ออกปากว่าไม่ค่อยมีเรื่องพูดถึงพ่อมากเท่าไหร่ สำหรับ "ปณิธาน พฤกษาเกษมสุข"บุตรชายของ "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย และผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
"ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยมีเรื่องคุยกับพ่อมากนัก เพิ่งมาได้คุยกันมากขึ้นหลังจากพ่ออยู่ในคุก" ลูกชายวัย 20 ปี ของ "สมยศ" ให้ข้อมูลกับ "มติชนออนไลน์" ก่อนเริ่มบทสัมภาษณ์
"แม่เองก็ได้เพื่อนเสื้อแดงมากขึ้น หลังจากไปเยี่ยมพ่อในคุก" เขากล่าวเพิ่มเติม
และนี่คือบทสนทนาระหว่างนักศึกษากฎหมายวัย 20 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ "มติชนออนไลน์"
@ตอนนี้พ่อเป็นอย่างไรบ้าง
ก็มีป่วยบ้าง ท้องเสีย เป็นหวัด
@เรื่องคดีคืบหน้าถึงไหน
อยู่ในช่วงกำลังยื่นประกันตัว น่าจะเป็นช่วงอาทิตย์หน้า แล้วก็เป็นช่วงนัดสืบพยานของฝ่ายโจทก์ จะไปขึ้นศาลที่นครสวรรค์วันที่ 16 นี้ ใครสนใจไปฟังก็สามารถไปได้
@เยี่ยมพ่อล่าสุดเมื่อไหร่
ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพราะผมไปบวชมาระยะหนึ่ง คุณพ่อก็สบายดี แกยังถามเลยว่า "บวชทำไม" ตอนนี้ได้ข่าวว่าแกดื้อแพ่ง คือไม่ยอมย้ายไปสืบพยานทางใต้
ผมมองว่ามันเหมือนการกลั่นแกล้งด้วย เหมือนจะไปสืบพยานทั่วประเทศ ไปนู่นไปนี่ ตอนแรกว่าจะไปสระแก้ว เพชรบูรณ์ ตอนนี้จะไปนครสวรรค์ แล้วจะย้ายไปทางใต้
@ในคดีเดียวแต่ไปทั่วประเทศเลย
เป็นคำเปรียบเปรยเฉยๆ ไม่ถึงทั่วประเทศนะครับ แต่หลายจังหวัด แล้วก็คงต้องดำเนินคดีนัดสืบพยานอีกนาน เพราะว่าตอนที่ผมไปฟัง ตอนที่เขาส่งรายชื่อพยาน
พยานฝ่ายโจทก์ก็ 50 กว่าคนแล้ว ยังไม่รวมพยานฝ่ายจำเลย คือพยานฝ่ายของพ่ออีก
@ข้อหาที่โดนคืออะไร
ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ(ครับ) ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา
@ตอนสอบเข้า นิติศาสตร์ ที่ธรรมศาสตร์ได้ พ่อดีใจไหม
ผมสอบเข้าได้เป็นปีแล้ว ก่อนที่พ่อจะโดนคดีในช่วงเมษายนปีที่แล้ว ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1
@ตอนสอบได้ที่ธรรมศาสตร์ พ่อว่าอย่างไรบ้าง
ท่านก็ดีใจ ตอนแรกบอกติดที่ธรรมศาสตร์ก็ดูเฉยๆ ไม่ได้ดีใจอะไรมาก
@จะไปพบพ่ออีกครั้งเมื่อไหร่
คงเป็นวันที่ 16 ม.ค. วันนัดสืบพยานที่นครสวรรค์ ก็คงไปกับคุณแม่ เพราะว่าช่วงนี้ติดสอบ
@ติดตามข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวของคนที่ชอบหรือไม่ชอบเสื้อแดง หรือพวกที่ไม่เห็นด้วยกับพ่อบ้างไหม
ได้ติดตามบ้างครับ ก็เฉยๆ เขาก็มีความคิดของเขา มีการแสดงความคิด ถ้าไม่ไปละเมิดหรือด่าทอ หรือนำข้อมูลในแง่ลบมาใช้แสดงเพื่อสร้างความเกลียดชังเพิ่ม
แต่เขาก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็น ก็เหมือนเราเช่นกันที่มีสิทธิแสดงความเห็นว่าสิ่งใดที่เราไม่ใช่ภายใต้กรอบกติกาคือต้องวิจารณ์เพื่อความถูกต้องในสังคม
@ถ้าเป็นไปได้ อยากให้พ่อได้รับการประกันตัวหรือให้สู้คดีชนะ หรือวางเป้าหมายส่วนตัวไว้อย่างไรสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อ
ตามคำถามก็เป็นเป้าหมายทั้งหมด ขั้นแรกคือต้องได้รับการประกันตัวก่อน การสู้คดีจึงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนเขาเอาเรามาขังไว้ก่อน ทั้งๆ ที่เขายังไม่ตัดสินเราเลย ว่าเราถูกหรือผิด ยิ่งการสู้คดี หากไม่ได้ประกันตัว มันสืบพยานนาน มันไม่เหมือนคดีฆ่าคนหรืออะไรทั่วไป ซึ่งมันอยู่ในเขตพื้นที่ แต่อันนี้ค่อนข้างหลายพื้นที่ แล้วใช้เวลาสืบพยานนาน
แล้วก็มีสิทธิสู้กันในศาลอุทธรณ์ด้วย แล้วก็ฎีกาด้วย ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลายาวนานเป็นปี เมื่อเทียบกันแล้วมันเหมือนติดคุกฟรีไปก่อน ถ้าท้ายที่สุดแล้ว ศาลตัดสินว่าไม่ผิด แล้วการต่อสู้ระยะยาว ยิ่งติดคุกอีกด้วย ถูกศาลตัดสินว่าผิดก็ยิ่งรวมระยะเวลายาวนานเข้าไปอีก เพราะเราไม่ได้รับการลดโทษ มันจึงลำบากมากถ้าไม่ได้รับการประกันตัว
@ไม่ได้รับการประกันตัวก็ลำบาก
ครับ ถ้าผมมอง ผมจะมองเป็นขั้นตอนมากกว่า คือสนใจเรื่องการที่จะทำอย่างไรให้ได้รับสิทธิประกันตัว นั่นเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เรื่องการสู้คดีน่าจะเป็นเรื่องรองมากกว่า
@คิดอย่างไรกับคุณพ่อที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการเมือง ซึ่งเราได้เห็นมาแต่เด็ก
เห็นด้วย แล้วก็ภูมิใจด้วยในงานที่พ่อทำ
ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น