วันที่ 31 ธันวาคม 2556 go6TV
- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพกาตูนพร้อมข้อความลง เฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้
ปฏิรูป + ล้มการเลือกตั้ง + ฉีกรัฐธรรมนูญ + ตั้งนายกขึ้นมาเอง =
การปฏิวัติรัฐประหาร
ผมว่าสมการข้างบนนี้ต่างหาก ที่นายอภิสิทธิ์ฯ
อยากให้เป็นของขวัญปีใหม่ แด่พี่น้องคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่คำพูดที่งดงามตามรูปหรอก
ครับ
3ข้ออะไรที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ประดิษฐ์ประดอยคำพูดมาสวยหรูนั้น เป็นความคิดของอดีตรองหัวหน้าพรรค นามว่าอาจ้อน
อลงกรณ์ พลบุตร นักประชาธิปไตยตัวจริง-ชัดเจน ที่กล้าเอากระดิ่งไปผูกคอแมว
เสนอการปฏิรูปพรรคฯแต่กลับถูกต่อต้าน จนถูกปลดลงจากรองหัวหน้าพรรคฯ
ต้องเก็บข้าวของออกจากห้อง แทบจะไม่เหลือที่ยืนในพรรคฯต่อไป
ปลดเขาแล้วอย่าไปขี้ตู่ผลงานของเขาครับ
ขณะนี้เสียงพี่น้องประชาชนสงสัยกันมากว่า
หากพรรคประชาธิปัตย์มีความจริงใจที่จะปฏิรูปจริงๆแล้ว
ทำไมจึงต้องปลดรองหน.อลงกรณ์ฯ ทำไมจึงมีข่าวว่าถูกอภิสิทธิ์ฯตำหนิเรื่องการปฏิรูป
และทำไมไม่คิดจะปฏิรูปตอนปชป.เป็นรัฐบาล แต่จะต้องมาเพิ่มวิกฤติให้ประเทศถึงทางตัน
กันในตอนนี้วะครับ
ยิ่งถึงตอนนี้ประชาชน ได้เห็นภาพรวมได้กระจ่างชัดยิ่งขึ้น
เขาก็ต่อยอดความคิดกันไปอีกว่า ตลอด2ปีกว่าๆที่อภิสิทธิ์ฯดำรงตำแหน่งนายกฯ
ไม่เห็นคิดจะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย จำได้ก็เพียง นโยบายขายไข่ชั่งกิโล
นโยบายเคารพธงชาติเช้าเย็น นโยบายที่ลงท้ายด้วยคำว่าเข้มแข็ง ที่โดนครหาเรื่องการทุจริตอย่างมากมาย
แล้วก็มีอดีตนายกฯชวนมาช่วยเสนอ ให้ประชาชนกินของนึ่งแทนของทอด
ตอนที่มีการปั่นราคาน้ำมันปาล์ม ประชาชนเค้าจำได้แค่นี้จริงๆ
แต่พอเป็นฝ่ายค้านนายอภิสิทธิ์ฯขยันจังครับ ลงพื้นที่ ติโน่น ตินี่
ตำหนิติเตียนผู้อื่นตลอดเวลา พอประเทศชาติเกิดวิกฤติ
แทนที่จะลดความขัดแย้งทางการเมือง กลับแบ่งหน้าที่กันกับนายสุเทพฯ
รวมกันเดิน-แยกกันตี ทำอะไรสอดคล้องกัน ไปในทิศทางที่จะผลักดัน
ให้ประเทศถึงทางตันอยู่ตลอดเวลา
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรจะให้เป็นของขวัญให้กับพี่น้องประชาชนคือ
พรรคประชาธิปัตย์ควรยอมรับความผิดพลาดของพรรคฯตัวเอง แข่งกันทางด้านบวก
ในเมื่อนโยบายสู้เขาไม่ได้ ประชาชนเขาไม่เอา มันก็ต้องแพ้เลือกตั้งเป็นธรรมดา
ควรจะกลับไปแก้ไขปรับปรุงตัวเสียใหม่
ไม่ใช่สู้ทางด้านบวกไม่ได้ก็ใช้ด้านลบ สร้างความหวาดกลัว
สร้างความเกลียดชัง ในหมู่พี่น้องไทยจนแทบจะฝังรากลึก
ไปจนเป็นสันดานไปชั่วลูกชั่วหลาน
ทำแบบนี้อาจจะเป็นประโยชน์ทางการเมืองของพรรคฯตัวเอง
แต่วัฒนธรรมที่ดีงามของไทยฉิบหายกันหมดแล้วครับ
ปฏิรูปพรรคฯตัวเอง ปฏิรูปความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย
ปฏิรูปนิสัยตัวเองให้ดีเสียก่อน จึงค่อยมาเสนอหน้าเป็นผู้ปฏิรูปประเทศไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น