หลังจากรายการ เจาะข่าวเด่นทางไทยทีวีสีช่อง ๓ ได้นำเสนอข่าวน้อง “ไทเกอร์” ที่เป็นเด็กอัจริยะ และมีปัญหาด้านการเงินด้วยค่าเทอมปีละ แปดหมื่นบาทกว่า แต่คุณแม่ทำสวนมะลิและโดนน้ำท่วมหมดนั้น
ต่อมาได้มีเพจ “ความเห็นอีกด้านในกรณีน้องไทเกอร์” ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งของน้องไทเกอร์ ยืนยันว่า ที่โรงเรียนที่น้องเขาเรียนนั้น ไม่ได้มีค่าเล่าเรียนแพงดังที่ระบุในรายการ ซึ่งล่าสุด ได้มีทวิตเตอร์ของอาจารย์โรงเรียนดังกล่าว ได้แจ้งสั้นๆว่าทางโรงเรียนฯและสมาคมฯ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะทำจดหมายชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อมวลชนทราบต่อไป
เว็บไซต์จึงขอนำเสนอข้อความทั้งสองด้าน ทั้งด้านของคุณแม่น้องไทเกอร์ ที่ออกรายการโทรทัศน์ และนำเสนออีกหนึ่งมุมมองของเรื่องนี้ ดังต่อไปนี้
ช่วงที่ ๑ จาก "สยามดารา และกระปุกดอทคอม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
หลังจากสยามดาราได้ตีแผ่เรื่องราวชีวิตของน้องไทเกอร์ เด็กชายธนากร พิศนุภูมิ อายุ 11 ปีอดีตดาราเด็กจากละครเรื่องฝนเหนือ ทางช่อง 7 และเคยแสดงหนังเรื่อง ผีเลี้ยงลูกคน ที่มี อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นนักแสดงนำ ปัจจุบันมีชีวิตที่ตกยาก ต้องมานั่งอ่านกลอนขอทานบริเวณป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ชัย เพื่อหาเงินค่าเทอม เพราะเห็นแม่เครียดหนักหลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ ที่ดินปลูกดอกมะลิขายจมน้ำหมดตัว
ล่าสุด วานนี้ (8 ธันวาคม) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงเจาะข่าวเด่น ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้นำ น้องไทเกอร์ พร้อมกับนางปลายรุ่ง พิศนุภูมิ มารดา ไปออกรายการ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไป และเหตุผลของการที่ น้องไทเกอร์ ต้องไปอ่านกลอนขอทานเช่นนี้
โดย น้องไทเกอร์ กล่าวด้วยอาการสะอื้นไห้ ว่า ที่ตนต้องมาอ่านกลอนขอทานเช่นนี้ ก็เพราะต้องการนำเงินมาซื้อหนังสือแคลคูลัสระดับ ม.ปลาย เนื่องจากตนต้องการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศอีกครั้ง หลังจากเคยสอบมาก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งบอกว่า อยากได้เงินไปเป็นค่าเทอม เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แต่เงินยังไม่มีจ่าย เห็นแม่เครียดจากที่ดินปลูกดอกมะลิจมน้ำหมดตัวแล้ว ก็รู้สึกสงสารแม่และอยากจะแบ่งเบาภาระบ้าง
ทั้งนี้ ในการไปขอทาน น้องไทเกอร์ ก็จะมีกล่องรับบริจาคเงินที่มีข้อความข้างกล่องที่เจ้าตัวเขียนเอง และคุณแม่ช่วยเขียนบ้าง ทำให้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของน้องไทเกอร์สูงมากถึงปีละ 80,000 บาท โดยคุณแม่บอกว่า เป็นเพราะเรียนห้องอัจฉริยะที่สาธิตฯ จุฬา พร้อมทั้งบอกว่า ยังไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรจริง ๆ หลังไร่มะลิที่ลงทุนลงแรงไป ทำเองทั้งหมด ต้องโดนน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ตอนแรกไม่รู้ว่าน้องไทเกอร์ไปเป็นขอทาน เพราะมีพี่ที่รู้จักบอกว่าจะช่วยเหลือ ก็พาน้องไทเกอร์ออกไป แต่ปรากฏมารู้ภายหลังว่าลูกต้องไปขอทาน รู้สึกใจหายมาก สงสารลูก ไม่คิดว่าลูกอายุแค่นี้ต้องมาทำขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากออกรายการเรียบร้อยแล้ว คุณสรยุทธ ได้พาน้องไทเกอร์ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา อาคารมาลีนนท์ ไว้ด้วย เพื่อเป็นช่องทางรับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญที่มีความประสงค์ช่วยเหลืออดีตดาราเด็กตกอับนี้ด้วย
ทางด้าน คุณแม่ของน้องไทเกอร์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่เริ่มได้รับการช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ได้ออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ รู้สึกสดชื่น และมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตต่อไป ไม่รู้สึกว่าอยู่ในโลกมืดกับลูกชายอีกต่อไปแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ลูกชายตนจะได้เรียนหนังสือต่อไป ได้มีทุนการศึกษา และซื้ออุปกรณ์การเรียน ไม่ต้องอยู่อด ๆ อยาก ๆ ตั้งใจเรียนหนังสือ หาเลี้ยงตนเอง สามารถยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตนเองได้
หลังจากกระแสข่าวดังขึ้น ผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียน และคนไกล้ชิดได้นำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่ง โดยนำเสนอผ่านหน้าเพจ "ชี้แจงกรณีน้องไทเกอร์ (ข้อมูลยังไม่เป็นทางการ)" ดังนี้
“ขอชี้แจงกรณีน้องไทเกอร์ดาราเด็ก ที่ต้องออกมาขอทาน”
โดยขออนุญาตชี้แจงในฐานะศิษย์เก่าที่ได้สอบถามกับอาจารย์ในโรงเรียนแล้ว ประกอบกับความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนที่ได้อยู่มาตลอด๑๒ปี
กรณีตามข่าวที่บอกว่า มีการเก็บค่าเทอม ๘หมื่นบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเงินจำนวนดังกล่าวคือ ค่าบำรุงโครงการที่น้องเค้าอยู่ ไม่ใช่ค่าเทอม
นอกจากนี้ เงินทั้งหมด รวมทั้งค่าเทอม(หมื่นกว่าบาท)และเงินบำรุงโครงการ ทางโรงเรียนออกให้กับน้องเขาทั้งหมด มาตั้งแต่ประถม
นอกจากที่จะเรียนฟรีแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษอีกคือ ได้รับเบี้ยเลี้ยงสัปดาห์ละ ๕๐๐บาทจากทางโรงเรียน มีอาหารเช้า(อาจารย์ประจำชั้นเลี้ยง) และเย็น(จากทางโรงเรียน)ให้รัปประทานฟรีเพิ่มจากกลางวัน(อาหารโรงเรียน)
โดยทั้งหมดนี้เพราะน้องเขาเรียนอยู่ในโครงการประมาณว่าโครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษตั้งแต่ประถม ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีผลงานน่าชมเชยอะไรแล้ว
ซึ่งปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ หลังจากที่น้องข้ามฟากจากโรงเรียนประถมมาโรงเรียนมัธยม(ผู้บริหารคนละชุดกัน) ผู้ปกครองของน้องตกลงกับทางรร ไม่ได้ เพราะผู้ปกครองของไทเกอร์ต้องการให้ เงินเบี้ยเลี้ยงที่ออกรายสัปดาห์ ออกมาเป็นเงินก้อนใหญ่เดียว
ในขณะที่ทางโรงเรียน นัดผู้ปกครองออกมาเพื่อหาข้อยุติกัน ผู้ปกครองกลับ เบี้ยวนัด โรงเรียนหลายครั้ง ทำให้ปัญหานี้ค้างคาอยู่ แต่ผู้ปกครองและน้องกลับไปออกรายการทีวี โดยนำใบทวงค่าเทอม(ซึ่งน้องไม่เคยมีและไม่คเยต้องจ่าย)ไปออกรายการ
โรงเรียนจะหาข้อสรุปอีกครั้งคาดว่าข่าวคงชัดเจนขึ้นในสัปดาห์หน้า
ล่าสุด ทวิตเตอร์ @Pooky Pornpun ซึ่งอ้างว่าเป็นอาจารย์ของโรงเรียนดังกล่าว ได้ทวิตข้อความเพิ่มเติมว่า “ไม่ต้องห่วงนะคะทุกคน ผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใดค่ะ ทางที่ปรึกษาสมาคมผู้ปกครองฯรู้จักกับผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายข่าวช่อง 3 ก็ได้ช่วยแจ้งด้วยวาจาไปแล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร และในสัปดาห์หน้าโรงเรียนจะทำจดหมายแจ้งข้อเท็จจริงส่งให้หัวหน้าฝ่ายข่าวช่อง 3 เป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น