วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554
"เทพมนตรี" โวย "ราชสกุลยุคล" ใส่ร้ายพัวพัน "กรรโชกทรัพย์ราชนิกูล"
เรื่องใส่ร้ายป้ายสี
มีผู้กล่าวหาผมอีกแล้ว โดยมีเนื้อหาซึ่งนำมาจากคำพิพากษาในคดีทรัพย์สิน ซึ่งราชสกุลยุคลต่างฟ้องร้องกันเองแต่มีผู้นำคำพิพากษานี้มาใส่ความผมดังนี้
"หลังจากอ่านจนจบครบถ้วนกระบวนความ พระบรมโกศและพระบรมอัฐิ ล้วนถูกขโมยไปและถูกขายทอดตลาดมืด โดยมี นายสิน+นายสี่+กระเทยวีนัส อาจรวมถึง นายเทพมนตรี ด้วยที่สมรู้ร่วมคิดในการปั่นกระแส และอาจหมายรวมถึงการข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ราชนิกูลราชสกุลยุคล(ผู้เสียหาย) ดังเนื้อความโดยสรุปย่อในหน้าที่ ๓ ข้อ ๒.๒ ...
ทรัพย์สินรายการที่ ๘๐-๘๓ ซึ่งก็คือ พระบรมโกศรวมถึงพระบรมอัฐิ ล้วนเป็นทรัพย์สินที่ต้องพึงเก็บรักษาไว้ที่วังอัศวิน เพื่อรอนำขึ้นทูลเกล้าถวายแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเก็บรักษาหรือมีพระประสงค์ของพระองค์ท่าน ตามที่ทรงเห็นสมควรและให้คนในสกุลยุคล สามารถเข้าไปเคารพสักการะพระอัฐิได้ตามโอกาสสมควร ..."
______________________________________________________________
ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกอย่างตั้งแต่การสมรู้ร่วมคิด การปั่นกระแส การข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ที่มีผู้กล่าวหาผมตามข้อความเบื้องต้น และเพื่อให้ทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ได้รับทราบข้อมูลรอบด้าน รวมถึงความบริสุทธิ์ใจของผมที่มีสถานะเป็นเพียงคนประสานงานไม่ได้อยู่ข้างใดข้างหนึ่งอย่างที่มีผู้กล่าวหา และรวมทั้งคำพิพากษาของศาลในคดีนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549ก็มิได้เกี่ยวข้องกับผมและที่สำคัญที่สุดคือตัวผมเองก็มิใช่คู่กรณีแต่อย่างใด การที่มีบุคคลนำคำพิพากษาในคดีนี้มาเผยแพร่และใส่ความผมว่าผมเป็นผู้ร่วมขบวนการในการเป็นผู้รับซื้อของโจรนั้นก็ไม่ถูกต้องเลยและเป็นการใส่ความผมอย่างไม่อาจยอมรับได้ เพื่อให้เรื่องนี้เป็นที่กระจ่างผมจึงขอนำบทสนทนาที่ผมได้พูดคุยกับคุณชายทักขิญในฐานะที่ผมเป็นผู้ประสานงาน ไม่ใช่นายหน้าหรืออยู่ข้างฝ่ายผู้รับจำนำ อนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจเมื่อผมได้รับทราบว่าพระบรมโกศถูกนำไปจำนำด้วยอดีตสะใภ้ของราชสกุลยุคลและเป็นมารดาของหม่อมราชวงศ์อีก2ท่านที่ใช้นามสกุล"ยุคล"ก็ย่อมเป็นความรับผิดชอบโดยภาพรวมอยู่แล้ว และเมื่อมีการประสานมาโดยคุณชายทักขิญ ยุคล ด้วยความบริสุทธิ์ใจผมจึงรับอาสาเป็นคนประสานงานเพราะคุณชายย่อมไม่รู้ว่าพระบรมโกศนั้นตกอยู่ที่ไหน และด้วยความจริงอีกเช่นกันผมจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามีการล่อซื้อและจะเห็นว่าผมไม่เคยเรียกรับประโยชน์จากฝ่ายใด บทสนทนานี้เป็นส่วนหนึ่งเพื่ออธิบายเรื่องนี้ได้พอสังเขป ตั้งแต่นั้นมา วันที่29กันยายน-17ตุลาคม2554 ส่วนเรื่องที่กล่าวว่าจะมีการทูลเกล้าฯถวายแด่พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ผมไม่เคยทราบมาก่อนจนกระทั่งมีการจัวกุมเสี่ยสี่ ผมพูดหลายครั้งแล้วว่าผมเป็นแค่คนกลาง ไม่ได้เป็นคู่กรณีแต่การนำคำพิพากษามาใช้เล่นง่นผมแบบนี้มันไม่เป็นการยุติธรรมเพราะควรเล่นงานหม่อมอุ่นเรือน หม่อมราชวงศ์ที่เป็นลูกๆของหม่อมอุ่นเรือนและคนรับจำนำคือเสี่ยสี่และเสียสิน ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปยุ่งเกี่ยวข้องได้ทั้งได้แถลงไปแล้วว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมของทั้งสองฝ่าย และผมจะขอใช้สิทธิ์ในการชี้แจงอีกหากมีใครมาใส่ความผมเรื่องนี้
เทพมนตรี ลิมปพยอม
22ธันวาคม2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น