สถานพินิจฯปล่อยตัวสาว16ซิ่งเก๋งชนรถตู้ดับ9
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมงในคดีสาววัย 16 ปีซิ่งเก๋งซีวิคชนรถตู้บนโทลล์เวย์ และมีผู้เสียชีวิต 9 ศพนั้น นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาสาววัย 16 ปี เปิดเผยว่า ตนและลูกสาวยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากเป็นไปได้ก็พร้อมจะเดินทางไปเยี่ยมผู้เสียหายทุกคน อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของตนมีโรคประจำตัวต้องกินยาเป็นประจำดังนั้นคงไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้น ยอมรับว่าลูกสาวตนไม่มีทั้งใบขับขี่ของประเทศไทยหรือใบขับขี่ของต่างประเทศ เมื่อถามว่าลูกสาวได้ให้ปากคำอย่างไรกับเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯบ้าง นางลัดดาวัลย์ ปฏิเสธที่จะพูดถึงในรายละเอียดพร้อมย้ำว่ารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และชี้แจงถึงกรณีที่ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรกว่าเป็นเพราะลูกสาวยังรู้สึกช็อคต่อเหตุการณ์และได้รับบาดเจ็บ ส่วนเรื่องการบวชชีนั้นคงต้องหารือกันอีกครั้ง
นางลัดดาวัลย์ กล่าวต่อว่า ลูกสาวของตนคงต้องเรียนต่อในประเทศ เนื่องจากมีโรคประจำตัวไม่สะดวกที่จะนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องการยืมรถเพื่อนมาขับนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง
ด้านนายพิทยา ปักเข็ม ทนายความ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คุมประพฤติและเจ้าที่สังคมสงเคราะห์ได้สอบปากคำเยาวชนที่กระทำผิดและผู้ปกครอง ซึ่งในส่วนของเด็กนั้นเบื้องต้นรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่สภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็มีโปรแกรมไปบวชชี แต่ยังไม่กำหนดวัน-เวลา และสถานที่ ส่วนเรื่องคดีความเป็นหน้าที่ของนักงานสอบสวน โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) น้องยังไม่พร้อมจะพูดกับสื่อมวลชนและสังคม คาดว่าต้องให้เวลาอีกสักระยะ ส่วนเรื่องใบขับขี่ตนยังไม่ได้สอบถามในรายละเอียด จากนี้คงต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำก่อนจึงค่อยหารือในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ สาวซีวิคพร้อมมารดาพยายามหลบเลี่ยงสื่อมวลชน โดยสาวซีวิคถูกพาตัวออกไปขึ้นรถซึ่งจอดคอยอยู่ด้านหน้าสถานพินิจฯ ในขณะที่มารดาเป็นผู้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมงในคดีสาววัย 16 ปีซิ่งเก๋งซีวิคชนรถตู้บนโทลล์เวย์ และมีผู้เสียชีวิต 9 ศพนั้น นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาสาววัย 16 ปี เปิดเผยว่า ตนและลูกสาวยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากเป็นไปได้ก็พร้อมจะเดินทางไปเยี่ยมผู้เสียหายทุกคน อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของตนมีโรคประจำตัวต้องกินยาเป็นประจำดังนั้นคงไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้น ยอมรับว่าลูกสาวตนไม่มีทั้งใบขับขี่ของประเทศไทยหรือใบขับขี่ของต่างประเทศ เมื่อถามว่าลูกสาวได้ให้ปากคำอย่างไรกับเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯบ้าง นางลัดดาวัลย์ ปฏิเสธที่จะพูดถึงในรายละเอียดพร้อมย้ำว่ารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และชี้แจงถึงกรณีที่ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรกว่าเป็นเพราะลูกสาวยังรู้สึกช็อคต่อเหตุการณ์และได้รับบาดเจ็บ ส่วนเรื่องการบวชชีนั้นคงต้องหารือกันอีกครั้ง
นางลัดดาวัลย์ กล่าวต่อว่า ลูกสาวของตนคงต้องเรียนต่อในประเทศ เนื่องจากมีโรคประจำตัวไม่สะดวกที่จะนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องการยืมรถเพื่อนมาขับนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง
ด้านนายพิทยา ปักเข็ม ทนายความ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คุมประพฤติและเจ้าที่สังคมสงเคราะห์ได้สอบปากคำเยาวชนที่กระทำผิดและผู้ปกครอง ซึ่งในส่วนของเด็กนั้นเบื้องต้นรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่สภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็มีโปรแกรมไปบวชชี แต่ยังไม่กำหนดวัน-เวลา และสถานที่ ส่วนเรื่องคดีความเป็นหน้าที่ของนักงานสอบสวน โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) น้องยังไม่พร้อมจะพูดกับสื่อมวลชนและสังคม คาดว่าต้องให้เวลาอีกสักระยะ ส่วนเรื่องใบขับขี่ตนยังไม่ได้สอบถามในรายละเอียด จากนี้คงต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำก่อนจึงค่อยหารือในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ สาวซีวิคพร้อมมารดาพยายามหลบเลี่ยงสื่อมวลชน โดยสาวซีวิคถูกพาตัวออกไปขึ้นรถซึ่งจอดคอยอยู่ด้านหน้าสถานพินิจฯ ในขณะที่มารดาเป็นผู้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น