วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"พานทองแท้" FB แนะประชาชนจับตาปฏิรูป "3 ต้องและ 2 ไม่"

11 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงเฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้  


คุณพ่อผมเคยพูดไว้ เมื่อหลายปีที่แล้วว่า 

"พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการเพียงอย่างเดียวคือ ห้ามคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เล่นการเมือง" 

มาปีนี้ท่าจะต้องขอเพิ่มเป็น "ห้ามทั้งตระกูลชินวัตร เล่นการเมือง แถมด้วยห้ามอยู่ในเมืองไทยอีกด้วย" 

ข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เกิดขึ้นกับนักการเมืองทุกพรรคฯ มีมาทุกยุคทุกสมัยไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลเดียวครับ เอาเฉพาะแค่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว เราก็ฟังมาเยอะจนหูชา ไม่ว่าจะเป็น ปรส., สปก.4-01, สวาปาล์ม, ชุมชนพอเพียง, ไทยเข้มแข็ง, โรงพัก396แห่ง, ปลากระป๋องเน่า, นมโรงเรียนบูด ฯลฯ เฉพาะเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหานี้ ถ้าเป็นการทุจริตเต็ม100% ทั้งหมดนี่ ผมคิดว่ามูลค่าที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย นับดูแล้วน่าจะเป็นหลักหลายแสนล้านบาท และผมก็คิดว่าว่าไม่เคยมีพรรคฯการเมืองไหน แม้แต่พรรคฯเดียวในประเทศไทย จะพ้นมลทินจากเรื่องเหล่านี้ไปได้ครับ

เราลองมาดูทางด้านบวกกันบ้าง ขอให้ลองนึกถึงประโยชน์ ที่นักการเมืองทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้กับประเทศชาติบ้านเมือง แล้วนำมาเปรียบเทียบกันดูครับ 

สิ่งที่ตระกูลชินวัตร ทำให้กับประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จัดระเบียบสังคม กองทุนหมู่บ้าน โครงการSML การประกาศสงครามกับยาเสพติด เอาหวยใต้ดินขึ้นมาบนดิน มาจนถึงแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านๆบาท ฯลฯ อีกมาก ซึ่งบางโครงการผ่านมาเป็นสิบปี ก็ยังคงอยูในหัวใจพี่น้องประชาชนครับ

มาดูพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์มั่ง ผมให้ 2 ตระกูลเลยครับ เวชชาชีวะ+ เทือกสุบรรณ และต่อให้ให้ สส.ที่ลาออกทั้งพรรคฯ ร้อยกว่าคน ช่วยกันคิดช่วยกันพูดหน่อยว่า มีโครงการอะไรของปชป.ที่ชาวบ้านเขาจดจำกันได้บ้าง นอกจากเอ่อออ....ผมนึกออกอันเดียวครับ....ไข่ชั่งกิโลขาย ซึ่งจนถึงวันนี้ใครลองเอาไมค์ไปจ่อปากถามนายอภิสิทธิ์ฯ ผมบอกไว้ก่อนเลยว่าแกก็ยังตอบว่า ไข่ชั่งกิโลขายเป็นโครงการที่ดีอยู่เหมือนเดิม

คนที่ไม่มีผลงานให้คนจำได้ ก็มักจะว่าแต่จุดบกพร่องของผู้อื่นครับ เมื่อจะกล่าวหาว่าคนอื่นเลว ก็ต้องหาประเด็นและแนวทางแก้ไข อยากจะเสนอการปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชน และทุกพรรคการเมือง ในประเทศไทยเขาเห็นด้วยทั้งนั้นครับ แต่ขอให้พี่น้องไทยจับตากันดูให้ดีว่า การปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นนั้น จะต้องไม่หลุดออกจากหลักการ 3 ต้องและ 2 ไม่ ดังต่อไปนี้

1. ต้องคงระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และคงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ อยู่ตลอดเวลาทุกลมหายใจ โดยไม่ตีความรัฐธรรมนูญแบบเข้าข้างตัวเอง ดังเช่นที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยบังอาจขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี จนทรงมีรับสั่งว่า มาตรา 7 ไม่เป็นประชาธิปไตย

2. พรรคการเมือง 2 ขั้วใหญ่ต้องเสนอตัว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเข้าไปทำงานโดยยึดระบบรัฐสภา อย่าไปกลัวแพ้จนขี้ขึ้นสมอง อ้างนู่นอ้างนี่โดยไม่มีเหตุอันควร แล้วบอยคอตเลือกตั้งเหมือนที่เคยทำ

3. ต้องเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมทางการเมื่ออย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียง "มวลมหาประชาธิปัตย์" ฝ่ายเดียวเท่านั้น

แล้วก็ 2 ไม่ คือการไม่ทำสูตรสำเร็จแบบบ้องตื้น ประเภท

1. ไม่สร้างสถานการณ์โดยใช้ชีวิตและเลือดเนื้อ ของพี่น้องคนไทยเป็นเดิมพัน โดยใช้วิธีพาคนไปตาย เพื่อยั่วยุให้ทหารออกมาพาประเทศถอยหลัง และเกิดสูญญากาศทางประชาธิปไตยอีกครั้ง

2. ไม่เกิดเหตุการณ์ที่องค์กรอิสระเจตนาหักดิบด้วยการ ตัดสินให้แกนนำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ในเวลาที่เตี๊ยมกันเอาไว้ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ดังเช่นที่พรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน เคยโดนมาแล้ว

3 ต้อง 2 ไม่ นี้จำกันไว้ให้ดี และควรยึดหลักการโดย

"เห็นแก่ประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์พรรคพวกตน เถอะครับ ทั้งแกนนำพรรคฯ และแกนนำม็อบของ พรรคประชาธิปัตย์..!!"

ไม่มีความคิดเห็น: