"ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของ ข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"
คือ พระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติ ของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 อันเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่สืบทอดมาจนทุกวันนี้ครับ
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่พระองค์ทรงพระราชทานสิทธิอำนาจให้กับ"ราษฎรโดยทั่วไป"นั้น เป็นระบอบที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย และใช้กันเป็นมาตรฐานเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก เป็นการใช้อำนาจของ"ราษฎรโดยทั่วไป" ผ่านตัวแทน(สส.)ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมดนี้บัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญไทย ทุกยุคทุกสมัย
การอ้างว่า เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง เป็นเพราะทักษิณฯโกงนั้น อาจมีคนไทยป็นล้านคน ที่เชียร์พรรคประชาธิปัตย์เสมอมา จะโกหกจะโกงจะทุจริตอย่างไร ก็ไม่เคยโกรธและคอยแก้ตัวแทนเสมอๆ พรรคประชาธิปัตย์พูดอะไรก็เห็นด้วยและเชื่อไปหมด คนกลุ่มนี้จึงต้องการล้มล้างระบอบการปกครองของไทย โดยไม่ต้องให้มีการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่ความต้องการของ "ราษฎรโดยทั่วไป" ครับ
ดังนั้นพี่น้องประชาชนไทยที่เป็นกลาง จึงถึงจุดที่จะต้องเลือกว่า เราจะมอบอำนาจการปกครองที่พระองค์ท่านฯ ทรงพระราชทานเพื่อให้เป็น...
สิทธิอำนาจอันเป็นของ "ราษฎรโดยทั่วไป" ผ่าน "ระบอบเลือกตั้ง"
ให้เป็นสิทธิอำนาจของ "มวลมหาประชาธิปัตย์" ผ่าน "ระบอบเมือกตั้ง" หรือไม่
ผมไม่เชื่อว่า "ราษฎรโดยทั่วไป" ตามพระราชหัตถเลขาของพระองค์ท่านฯ คือ "มวลมหาประชาชน" ตามที่ อาสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวอ้างและคิดว่า
คนที่อาสุเทพฯสั่งให้ไปก่อความวุ่นวาย ตรงนู้นตรงนี้ได้ อย่างมากก็เป็นได้แค่เพียง
"มวลมหาประชาธิปัตย์" เท่านั้นครับ..!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น