สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในประเทศอียิปต์ได้แพร่ขยายไปทั่วประเทศ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงในหลายเมือง ซึ่งออกมารวมตัวเรียกรร้องให้ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัก ที่ครองอำนาจมายาวนาน 30 ปี ลาออกจากตำแหน่ง
กลุ่มผู้ชุมนุมได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างชัดเจนหลังการประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิมในวันที่ 28 มกราคม
พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ชุมนุมที่เมืองสุเอซถูกสังหารระหว่างการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ในกรุงไคโร ตำรวจได้ฉีดน้ำและยิงแก๊ซน้ำตาสลายฝูงชน ซึ่งโต้ตอบเจ้าหน้าที่ด้วยการขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ และมีรายงานด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางเมืองที่ยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง
ที่นอกมัสยิดเมืองกีซ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำร้ายกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งพยายามปกป้องคุ้มกันนายโมฮาเหม็ด เอลบาราดาย ผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศ ซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ
นับตั้งแต่การชุมนุมที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยแล้ว 7 ราย และมีผู้ชุมนุมอีกประมาณ 1 พันคน ที่ถูกจับกุม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เตือนที่จะใช้ "มาตรการเด็ดขาด" กับผู้ชุมนุม รวมทั้งทำการบล็อกอินเตอร์เน็ตและบริการโทรศัพท์มือถือ ที่เป็นแหล่งนัดหมายสำคัญของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง
นอกจากนั้น บีบีซีรายงานด้วยว่ามีผู้สื่อข่าวบีบีซี ภาคภาษาอารบิก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบของอียิปต์จับกุมและทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับรัฐบาลฝรั่งเศสที่ออกมาระบุว่า มีผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศส 4 คน ที่ถูกจับกุม ขณะรายงานข่าวการชุมนุมอยู่ ณ กรุงไคโร
ล่าสุด รัฐบาลอียิปต์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรุงไคโร เมืองอเล็กซานเดรีย และเมืองสุเอซ เพื่อเป็นมาตรการระงับยับยั้งการชุมนุมประท้วงที่ลุกลามไปทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น