สระแก้ว - เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมรับมือกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จากทั่วประเทศเดินทางเข้าพื้นที่ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อเรียกร้องให้เขมรปล่อยตัว 7 คนไทย ด้านชาวบ้านรวมตัวกว่า 500 ต่อต้านการชุมนุม หวั่นสร้างปัญหา และทำให้เกิดความยากลำบากในการทำกิน
วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต เผยว่าได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าดูแลสถานกงสุลกัมพูชา ตั้งอยู่ที่ ทางแยกบ้านโคกสะแบง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะมีชาวบ้านบางกลุ่มบุกเข้าไป โดยนำกำลังเข้าตรวจเข้มประชาชนที่จะเข้าไปทำวีซ่าอย่างเข้มงวด
ส่วนกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คาดว่า จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดสระแก้วในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งได้มีการวางกำลังและเตรียมรับมือไว้แล้ว คาดว่า จะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรง และจะพยายามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่มีปัญหา เนื่องจากมีชาวบ้านหนองจานได้รวมตัวกันกว่า 500 คน เพื่อคัดค้านการเข้าพื้นที่ของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ
นายชูชัย ดำรงสันติสุข หรือ ชัยโรงเกลือ เผยว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสายอีสาน และกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่ปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล จะเดินทางมาชุมนุมประท้วงกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ประมาณ 500 คน โดยจะเดินทางมาถึงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ช่วงบ่ายวันนี้ แล้วพักค้างตามโรงเรียนและวัดในเขต อ.อรัญประเทศ
จากนั้นเช้าวันที่ 4 ม.ค.54 เวลาประมาณ 10.00 น.จะเดินทางเข้าพื้นที่บ้านหนองจาน โดยจะเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ด้วยเพื่อเรียกร้องให้กัมพูชา ปล่อยตัว 7 คนไทยกลับประเทศ พร้อมกันนี้ จะเป็นการทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ด้วย เพื่อให้เข้าใจถึงการเข้ามาของกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เนื่องจากยังมีชาวบ้านในพื้นที่อีกจำนวนมากที่ยังไม่ใจคิดว่าการเข้ามาในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความวุ่นวาย และความเดือดร้อนกับคนในพื้นที่
ขณะนี้เท่าที่ทราบ มีหลายกลุ่ม และได้มีการวางกำลังออกตามจุดต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้ามาของกลุ่มเครือยข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เข้าใจผิดกันและกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นได้
ด้าน นายสง่า สิทธิพล กำนันตำบลโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เผยว่า ชาวบ้านเขตตำบลโนนหมากมุ่น ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบ ที่ 7 คนไทยที่ถูกเขมรจับมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากกองกำลังบูรพา สั่งปิดจุดชายแดนห้ามคนไทย-เขมร ลักลอบข้ามแดน ทำให้ชาวไร่ที่ทำไร่อ้อยกว่า 2 หมื่นไร่ และชาวนาที่มีนาข้าวกว่า 1,500 ไร่ ไม่มีแรงงานเขมรมารับจ้างเกี่ยวข้าวและตัดอ้อย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บรรยากาศบริเวณชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังเกิดเหตุการณ์ทหารกัมพูชา จับกุม 7 คนไทย กองกำลังบูรพาได้สั่งการให้ปิดจุดช่องทางชายแดนตั้งแต่เขตพื้นที่ชายแดนบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ, อ.โคกสูง และอ.ตาพระยา ยกเว้นจุดผ่อนปรนการค้าบึงตากวน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และห้ามคนไทยและกัมพูชาลักลอบเดินทางข้ามเขตแดน
นอกจากนี้ ยังสั่งห้ามรถยนต์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องวิ่งเข้าถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนตั้งแต่ ต.ป่าไร่- ต.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยมีกำลัง จนท.ของ ตชด. 12 พร้อมรถยนต์หุ้มเกราะล้อยาง V-150 วิ่งลาดตระเวนตลอดแนวถนนศรีเพ็ญ เพื่อป้องกันเหตุและการลักลอบข้ามเขตแดนของคนไทย-กัมพูชา รวมทั้งทางฝ่ายทหารกัมพูชาก็เช่นกันได้มีการวางกำลังกันอย่างเข้มงวด
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บางส่วนเริ่มเดินทางถึงพื้นที่แล้ว ขณะที่ประชาชนซึ่งชุมนุมอยู่ข้างหอประชุม อ.โคกสูง สลายตัวไป หลังได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ปัญหา แต่นัดชุมนุมอีกครั้งเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2554
ส่วนเมื่อเวลาประมาณ 17.40 น. นายสมบูรณ์ ทองอุราน แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติได้เข้าพบนายสานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กับได้ยื่นข้อเรียกร้องว่า ขอให้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนที่ ที่ถูกทหารกัมพูชาจับตัวไป พร้อมทั้งขอนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ประมาณ 500 คน เข้าไปถ่ายรูปที่หลักเขตที่ 46 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหา
สำหรับความเคลื่อนไหวของฝ่ายทหารกัมพูชา ตลอดทั้งวันมีทหารจากกองพันป้องกันชายแดน 503 ตรึงกำลังห่างจากชายแดนประมาณ 200 เมตรในลักษณะแบ่งกลุ่มละ 20-30 นาย โดยมีอาวุธสงครามครบมือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น