คลิปอียิปต์จราจล "ไล่ประธานาธิบดีเผด็จการ"

A security crackdown in Egypt, after fury over poverty and inequality, led to the biggest anti-government rallies in decades against the 30-year-rule of President Hosni Mubarak.

Egyptian police have moved in on groups of protesters in Cairo and Suez on Wednesday, enforcing a ban on demonstrations enacted following mass rallies a day earlier.

Hundreds of people had gathered at the headquarters of the journalists' syndicate, before police moved in, firing tear gas to break up the rally.

Al Jazeera's Rawya Rageh reports from the Egyptian capital, Cairo.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ม.ค. อียิปต์ต้องเผชิญสถานการณ์วิกฤตการเมืองหลังจากประชาชนหลายหมื่นคน ต่างแห่ออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งครองอำนาจเป็นผู้นำประเทศยาวนานกว่า 30 ปี ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยประชาชน 20,000-30,000 คน ได้รวมกันชุมนุมประท้วงบริเวณจัตรุส"ทาห์เรีย"ในกรุงไคโรเมืองหลวง และได้เคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภา ก่อนจะถูกตำรวจยิงเครื่องฉีดน้ำเข้าใส่ โดยตำรวจได้เข้ามาควบคุมพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วงเวลา01.00 น.และได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง ส่งผลให้ผู้ประท้วงกระจัดกระจายไปตามถนนหนทางต่าง ๆ ขณะที่เหตุปะทะได้ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 3 ราย

รายงานระบุว่า การประท้วงนี้ยังมีขึ้นตรงกับวันตำรวจแห่งชาติของประเทศ โดยที่กรุงโคไร กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ได้ฉีกภาพโปสเตอร์ของนายมูบารัค และนายฮาบิบ อัล แอดบี้ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้สันทัดกรณีระบุว่า เหตุประท้วงขับไล่ผู้นำอียิปต์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลียนสถานการณ์วิกฤตการเมืองในตูนิเซีย ที่มีการขับไล่อดีตประธานาธิบดีไซเน เอล อบิไดน์ เบน อาลี ด้วยสาเหตุไม่พอใจหลายอย่าง เช่น การคอรัปชั่น ความยากจน การว่างงาน และขาดเสรีภาพทางสังคม

ขณะที่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอียิปต์ได้เรียกร้องเงื่อนไข 4 ข้อต่อรัฐบาล ได้แก่ ขอให้นายมูบารัคลาออก,ให้รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด มาห์มุด โมฮัมเหม็ด นาเซฟ ลาออก,ยุบสมัชชาประชาชน และกำหนดวันเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการสนับสนุนของประชาชน

ส่วนพรรคฝ่ายค้านอียิปต์ ยังได้เรยกร้องให้ประธานาธิบดีมูบารัค และนายกาเมล บุตรชาย ไม่ลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้นำประเทศอีก ยุบสมัชชาประชาชน และยกเลิกกฎหมายฉุกเฉิล และปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง

รายงานระบุว่า การชุมนุมประท้วงยังเกิดขึ้นทั่วอียิปต์ ในหลายเมือง ได้แก่ เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ซึ่งมีผู้ประท้วง 20,000 คน เมืองแมนซูร่า ซึ่งมีการโบกธงและเรียกร้องให้ประชาชนมีเสรีภาพมากขึ้น รวมทั้งเมืองแมนซูร่าและทันต้า และเมืองอัสวาน และอัสสิอัต ทางตอนใต้ของประเทศด้วย