วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

เปิดใจ "ลูกตาล-จริญญา หาญณรงค์" กับรักใหม่ "เกียรติ สิทธิอมร"


‘ลูกตาล-จริญญา หาญณรงค์’ หัวใจที่ถูกพลิกฟื้นเพราะความรัก
วันที่ 27 ธันวาคม 2011

รักครั้งใหม่กับ “คุณเกียรติ” เป็นอย่างไรบ้างคะ

“ดีค่ะ มีความสุขดี ‘คุณเกียรติ’ ทำให้เรา ยิ้มได้ทุกวัน ทำให้เรามีความสุข สำคัญคือให้เกียรติเรามาก เห็นเรามีคุณค่าเสมอต้นเสมอปลาย แคร์ความรู้สึกเรา จะทุกข์จะสุขอยู่ข้างๆ เราตลอด”

ทั้งสองคนไปเจอกันได้ยังไงคะ

“พี่ไปงานผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง พี่ไปกับเพื่อนรุ่น พี่ แล้วตอนนั้นเพื่อนเราอาจจะคิดว่าเราเหงา เราเศร้า ทุกคนที่เจอเรา ก็พยายามจะดึงเราให้หลุดออกไปเจอสังคมบ้าง ก็เลยมีโอกาสได้เจอ ‘คุณเกียรติ’ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้จักว่าชื่ออะไร แค่คุยทักทายกันนิดหน่อย หลังจากนั้นประมาณ 5 เดือน 6 เดือน ก็มีโทรศัพท์มาหา ก็ตื่นเต้นนะ เพราะว่าตอนที่พี่เจอ ‘คุณเกียรติ’ ครั้งแรก ก็คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้ดูดี ดูใจดี ดูสุภาพ ก็อยากรู้จักเหมือนกัน เป็นพี่ เป็นเพื่อน”

แล้วทำไมถึงเปิดใจรับ “คุณเกียรติ” เข้ามาในชีวิตล่ะคะ

“ก็มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น ได้เจอกัน บ้าง ยิ่งได้คุย ยิ่งได้รู้จัก ก็รู้สึกดี เผอิญไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ประหลาดมากเลย อาจจะเป็นช่วงจังหวะของชีวิตก็ได้นะ เจอประโยคดีๆ ประโยคหนึ่ง เค้าบอกว่า ‘เปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย อย่าปิดตัวเอง เพียงเพราะวันวานที่แสนเศร้า โลกนี้ยังมีคนอีกมากมายให้รู้จักและพร้อมที่จะเดินเข้ามาในชีวิต เพื่อให้เราได้เรียนรู้ และก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน’ บอกไม่ถูกหรอกนะ ทั้งชีวิตไม่เคยเจอคนแบบนี้เลย

จริงๆ ตอนนั้นก็มีคนเข้ามาในชีวิตเยอะ หรือชีวิตพี่กำลังจะเบิกบานอีกรอบหนึ่งรึเปล่า โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว (หัวเราะ) แค่สงสัยว่า เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้นในชีวิตตัวเอง ทำไมคนนี้ก็โทร.มาหาเรา ทำไมคนนี้ก็มาคุยกับเรา ทำไมคนนั้นคนนี้เข้ามาเยอะนะ อันนี้ต้องยอมรับว่าเยอะจริงๆ จนมีความรู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดปกติ
บางทีมานั่งทำงานที่โต๊ะก็ยังมีคนมาหา มานั่งเฝ้า เอาดอกไม้มาให้ เอาขนมมาให้ มานั่งเฝ้าอยู่อย่างนี้ เราก็เออดีๆๆๆ (หัวเราะ) ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครรอได้ก็รอไป มีทั้งพ่อม่ายลูกติด พ่อม่ายเมียเผลอ พ่อม่ายนู่นนี่นั่น เยอะแยะไปหมดเลย คนทำไมไม่รู้จักพอเรื่องนี้นะ เลยทำให้เราคิดอีกไง เพราะช่วงนั้นจะเข้าวัดมากเลย มีเพื่อนคนหนึ่งน่ารักมากเลย ชื่อ ‘นาง’ พาเราไปวัดตลอด คนนี้เป็นคนเดียวที่พอเห็นเราซึมเศร้า ตาลไปนั่งสมาธิหน่อยมั้ย ตาลไปวัด ไปทำบุญกัน แล้วเค้าจะให้คำที่สอนเราดีมาก

บางอย่างเค้าแค่เห็นหน้าเรา เค้าก็รู้แล้วนะ บอกคิดอะไรมากมาย ชีวิตคนเราจะให้ไปแบกหินใหญ่ๆ ก้อนเดียวคงไม่ได้ รอให้หินก้อนใหญ่ๆ นั้นมันกัดมันกร่อนเหลือเป็นหินก้อนเล็กๆ ก่อนมั้ย แล้วเราค่อยแบกเป็นก้อนเล็กๆ ถึงจะไหว อุ้ย! เพื่อนคนนี้ดีจริงๆ ทำให้เราคิดถึงผู้ชายหลายๆ คน บางคนนะไร้สาระ นอกเรื่อง นอกประเด็น ชีวิตพี่คือลูก คือพ่อแม่ พี่ไม่เคยเรียนรู้หรือเปิดใจกับใครสักคนที่เข้ามาในชีวิตในช่วงนั้น พี่แค่มองผ่านๆ ใช้อาศัยดูโหงวเฮ้งเอา ไม่ผ่านๆ คนนั้นไม่ได้ คำพูดคำจา หรือท่าทาง แต่ทำไมไม่รู้ถึงเปิดกับ ‘คุณเกียรติ’ พี่เปิดตอนไหนไม่รู้ ประตูหัวใจเราแง้มตอนไหนก็ไม่รู้ เหมือนซึมมากับทรายไม่รู้ตัวเลยจริงๆ
ซึ่งการที่มี ‘คุณเกียรติ’ เข้ามาเป็นเรื่องดีนะ ไม่อย่างนั้นชีวิตเราก็จ้ม...จมอยู่กับอดีต ต่อว่าต่อขานตัวเองใหญ่เลย ชีวิตทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ‘คุณเกียรติ’ พูดเตือนสติพี่มาประโยคหนึ่ง ‘อดีตนะย้อนกลับไม่ได้ แต่เราควรทำปัจจุบันให้ดี’ อุ้ย! ในกระดาษที่เราเขียนแปะติดผนังห้องไม่มีคำๆ นี้ นี่นา ก็จดๆๆๆ ซึ่งก็ดีนะ ‘คุณเกียรติ’ สอนให้พี่เลิกคิดแบบนั้น บอกว่าคิดแบบนั้นไปเราก็ไม่ได้อะไรไม่มีประโยชน์ มีแต่เสียใจ ร้องไห้ ก็จริงนะ”

ทุกวันนี้เหมือนอยู่กันแบบเอื้ออาทรต่อกัน

“เอื้อความคิด เอื้อความรู้สึกที่ดีต่อกันค่ะ แต่ ‘คุณเกียรติ’ เป็นผู้ชายที่ทำให้เรารู้สึกดีมาก คือแบบว่าเสียใจร้องไห้ อ้าว! ร้องไห้ทำไม ร้องแล้วได้อะไร พี่เป็นคนชอบคิด มาก ชอบโทษตัวเอง ‘คุณเกียรติ’ บอกว่าคิดแล้วได้อะไร เสียเวลาเปล่าๆ อย่างนี้เป็นต้น ชีวิตคนเราไม่ได้หยุดแค่นี้นะ ‘คุณเกียรติ’ จะคอยสอน จะบอก จะเตือน คือเป็นความจริงของชีวิต พอพี่มานั่งทบทวนก็ใช่ อย่างการที่เราจะไปเชื่อคนง่ายๆ ก็ไม่ดีนะ ขนาดคบหา ‘คุณเกียรติ’ พี่ยังพา ‘คุณเกียรติ’ ไปดูหมอตั้ง 5 หมอเลย (หัวเราะ) คือทำขนาดนั้นนะ เค้าก็ยังไปกับเรา ยอมทุกอย่าง”

ดูเหมือน “พี่ตาล” ยังหวาดระแวงอยู่เลยในช่วงแรกๆ

“ยอมรับนะว่าหวาดระแวง ยอมรับว่า ความมั่นคงในใจพี่ไม่มีเลย เป็นศูนย์กับการ ที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน ในใจมีแต่เรื่อง ลูก เรื่องแบบนี้พี่ปิดไปเลย พี่คิดว่าจะอยู่อย่าง นี้ไปตลอดด้วยซ้ำ ก็คิดว่าไม่นะ เพราะกลัวว่า ใครจะมานั่งมองว่าเราหนีเสือปะจระเข้ หรือใครมานั่งมองว่า อู้ย...โดนอีกแล้ว ไม่อยากให้พ่อกับแม่เสียใจอีก โชคดีที่เราอ่านหนังสือหลายเล่ม เหมือนเรามีครูหลายๆ คน แล้ววันหนึ่งเราก็มีครูที่พูดได้ ยิ้มได้ คุยได้ มีอะไรปรึกษาได้ แล้วเวลาถาม ‘คุณเกียรติ’ พี่ก็คิดเสมอนะว่า จะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ท้ายที่สุด ‘คุณเกียรติ’ ก็พิสูจน์ได้ว่ามีความคิดที่จริงใจกับพี่ เวลามีอะไรเกิดขึ้นยืนอยู่ข้างๆ พี่เสมอ

พี่จำได้เลยวันที่เซ็นทรัลเวิล์ดไฟไหม้ พี่ตาลหมดเงินไปเยอะมาก ซึ่งกว่าเราจะทำงาน เก็บเงินได้แล้วก็เอาไปลงทุน อยู่ดีๆ เพิ่งจะเปิด วันที่สอง วันที่สามมาเลย ไฟไหม้เสียหายกัน ไป ร้องไห้อีกแล้ว เรามีความรู้สึกว่า เฮ้อ.... ทำไมชีวิตเราเป็นแบบนี้ พี่เค้าก็ปลอบใจเรา ให้กำลังใจ เป็นคนบอกพี่ตาลเองว่า ‘มีพี่อยู่ทั้ง คนไม่ต้องห่วงอะไร พี่อยู่ข้างๆ น้องเสมอ หันมาก็เจอ จะกลัวอะไรชีวิตนี้’ ซึ้งมั้ยล่ะ น้ำตาไหลเลย

ผู้ชายคนนี้ทำให้พี่ยิ้มทั้งน้ำตา แต่เป็นน้ำตาของความสุขนะ ‘คุณเกียรติ’ พูดว่า ‘พี่อยากเห็นน้องยิ้มทุกวัน มีความสุขทุกวัน’ ‘คุณเกียรติ’ ทำอย่างนั้นจริงๆ เหมือนกันเลย พี่ก็อยากให้ครอบครัวพี่มีความสุข ยิ้มทุกวันจากสิ่งที่เราทำ แล้วอยู่ดีๆ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตพี่ ซึ่งเราเป็นลูกคนโต พี่อยากมีพี่มาก พี่อยากมีคนที่แบบโตๆ กว่าเรา พูดกับพี่แบบนี้ ดูแลเราอย่างนี้ เพราะเวลาพี่เจอทางตัน เรามีปัญหา มองไปบนสุดก็เจอพ่อเจอแม่ บางอย่างเราก็พูดไม่ได้ ปรึกษาไม่ได้ กลัวท่านเป็นทุกข์ คิดมาก แต่ผู้ชายคนนี้มาบอกกับพี่ว่า ‘พี่จะทำให้น้องยิ้มทุกวันและมีความสุขทุกวัน’ พี่ก็อืม...จริงเหรอ ในใจก็ค้านเพราะกลัว พอท้ายๆ มา 3 ปี 4 ปี อ้าว! เค้าทำให้เรายิ้มได้ทุกวันจริงๆ นะ ความฝันของเราทุกอย่างที่เราฝันที่จะทำ ‘คุณเกียรติ’ ก็เข้ามาทำความฝันของพี่ให้กลายเป็นจริงทุกเรื่องเลย บางทีก็คิดนะ ‘คุณเกียรติ’ มาจากไหน บางทีไปหยิกพี่เค้าเบาๆ คนรึเปล่า (เสียงสูง) แซวๆ เล่นนะ เป็นใครมาจากไหน ใช่คนจริงๆ ไหมเนี่ย มีใครบอกรึเปล่าให้มาหาเรา มาช่วยเรา มาแบ่งปันความสุขให้” (หัวเราะ)

น้องๆ ก็รับรู้ใช่ไหมคะ

“รับรู้ไปโดยปริยายค่ะ โดยที่พี่ไม่ต้องบอกลูกๆ เลย เพราะสิ่งที่พี่ทำอยู่ไม่ได้แบบว่า ไปบอกลูกๆ ให้ยอมรับว่า ‘แม่มีคนนี้แล้วนะ ลูกช่วยยอมรับหน่อย’ พี่ไม่เห็นแก่ตัวในเรื่องนี้ ความสุขของลูกต้องมาก่อน พี่ยอมรับในความ คิดของลูกๆ แต่ไม่ได้บอกลูกตรงๆ ลูกโตขนาด นี้เค้ารู้ ละคร หนังก็มีบอก มีวันหนึ่งได้กุหลาบ กลับมาดอกหนึ่ง ‘น้องเอเซีย’ ถามพี่ ‘ของใครเหรอค่ะแม่ ใครให้มา’ พี่ก็บอกว่า ‘เพื่อนแม่’ ลูกๆ ก็ถามต่อว่า ‘ผู้หญิง ผู้ชาย’ พี่ก็บอก ลูกว่า ‘ผู้ชาย’ ถามอีก ‘ชื่ออะไร’ เยอะมาก ก็ตอบตามจริงไป แรกๆ ก็มีกันๆ หน่อยๆ เป็นอารมณ์อยากรู้อยากเห็น พี่พูดว่าเป็นเพื่อนๆๆ ครั้งแรกที่มีโอกาสไปทานข้าวด้วยกัน พี่ก็ แนะนำ ‘นี่คุณลุงเกียรตินะ’ ลูกๆ พี่ก็แนะนำ ตัวเองทีละคน ก็น่ารักดี สิ่งที่ ‘คุณเกียรติ’ ได้พูดคุยกับลูกพี่กลืนกันได้ยังไงก็ไม่รู้ คุยกันรู้ เรื่อง ‘คุณเกียรติ’ ใจดี ดูอบอุ่น มีจิตวิทยาในการพูดคุย โดยที่ทำให้พี่รู้สึกว่าไม่ห่าง ไม่มีช่องว่างของกันและกันเลย

ขนาดเพื่อนพี่บางคนที่พี่สนิทด้วย บอกกับพี่ว่า เธอมีลูก 3 คนแล้ว ทำไมยังมีคนดีๆ เข้ามาในชีวิตเธออีก พี่ก็ต้องบอกว่าไม่รู้จริงๆ เป็นบุญมั้ง อย่างนั้นก็ทำบุญเยอะๆ สิ ของแบบนี้คือไม่รู้จริงๆ รู้แต่ว่าเราเป็นแบบนี้ ถ้าเรา มองว่าตัวเราเองเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คนมา เทน้ำร้อนแล้วกินได้มันก็น่าจะดี ไม่ใช่ผู้หญิงแบบว่าฉันไม่ทำอะไรเลย อาจจะเป็นอีกมุมหนึ่งที่เค้ามองเห็นว่าเราทำอะไร เราเป็นคนนิสัยแบบไหน เราเป็นคนไม่ถอย เราสู้มั้ง”

เรียกว่าผู้ชายคนนี้เข้ามาทำให้เราศรัทธากับความรักได้อีกครั้ง

“ใช่ค่ะ พี่ศรัทธาในความรัก ณ ปัจจุบันนี้ เพราะ ‘คุณเกียรติ’ ทำให้พี่รู้จักความรักจริงๆ ไม่ใช่รักแต่ภายนอก พี่ขอใช้คำว่าศรัทธากับ ‘คุณเกียรติ’ พี่ศรัทธาและก็เคารพในตัวของ ‘คุณเกียรติ’ ด้วยเป็นคนดี พูดจริง ทำจริง พี่เคารพในความคิดเห็นของ ‘คุณเกียรติ’...”

ด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่ใหญ่โตของ “คุณเกียรติ” มันทำให้เรามีอึดอัดบ้างไหม

“พี่ไม่อึดอัดเลยค่ะ เพราะว่าตอนแรกที่ ‘คุณเกียรติ’ เข้ามาคุยกับพี่ ก็ไม่ได้บอกว่าเป็น ใคร (หัวเราะ) และ ‘คุณเกียรติ’ ก็ไม่รู้ว่าพี่เป็นใคร และก็พี่ไม่ขวนขวายที่จะหาด้วยนะ ตอนนั้นพี่คิดว่ามาด ‘คุณเกียรติ’ น่าจะเป็นนักธุรกิจไม่น่าจะใช่นักการเมือง (พอรู้แล้วตกใจ ไหมคะ) เฉยๆ ค่ะ ยิ่งได้รู้จัก ‘คุณเกียรติ’ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ถือตัว ติดดินมาก”

เชื่อไหมว่านี่คือเรื่องบุพเพสันนิวาส

“พี่ก็เชื่อว่าอย่างนั้น วันหนึ่งพี่จำได้ พี่กำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ ไปรับลูกๆ ที่โคราช รถติดมาก พี่ก็เลยส่งเอสเอ็มเอสไปถาม ‘คุณเกียรติ’ ว่า ‘เชื่อเรื่อง บุพเพสันนิวาสหรือเปล่าคะ’ เพราะช่วง นั้นพี่เรียนหนังสือ เรียนปริญญาโทอยู่ ทำงานก็หลายอย่าง มาก ในช่วงที่เราทำงานหลายอย่างทำให้ลืมเรื่องบางเรื่องได้ แต่ทำไมผู้ชายคนนี้วนเวียนอยู่ในหัวเราตลอด เราเปิดหนังสือเรียนหน้า ‘คุณเกียรติ’ ก็ลอยมาตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรหน้า ‘คุณเกียรติ’ ก็จะลอยมาตลอด อ้าว...ล้างหน้าก็ลอยมา ทำไมพี่นึกถึงแต่หน้า ‘คุณเกียรติ’ คนเดียว หน้าที่มีแต่รอยยิ้มนะ เราก็เลยถามเค้า เค้าก็บอกว่าเค้าเชื่อนะ

คือไม่รู้จะบอกยังไง รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เดิน เข้ามาในชีวิตตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ‘คุณเกียรติ’ ทำให้พี่มีความสุขมาก แล้วความสุขก็เผื่อแผ่ไปถึงลูกๆ พี่ แค่นี้พี่เพียงพอแล้ว ชีวิตนี้คิดว่าตัวเองจะไม่มีรอยยิ้ม จะไม่ได้หัวเราะอีกแล้ว เพราะวันๆ ก็ทำแต่งานๆๆๆ พอมีผู้ชายคนนี้เข้ามาทำให้พี่รู้ว่าโลกเราก็มีอะไรที่สวยงาม ตอนนั้นเราคิดว่าโลกเราเหมือนโดน ระเบิดปรมาณู ทุกอย่างมันมืดมน ทุกคนตาย หมด แต่มีเด็กน่ารักตาแบ๊วๆ สามคนมองเรา อยู่แค่นั้นทุกวัน ก่อนหน้านั้นมองแค่นั้นแต่เรา ไม่ได้มองมุมอื่น โฟกัสแค่ตรงนั้น ลูกกับงาน
‘คุณเกียรติ’ ทำให้พี่มองโลกใบนี้ยังสวยงามน่าอยู่ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองก็มีค่านะ มีประโยคหนึ่งที่ ‘คุณเกียรติ’ บอกกับพี่ว่า ‘น้องเป็นเพชรเม็ดงาม เม็ดที่มีค่าของพี่’ คำพูดของ พี่เค้าแต่ละคำไม่ใช่คำหวานที่แบบว่าทำให้ผู้หญิงเคลิ้มไปกับประโยคเหล่านั้น เวลา ‘คุณเกียรติ’ พูดหน้าจริงจังมาก ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ พี่ก็อยากให้ชีวิตเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าพี่จะเจอมรสุมหรือมีคลื่นยักษ์ ซัดซาดอะไรมา พี่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้เค้าจะปกป้องและดูแลพี่และลูกไปตลอดชีวิต รู้สึก และสัมผัสได้อย่างนั้นจริงๆ

ชีวิตทุกวันนี้พี่ยิ้มได้ เศร้าอะไรก็แป๊บๆ พี่ตาลก็ยิ้มได้ หัวเราะได้ บางทีพี่คุยโทรศัพท์เสียงหงุงหงิงๆ ‘คุณเกียรติ’ ก็จะถามว่า เราเป็น อะไรไป ให้พี่ไปหาไหม สิ่งที่ผ่านมาเราทำพลาด แต่ปัจจุบันเค้าทำให้พี่ตาลรู้สึกว่าคนดีก็ยังมีเหลืออยู่ในโลกใบนี้นะ คนเราน่ะ ‘ถ้าไม่ทุกข์แสนสาหัสก็คงจะไม่เจอความสุขแบบสุดๆ ในชีวิต ถ้าเราไม่ร้องไห้สุดๆ แล้วเราจะรู้ไหมว่าหัวเราะสุดๆ เป็นยังไง’ แต่พี่รู้เลยว่า เราเคยร้องไห้สุดๆ แล้ววันนี้ผู้ชายคนนี้ทำให้พี่หัวเราะได้สุดๆ หัวเราะได้ดังๆ หัวเราะจนรู้สึกได้ว่านี่คือเสียงหัวเราะจริงๆ เราไม่ได้เค้นให้ออกมา เป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ อยากบอก พี่เค้าว่า ‘ยินดีที่ได้รู้จัก และขอบคุณที่เดินเข้ามาในชีวิตของตาลค่ะ’...”

“ใจ” ต้องแลกด้วย “ใจ” “รัก” ต้องแลกด้วย “รัก” ไม่ว่าคุณและเขาจะแตกต่างกันด้วยฐานะ อายุ กาลเวลา แต่มันก็จะเบ่งบานอยู่ในใจของคนสองคนอย่างไม่มีวันโรยรา นี่แหละค่ะที่เขาเรียกกันว่า “ความรัก”

ขอขอบคุณ ทีวีพูล

ไม่มีความคิดเห็น: