ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะครู นักเรียน โรงเรียนภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 1,000 คน ได้พากันเดินเท้าจากโรงเรียน เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร (กม.) พร้อมถือป้ายข้อความต่างๆ อาทิ “ภัทรบพิตรชื่อนี้เป็นมงคล หากใครลบหลู่ ขอให้มีอันเป็นไป” มาชุมนุมประท้วงที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เห็นด้วยกับทางจังหวัดฯ หลังมีหนังสือ ลงนามโดย นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2554 แจ้งไปยัง ผู้อำนวยการโรงเรียนภัทรบพิตร
ระบุว่า ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาเห็นสมควรให้โรงเรียนภัทรบพิตร ดำเนินการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการศึกษาของจังหวัดฯอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน
ทำให้คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าของโรงเรียนส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจ พากันมาชุมนุมยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เนื่องจากไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะเหตุใด จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” เป็นโรงเรียน “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” อ้างเพียงว่าเพื่อเพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาไตร่ตรองอย่างแท้จริงแล้ว ไม่ว่าทราบเหตุผลที่แท้จริง คืออะไร
ทั้งนี้ เพราะชื่อ “ภัทรบพิตร” มาจาก “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ บนยอดเขากระโดง ซึ่งแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อันหมายถึง องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ซึ่งชื่อนี้เป็นมงคลยิ่งนัก ทั้งความหมายและที่มา หากจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” ก็เปรียบเสมือนเปลี่ยนชื่อ “พระสุภัทรบพิตร” บนเขากระโดง
อีกทั้ง ยังเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีตำนานมายาวนาน มีอายุกว่า 30 ปี มีลูกศิษย์ ลูกหามากมาย ผลิตเยาวชนของชาติมหาศาล คนเหล่านี้จะบอกลูกหลาน ในอนาคตอย่างไร ว่าเรียนจบมาจากโรงเรียนอะไร การจะเปลี่ยนแปลงชื่อจะทำเพียงคนกลุ่มเดียวที่อยู่รอบข้างๆ โรงเรียนได้อย่างไร ศักดิ์ศรีการเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สู้ศักดิ์ศรีความเป็น “สวนกุหลาบ” ไม่ได้ตรงไหน
ครู บุคลากรโรงเรียนภัทรบพิตร จากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่มีความสามรถพัฒนาการสอน การจัดกิจกรรมให้นักเรียนเชียวหรือ การเป็นเครือข่ายกัน จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนหรือไม่ ทำไมไม่ให้ “สวนกุหลาบ” เปลี่ยนเป็น “ภัทรบพิตร” บ้าง จึงพากันเดินทางมาประท้วงการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน พร้อมยืนยันจะใช้เดิมคือ “ภัทรบพิตร” ตลอดไป
ระบุว่า ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาเห็นสมควรให้โรงเรียนภัทรบพิตร ดำเนินการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการศึกษาของจังหวัดฯอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน
ทำให้คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าของโรงเรียนส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจ พากันมาชุมนุมยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เนื่องจากไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะเหตุใด จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” เป็นโรงเรียน “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” อ้างเพียงว่าเพื่อเพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาไตร่ตรองอย่างแท้จริงแล้ว ไม่ว่าทราบเหตุผลที่แท้จริง คืออะไร
ทั้งนี้ เพราะชื่อ “ภัทรบพิตร” มาจาก “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ บนยอดเขากระโดง ซึ่งแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อันหมายถึง องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ซึ่งชื่อนี้เป็นมงคลยิ่งนัก ทั้งความหมายและที่มา หากจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” ก็เปรียบเสมือนเปลี่ยนชื่อ “พระสุภัทรบพิตร” บนเขากระโดง
อีกทั้ง ยังเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีตำนานมายาวนาน มีอายุกว่า 30 ปี มีลูกศิษย์ ลูกหามากมาย ผลิตเยาวชนของชาติมหาศาล คนเหล่านี้จะบอกลูกหลาน ในอนาคตอย่างไร ว่าเรียนจบมาจากโรงเรียนอะไร การจะเปลี่ยนแปลงชื่อจะทำเพียงคนกลุ่มเดียวที่อยู่รอบข้างๆ โรงเรียนได้อย่างไร ศักดิ์ศรีการเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สู้ศักดิ์ศรีความเป็น “สวนกุหลาบ” ไม่ได้ตรงไหน
ครู บุคลากรโรงเรียนภัทรบพิตร จากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่มีความสามรถพัฒนาการสอน การจัดกิจกรรมให้นักเรียนเชียวหรือ การเป็นเครือข่ายกัน จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนหรือไม่ ทำไมไม่ให้ “สวนกุหลาบ” เปลี่ยนเป็น “ภัทรบพิตร” บ้าง จึงพากันเดินทางมาประท้วงการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน พร้อมยืนยันจะใช้เดิมคือ “ภัทรบพิตร” ตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น