วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.00 น. นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และทีมทนายความ ได้เดินทางมายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 3 ล้านบาท และสำเนายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน กทม. และปริมณฑล หนังสือสำเนาคำแนะนำของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ และสำเนาคำแนะนำของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ที่ให้เขียนคำร้องขอปล่อยตัว 7 แกนนำ คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.พ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ตามสิทธิมนุษยชน เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว 7 แกนนำ นปช. ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีคนเสื้อแดงประมาณ 50 คนติดตามมาให้กำลังใจ
โดยคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ระบุว่า ขณะจำเลยที่ 3,4,5,6,7,8 และ10 รวม 7 คน เป็นผู้ต้องหาเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาตรวมทั้งเคยยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์แต่ศาลยกคำร้อง โดยให้เหตุผล เป็นทำนองเดียวกันว่า ข้อหาตามคำร้องมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงจะหลบหนี ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2553 จำเลยทั้ง 7 คน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาต ให้เหตุผลว่ากรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ทั้งนี้จำเลยทั้ง 7 คนเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์ของประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม จึงยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเหตุผลคือ 1.สถานการณ์ภายในประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ ดังจะเห็นได้จาก เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีหรือ ครม.ได้ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งปทุมธานีและสมุทรปราการ 2.ขณะนี้ทุกฝ่ายในประเทศรวมทั้งนานาชาติได้เรียกร้องให้มีการปรองดอง เพื่อคืนความสงบสันติสุขให้กับสังคมโดยเร็ว เห็นได้จากรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย เพื่อให้สาธารณชนได้ทราบ เพื่อนำไปสู่แผนงานและวิธีการปรองดองแห่งชาติ 3. จำเลยทั้ง 7 คน เห็นว่าประเทศชาติควรจะได้รับการฟื้นฟูและเข้าสู่กระบวนการปรองดองเพื่อความสมานฉันท์ 4. หากศาลอนุญาตให้ประกันตัว นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการปรองดอง แล้วยังเป็นการแสดงให้ถึงความจริงใจว่าสังคมให้ความสำคัญกับการสร้างความสมานฉันท์ โดยทางแกนนำนปช.ทั้ง 7 คน พร้อมที่จะเข้าร่วมไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรองดอง ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง และยืนยันจะไม่หลบหนีหากได้ปล่อยตัวชั่วคราว
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ศาลได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพวกจำเลย โดยระบุเหตุผลไว้ชัดเจนแล้ว กรณีจึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
ภายหลังนางธิดา ประธานนปช. กล่าวว่า แม้ศาลจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว 7 แกนนำ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ม.ค.นี้ เพราะได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงแต่เมื่อแกนนำไม่ได้ประกัน ก็อาจจะทำให้ผู้ชุมนุม นปช.เกิดความกดดันมากขึ้น ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวก็เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำ นปช. และต้องการให้เกิดความยุติธรรม
ด้านนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวแกนนำทั้ง 7 คน แต่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงให้ยกคำร้อง โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเยี่ยมแกนนำ นปช.ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อปรึกษาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เบื้องต้นจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งตามขั้นตอนภายใน๑๕ วัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น