เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.เวลา 09.30 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบัตรเครดิตพลังงาน NGV ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน และผู้บริหารระดับสูงได้ขึ้นรถแท็กซี่ของโครงการฯ จากหน้าห้องจูปิเตอร์ 14-15 อาคารชาเลนเจอร์ พร้อมขบวนสามล้อ และรถตู้ร่วมขสมก.เดินทางมายังฮอลล์ 9 เพื่อทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งแท็กซี่ สีเขียว ทะเบียน ทศ 6018 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายสิทธิพงศ์ อ่อนเกิด อายุ 41 ปี จากอู่จ่าแดง โรงไฟฟ้าบางกรวย เป็นผู้ขับและมีนายพิชัยนั่งรถมาด้วย
อย่างไรก็ตามบรรดาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานเจ้าหน้าที่ของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี รวมทั้งผู้ที่มาร่วมงานต่างพากันจดหมายเลขทะเบียนรถที่นายกรัฐมนตรีนั่งมาเพื่อนำไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากก่อนนี้ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับนายกรฐมนตรีมักจะออกรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะหมายเลขทะเบียนรถยนต์ที่นายกรัฐมนตรีนั่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นั่งบนรถแท็กซี่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ซักถามและพูดคุยกับนายสิทธิพงศ์อย่างเป็นกันเอง และนายสิทธิพงศ์เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่มาประมาณ 10 ปี และขับรถคันดังกล่าวมา 1 ปีแล้ว รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้มีโอกาสได้ขับรถให้คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั่ง และตนจะซื้อล็อตเตอร์เลขรถคันนี้ไว้บ้างเพื่อดวงจะดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า โครงการบัตรเครดิตพลังงาน NGV เป็น 1 ในนโยบายรัฐบาลที่มีต้องการดูแลรายได้ และความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งต้องเข้าไปดูแลโครงสร้างครัวเรือน ภาระค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเชื้อเพลิง เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนของประชาชน ดังนั้น บัตรเครดิตนี้ จะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการรับลงทะเบียนแท๊กซี่ และมอบบัตรเครดิตพลังงานให้กับนายทองคำ ร่วมรักบุญ ตัวแทนผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ขณะที่นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลดูแลผู้ประกอบการแท็กซี่ โดยให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร หากราคาก๊าซ NGV ปรับขึ้น และเพิ่มจำนวนปั๊มก๊าซ NGV ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากมีการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV แล้วต้องมีการปรับราคาค่าโดยสารนั้นจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และผู้ประกอบการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น