วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

"จิตภัสร์-อดีตแจกปฏิทินโป๊ในทำเนียบ" โผล่ "ประกาศก่อม็อบต้าน "นิติราษฏร์"

น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ม.ค.เวลา 12.00 น. ตนขอเชิญชวนไปยังคนรุ่นใหม่ และผู้มีใจรักในสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มารวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่ออ่านแถลงการณ์แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน และรณรงค์ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ ที่เสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อสถาบัน แม้ตนจะเป็นคนรุ่นใหม่โตมาไม่ทันได้เห็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนัก แต่พ่อและแม่ของตนก็สั่งสอนให้พวกเราจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน

โดยในการรวมตัวกันครั้งนี้ตนได้เชิญชวนผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวด้วย และได้รับเสียงตอบรับในการเข้าร่วมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา กลุ่มเฟซบุ๊คเรารักในหลวง รวมทั้งยังมีนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี เข้าร่วมด้วย ซึ่งตนและกลุ่มคนรุ่นใหม่จะร่วมลงชื่อกับกลุ่มเสื้อหลากสีในการคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย โดยการดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์

ก่อนหน้านี้ ข่าวคราวของจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หายเงียบไปจากสื่อฯ หลังจากเมื่อสมัยรัฐบาล ปชป. น.ส.จิตภัสร์ เป็นข้าราชการการเมือง ได้เคยฉาวโฉ่จนต้องลาออก จากการเอาปฏิทินนางแบบโป๊ ลีโอ มาแจกให้สื่อและคนทั่วไปในทำเนียบรัฐบาล จนเสียหายต้องลาออกไปทันที โดยมีข่าวดังนี้


"เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นำหนังสือลาออกของ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ตกเป็นข่าวนำปฏิทินวาบหวิวของเบียร์ลีโอมาแจกจ่ายภายในทำเนียบรัฐบาล"

โดยหนังสือลาออกของ น.ส.จิตภัสร์ ระบุว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะนำปฏิทินไปแจกจ่าย แต่เป็นเพราะ มีพี่ ๆ หลายคนสนใจปฏิทินนี้ ประกอบกับเห็นว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้นำติดรถมา ระหว่างนั้นพี่ ๆ สื่อมวลชนหลายคนเห็นและเข้ามาขอปฏิทินด้วย ดิฉันก็ให้กับทุกคน โดยยอมรับว่าไม่ทันได้คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งถือเป็นความไม่รอบคอบของดิฉันเอง จนทำให้ส่งผลกระทบตามมามากมาย ดิฉันรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้ตัวเองกับครอบครัวได้รับผลกระทบแล้ว ยังส่งผลให้ผู้ใหญ่หลายคนที่ดิฉันนับถือพลอยเสื่อมเสียไปด้วย

ดังนั้น แม้การกระทำครั้งนี้จะเป็นความพลาดพลั้งเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาเป็นข้ออ้างปฏิเสธความรับผิดชอบจากการกระทำของตัวเอง ดิฉันขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด เพื่อนำไปปรับปรุงตัวเอง พร้อมกันนี้ ดิฉันกราบขอโทษไปยังประชาชนทั้งประเทศที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่เหมาะสมขึ้นในทำเนียบรัฐบาล ดิฉันจึงขอแสดงรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2552 บทเรียนครั้งนี้เป็นสิ่งมีค่ามากและจะเป็นเครื่องเตือนสติว่า ทุก ๆ การกระทำต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบ และหวังว่าสังคมการเมืองจะยังเปิดโอกาสให้ดิฉันได้พิสูจน์ตัวเองในภายภาคหน้า

ขณะเดียวกัน นายศิริโชค กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เห็นข่าวนี้ แต่ก็ได้แสดงความเป็นห่วงกับเรื่องนี้ และมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้มีการบีบบังคับหรือกดดันให้ น.ส.จิตภัสร์ ออกจากตำแหน่ง แต่ น.ส.จิตภัสร์ ตัดสินใจลาออกเอง ตนเพียงทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าแม้ไม่ใช่การกระทำของรัฐบาล แต่มันเกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาล ก็ต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ จะปฏิเสธไม่ได้ และในเบื้องต้น น.ส.จิตภัสร์ ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ในส่วนของรัฐบาลเองก็ต้องทบทวน และต้องระมัดระวังรอบคอบว่าหากจะให้ใครมาทำงานก็คงดูให้มันดีกว่านี้ ในแง่ของการเป็นพี่เลี้ยงที่ดี

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าข้าราชการการเมืองคนอื่นไปขอรับปฏิทินดังกล่าวด้วยได้ตรวจสอบหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า เราไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าใครไปรับบ้าง แต่ต้องดูข้อเท็จจริงในแง่ข้อกฎหมายว่าคนรับมีความผิดหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่ น.ส.จิตภัสร์ ได้ลาออกแล้ว สำหรับคนที่อายุ 24 ปี ถือว่าเป็นความรับผิดชอบที่สูงพอสมควร

ไม่มีความคิดเห็น: