี้
เมื่อเวลา 19.51 น. นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ค Sirichok Sopha เรื่อง "ข้อมูลที่ผิดพลาดอีกครั้งหนึ่งของนักวิชาการพันธมิตร" โดยระบุว่า "ตามที่นักวิชาการพันธมิตรได้ออกแถลงการณ์ในเฟซบุ๊ค และ manager on line ได้นำมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าคนไทย 7 คนโดนจับในแผ่นดินไทยแน่นอน โดยอ้างพิกัดใหม่ของ ตชด. "ข้อมูลใหม่ที่ได้รับมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 เป็นรายงานของ ผบ.ร้อย (สบ 2) กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (กก.ตชด.12) (ร.126) และมี ผบ.มว.(สบ 1) บรรยายสรุปสถานการณ์/ตอบข้อซักถามกรณีคนไทยทั้ง 7 คนถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมตัว พร้อมลงพื้นที่เกิดเหตุ พิกัด TA519234 ทำให้ตน และทีมงานตรวจสอบตำแหน่งพิกัดดังกล่าวเพื่อดูว่าคนไทย 7 คนนั้นอยู่ในเขตประเทศไทย หรืออยู่นอกประเทศ เมื่อพิจารณแล้วได้ข้อสรุปเบื้องต้นก็คือ พิกัดที่ TA519234 ของ กก.ตชด.12 (ร.126) เป็นพิกัดที่ทางหน่วยงานนำเสนออย่างเป็นทางการต่อผู้บังคับบัญชา และเมื่อตนนำไปพ๊อตไว้ในแผนที่ L7018 ซึ่งเป็นระวางแผนที่ที่ ตชด.ให้มา ทำให้พบว่าคนไทยทั้ง 7 คนยังอยู่ในประเทศไทย" และยังสรุปทิ้งท้าย "และผลของการพิสูจน์ทำให้หมู่บ้านหนองจาน ที่เคยเป็นที่ตั้งค่ายอพยพหรือศูนย์อพยพที่ปรากฏหลักฐานในแผนที่ L7017 และ L7018 ที่นายพนิชและคณะถูกจับไปนั้นก็ยังอยู่ในเขตประเทศไทยเช่นกัน"
ผมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับตชด.แล้ว พบว่านักวิชาการพันธมิตรคนดังกล่าวมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ผิดพลาดเรื่อง
1) การพล็อตแผนที่คนละระวาง ทำให้มีความคลาดเคลื่อนของหลักเขต แล้วไปสรุปว่ามีคนย้ายหลักเขตแดน
2) ค่ายผู้อพยพ SITE II เนื่องจากไปสรุปว่าอยู่บ้านหนองจาน หลักเขตที่ 46 ทั้งที่อยู่ ตาพระยา หลักเขตที 29 นอกจากนี้ยังเข้าใจผิดคิดว่าบ้านหนองจานไทย เป็นค่ายอพยพเขมรเสรีที่ชื่อหนองจาน
3) เข้าใจว่าค่ายอพยพเขมรเสรีเป็นของ UNHCR และอ้างหลักฐานบ่อน้ำว่าขุดโดย UNHCR เลยสรุปว่าอยู่ในแผ่นดินไทย ทั้งๆที่ค่ายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากโครงการUNBRO และ เป็นค่ายอพยพของเขมรเสรีในแผ่นดินกัมพูชา โดยค่ายดังกล่าวเป็นที่ซ่องสุมกำลังของทหารเขมรเสรีซึ่งมีอดีตนายกฯซอนซานเป็นผู้นำ
ข้อเท็จจริง : ในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.ต. ประพันธ์ จันทร์เอม ผบก.ตชด.ภาค 1 และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม และรับฟังการบรรยายสรุป ณ บก.มว.ตชด. 1263 เพื่อติดตามสถานการณ์กรณีคนไทย 7 คนโดนทหารกัมพูชาจับตัว
ในการบรรยายสรุปนั้น ร.ต.ท. ธนธรณ์ ตามพร ผบ.มวฯ รรท.ผบ.ร้อย ฉก.ตชด. 4 บรรยายถึงสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตอบข้อซักถามกรณีคนไทยทั้ง 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับตัว จากนั้นได้นำคณะฯเดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณพิกัด TA 519234
คำว่าพื้นที่เกิดเหตุนั้น คือบริเวณที่รถของคนไทยทั้ง 7 คนจอดบริเวณถนนศรีเพ็ญ ก่อนที่จะข้ามรั้วลวดหนาม ไม่ใช่เป็นบริเวณที่คนไทยถูกจับแต่อย่างใด ผมได้สอบถาม ผกก. ตชด.12 รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง ต่างยืนยันว่าไม่ใช่บริเวณที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และถ้านักวิชาการพันธมิตรคนนั้น จะเสียเวลาตรวจสอบข้อมูล โดยการดูคลิปจะเห็นชัดว่าคนไทยทั้ง 7 คนได้ก้าวข้ามรั้วลวดหนามและเดินไปจนถึงถนน k5 และเมื่อผมเอาพิกัดดังกล่าวมาพล็อตในแผนที่ L7018 และนำมาทาบบนภาพถ่ายดาวเทียม ก็จะเห็นชัดว่าพิกัดดังกล่าวอยู่บนถนนศรีเพ็ญ ก่อนถึงรั้วลวดหนาม
ผมมีความจำเป็นต้องอธิบาย เพื่อให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่รับฟังข้อมูลและอาจหลงเชื่อ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่มีเจตนาที่จะมาจับผิดใครแต่อย่างใด และผมหวังว่าการนำเสนอข้อมูลแต่ละอย่างควรผ่านการกลั่นกรอง โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องชายแดนที่ความละเอียดอ่อนแบบนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น