วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

พระราชวงศ์ทั่วโลกถวายพระพร "สมเด็จพระราชาธิบดี วิลเลม อเล็กซานเดอร์" แห่งเนเธอร์แลนด์



วันที่ 30 เมษายน 2556 (go6TV) สมเด็จพระราชินีเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงลงพระปรมาภิไธยในหนังสือสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ทำให้เจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ พระราชโอรสพระองค์โตและมกุฎราชกุมารพระองค์ปัจจุบัน ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์แรกในรอบ 120 ปี  ในวโรกาสอันสำคัญนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ร่วมพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีด้วย

"ณัฐวุฒิ" ย้ำ "ปาฐกถายิ่งลักษณ์" คือบทสรุปการเมืองไทยอย่างแหลมคม ทรงพลัง และเป็นความจริง!


วันที่ 30 เมษายน 2556 (go6TV) ณัฐวุฒิ โวปาฐกถานายกฯ คือบทสรุปการเมืองไทย ซัด อภิสิทธิ์ ใจแคบความคิดยิ่งแคบ หลังพยายามโยงเข้าทักษิณ เป็นประเด็นการเมือง

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงกระแสข่าวการปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเข้าร่วมประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่ประเทสมองโกเลีย ที่ถูกฝั่งตรงข้ามทางการเมืองหยิบมาวิพากวิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ว่า

การพูดของ นายกฯ ที่มองโกเลียถือเป็นการสรุปทางการเมืองไทยอย่างแหลมคม และทรงพลัง เพราะนอกจากจะอธิบายความจริงจากความขัดแย้งต่อมิตรประเทศในเวทีโลกแล้ว ยังถือเป็นการส่งสัญญาณบอกฝ่าย ให้หันมาพิจารณาความจริงว่าสาเหตุการขัดแย้งเกิดจากอะไร
และอยากบอกกล่าวผู้ที่มีอำนาจมีบารมี และองค์กรอิสระต่างๆว่า ประเทศไทยไม่ได้อยู่เพียงลำพังในเวทีโลก แต่เราอยู่ในระบบสังคมที่ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ได้รับการยอมรับสูงสุด และเวลานี้เมื่อเรามีปัญหาประชาธิปไตยก็เท่ากับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยก็จะถูกกระเทือนไปด้วย

โดยสิ่งที่นายกฯ ทำมาตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาก็คือพาประเทศออกจากวิกฤติความขัดแย้ง เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ ซึ่งตนอยากให้หลายฝ่ายร่วมมือกัน
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พยายามโยงว่าการปาฐกถาดังกล่าวเป็นการพูดเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น คิดว่านายอภิสิทธิ์น่าจะเปิดความคิดให้กว้างกว่านี้ ใจว่าแคบแล้วความคิดยิ่งแคบกว่านั้นเข้าไปอีก เรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งโลกเข้าใจดี ว่านี่คือนายกฯที่ถูกรัฐประหารจะต่างกับนายกฯที่จัดตั้งในค่ายทหาร
ที่สั่งการให้มีกำลังออกมาทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ พ้นตำแหน่งก็ไม่เห็นจะมีมิตรประเทศไหนให้การต้อนรับดีแบบพ.ต.ท.ทักษิณเลย เพราะฉะนั้นคิดว่าถ้าข้ามผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองกันบ้างน่าจะเห็นหนทางที่จะคลี่คายความขัดแย้งได้

"บรรหาร" โต้พรรคประชาธิปัตย์ "นายกฯพูดที่มองโกเลีย เป็นเรื่องจริง!"


วันที่ 30 เมษายน 2556 (go6TV) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาที่มองโกเลีย โดยระบุถึงปัญหาการเมืองของประเทศไทยจนขณะนี้ถูกวิจารณ์ในวงกว้างว่า ตนดูท่านไม่ทัน แต่ขอบอกว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ก็เป็นเรื่องจริง เพราะทั้งจำกัดสิทธิ ลิดรอนอำนาจพรรคการเมือง ซึ่งเราก็ต้องแก้ตรงนี้ เมื่อถามว่าแต่นายกฯ พูดถึงเรื่องการปฏิวัติสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลายคนก็เลยมองว่าจะทำให้เกิดบรรยากาศขึ้นทางการเมือง นายบรรหาร กล่าวว่า เรื่องปฏิวัติเราคงพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนอกอำนาจที่เราดูแลอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการเมืองจะล้มก็ล้ม จะยุบก็ยุบ แต่พอปฏิวัติก็มีปัญหาเยอะ ทั้งเรื่ององค์กรอิสระ และขอบเขตอำนาจการตัดสินที่เลยไปมากพอสมควร ทำให้สภาฯ ไม่สามารถทำอะไรได้

"ท่านพูดในหลักการ ไปตำหนิท่านไม่ได้ เมื่อหลักการเป็นอย่างนี้ท่านก็ยอมรับ และเมื่อยอมรับก็มาดูว่าจะแก้ไขอย่างไรให้ดีขึ้น ให้เป็นประชาธิปไตย และให้องค์กรอิสระอยู่ในขอบเขตของตนเองให้ดี อย่างเช่นเมื่อก่อน เรามีอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ามันก้าวก่ายกันหมดเลย การเมืองไม่ได้เป็นเหมือน 20 ปีที่ผ่านมา" นายบรรหาร กล่าว

อัดยับ!!! "ผู้ว่าฯกทม." ไม่ทำตามนโยบาย "BTS" ขึ้นค่าโดยสารชัวร์!

คุณชายหมู งานเข้าอีกแล้ว จากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าBTS ขึ้นราคาค่าโดยสารนั้น ทำให้คุณชายหมูออกมาโพสผ่านทางเฟซบุ๊กว่­า กทม. คุมราคาได้แค่ส่วนต่อขยาย การปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเป็นสิทธิ์ของ BTS


มรว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร แจ้งผ่านทาง Facebook ถึงกรณีที่มีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร BTS ว่า กทม.สามารถกำหนดค่าโดยสาร BTS ได้เฉพาะส่วนต่อขยายที่เป็นของ กทม. และที่ลงทุนเอง คือ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีอ่อนนุช-สถานีแบริ่ง และส่วนต่อขยายสายสีลม ตั้งแต่สถานีกรุงธน-สถานีบางหว้า ส่วนในกรณีที่บีทีเอสเตรียมที่จะปรับขึ้นร­าคาค่าโดยสารเป็นสิทธิ์ของ บีทีเอส ซึ้งก่อนหน้านี้ทาง กทม. ได้ขอความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ในอนาคต อีก17ปีข้างหน้า หลังหมดสัญญาสัมปทาน บีทีเอส จะตกเป็นทรัพย์สินของ กทม. ซึ้งจะสามารถกำหนดและปรับอัตราค่าโดยสารได­้แต่หลังจากที่่มีกระแสในโลกออนไลน์ ออกมาสักระยะหนึ่งที่ BTSจะขอขึ้นค่าโดยสารนั้น ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ 




... เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บและโปรโมชั่นเที่ยวเดินทางใหม่ ในส่วนเส้นทางสัมปทาน 23.5กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตไปอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปสะพานตากสิน

ปัจจุบันเป็นราคาใหม่ ดังต่อไปนี้

1. อัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บ
... จำนวนสถานี 0 - 1 2 3 4 5 6 7 8 ขึ้นไป
ราคา (บาท) 15 22 25 28 31 34 37 42

2. โปรโมชั่นเที่ยวเดินทางประเภท 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป
50 เที่ยว ราคา 22 บาท / เที่ยว 40 เที่ยว ราคา 23 บาท / เที่ยว
25 เที่ยว ราคา 25 บาท / เที่ยว 15 เที่ยว ราคา 27 บาท / เที่ยว

3. โปรโมชั่นเที่ยวเดินทางประเภท 30 วัน สำหรับนักเรียน - นักศึกษา
50 เที่ยว ราคา 16 บาท / เที่ยว 40 เที่ยว ราคา 17 บาท / เที่ยว
25 เที่ยว ราคา 19 บาท / เที่ยว 15 เที่ยว ราคา 21 บาท / เที่ยว

4. โปรโมชั่นบัตรแรบบิท สำหรับผู้สูงอายุ ปรับลดราคาสูงสุดกว่า 50% จากอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บ
(15 - 42 บาท) ตลอดเวลาให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 - 31 พฤษภาคม 2557
ราคา (บาท) 15 22 25 28 31 34 37 42
ลดเหลือ (บาท) 7 11 13 14 16 17 19 21

สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิท หรือบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภทเติมเงิน
เดินทางในระบบจะยังคงชำระค่าโดยสารในอัตราที่เรียกเก็บเดิม 15 - 40 บาท ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556

ทั้งนี้ ในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีอ่อนนุชไปแบริ่ง และจากสถานีสะพานตากสินไปตลาดพลู ซึ่งเป็นส่วนของกรุงเทพมหานคร อัตราค่าโดยสารจะเป็นไปตามประกาศของกรุงเทพมหานคร โดยการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บและโปรโมชั่นเที่ยวเดินทางรถไฟฟ้าบีทีเอสดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บดังกล่าวสามารถทำได้ตามข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน

มรว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร แจ้งผ่านทาง Facebook ถึงกรณีที่มีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร BTS ว่า กทม.สามารถกำหนดค่าโดยสาร BTS 

ได้เฉพาะส่วนต่อขยายที่เป็นของ กทม. และที่ลงทุนเอง คือ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีอ่อนนุช-สถานีแบริ่ง และส่วนต่อขยายสายสีลม ตั้งแต่สถานีกรุงธน-สถานีบางหว้า ส่วนในกรณีที่บีทีเอสเตรียมที่จะปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเป็นสิทธิ์ของ บีทีเอส ซึ้งก่อนหน้านี้ทาง กทม. ได้ขอความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ในอนาคต อีก17ปีข้างหน้า หลังหมดสัญญาสัมปทาน บีทีเอส จะตกเป็นทรัพย์สินของ กทม. ซึ่งจะสามารถกำหนดและปรับอัตราค่าโดยสารได้ แต่หลังจากที่่มีกระแสในโลกออนไลน์ ออกมาสักระยะหนึ่งที่ BTSจะขอขึ้นค่าโดยสารนั้น ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มรว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. คนเก่า หาเสียงว่าจะลดค่าโดยสาร BTSลง แต่พอชนะการเลือตั้งไม่ทันไรก็มีข่าวฉาวออกมาตลอด ทำให้เกิดเป็นคำถามว่า การหาเสียงเป็นเพียงแค่ลมปากหลอกลวงประชาชนใช่หริอไม่ดูเพิ่มเติม


พรรคประชาธิปัตย์สิ้นคิด! เตรียมออกจดหมายเปิดผนึกโง่ๆ ประจานตัวเองต่อชาวโลก


วันนี้ (30เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลีย ว่า นายกฯ ใช้เวทีนานาชาติบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และใส่ร้ายประเทศไทยเพื่อปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ส่วนตนและครอบครัว นายกฯละเลยที่จะพูดถึงการทุจริต แทรกแซงองค์กรอิสระ ใช้อำนาจมิชอบก่อนที่จะมีรัฐประหาร และหลังการรัฐประหารเพียง 1 ปี ก็ได้มีการจัดให้มีการเลือกตั้ง โดยรัฐบาลที่พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ส่วนที่ระบุว่าผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในปี 53 มีผู้เสียชีวิต 91 ศพนั้น ตนเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้อำนาจมาอย่างถูกต้อง จึงอยากถามว่าทำไมนายกฯกลับไม่พูดว่าขณะนั้นตัวเอง ก็รวมอยู่ในมวลชนเสื้อแดงที่ปิดสี่แยกราชประสงค์ด้วย และการระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งถูกสไนเปอร์ยิงนั้น ขอให้นายกฯ ไปดูผลการสอบสวน หรือเรียกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มาสอบถาม ว่า มีชายชุดดำ มีการใช้ เอ็ม 16 อาร์พีจี และมีการเผาศาลากลาง จริงหรือไม่ และใน 91 ศพ ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารรวมอยู่ด้วย



นายกฯ ละเลยที่จะพูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้ามาต่อต้านรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย และไม่พูดว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นายกฯไม่ควรนำเรื่องที่ตรงข้ามกลับข้อเท็จจริงไปโฆษณาหาเสียงให้กับครอบครัวตัวเอง แล้วทำไมนายกฯไม่เล่าให้ต่างประเทศฟังว่า รัฐบาลที่อ้างว่า เป็นประชาธิปไตย มีมวลชนส่วนตัวไปกดดันการทำงานขององค์กรอิสระ และหน่วยงานอื่นๆ ให้ทำตามความต้องการของรัฐบาล จึงไม่แน่ใจว่า นายกฯ จะเขียนสคริปเองและไม่แน่ใจว่า จะเข้าใจทุกคำที่พูดหรือไม่ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมข้อมูลที่เป็นคำเท็จของนายกฯ เพื่อทำจดหมายเปิดผนึกชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสังคมโลกต่อไป โดยจะจัดส่งไปยังเจ้าภาพการจัดประชุมดังกล่าวเป็นที่แรกนายชวนนท์กล่าว.

นุ่มนวลแต่เด็ดขาด! "เต่านา" ชื่นชมคำกล่าว "ยิ่งลักษณ์" ที่มองโกเลีย

30 เมษายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ปาฐกถาพิเศษระหว่างการการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ณ ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุด "หม่อมเต่านา" หรือ หม่อมหลวงมิ่งมงคล โสณกุล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว Taona Sonakul แสดงความเห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมทั้งชื่นชมการบริหารงานราชการแผ่นดินของนายกฯยิ่งลักษณ์ มีลักษณะที่นุ่มนวลแต่เด็ดขาด ละเอียด ชัดเจน โดยมีข้อความดังนี้
"เก่งจริงๆ และดีแล้วที่เลือกใช้เวทีประชาธิปไตยระดับโลกแบบนี้ หมัดเดียวได้ทั้งในประเทศตัวเอง และส่งผลพลอยได้ในด้านดี ให้กับประเทศอื่นๆที่ยังเพิ่งเริ่มตั่งไข่เปิดประเทศเรื่องประชาธิปไตย เช่นพม่า ฯลฯโดยที่ไม่ต้องไปทำเป็นเสือกสั่งสอนเพื่อนบ้านให้ระคายใจกันอีก การที่นายกปูยืนยันว่า รัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนที่ไม่ได้รับเลือกตั้งแค่กลุ่มเดียว เป็นการพูดที่ช่วย นาง ออง ซาน ซูจี อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าการหมั่นผลัดกันไปถ่ายรูปกับ นาง อองซาน มาโพสเรียกเสียกรี๊ดเสียอีก เพราะนางออง ซาน เอง ไม่สามารถพูดเองได้ว่า รัฐบาลพม่าต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญพม่าในปัจจุบันเขียนกีดกันเธอในฐานะคนที่มีสามีเป็นต่างชาติว่าไม่สามารถเป็นนายกได้ 

...การประชุมครั้งนี้ทำให้เราสบายใจมาก เพราะเขาเลือกให้เมืองไทยเป็นศุนย์กลาง และเอเซียในการนำแบบนายกยิ่งลักษณ์ จะยึดหลักการสร้างประชาธิปไตยจากเสียงส่วนใหญ่ แต่จะดำเนินไปด้วยวิธีที่นุ่มนวล ให่้เกียรติกับตัวตนและวัฒนธรรมที่แตกต่างของประเทศเพื่อนบ้านทุกคนที่เป็นอยู่ น่าสนใจและเป็นเรื่องที่น่าดีใจมาก นายกปูเป็นคนที่จังหวะดีมาก ใช้คนเป็น จึงดึงดูดให้มีคนที่เหมาะสมมาให้ใช้อยู่เรื่อยๆ การบริหารงานของท่านเป็นแบบนุ่มนวล แต่เด็ดขาด ละเอียด ชัดเจน กล้าได้กล้าเสีย แต่ไม่บ้าระห่ำ ดูมวยแล้ว เอาท่านลงยากจริงๆ ยากมากๆจริงๆ"

"ชยิกา" หลานสาวนายกฯ โพสต์ FB ถาม "เล่ารัฐประหาร-ทำรัฐประหาร" อย่างไหนทำร้ายประเทศ?

30 เมษายน 2556 go6TV ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา  นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (บุตรสาวนางเยาวเรศ ชินวัตร) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/Sand.Chayika โดยตั้งคำถามต่อสังคมว่าระหว่างผู้ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับรัฐประหารกับผู้ที่ทำรัฐประหาร อย่างไหนเป็นการทำร้ายประเทศไทย พร้อมภาพกราฟิกประกอบเป็นรูปป้ายเขตพื้นที่การใช้กระสุนจริง รวมทั้งมีข้อความระบุในส่วนท้ายว่า "ช่วยกันแชร์/กดไลค์ ให้ดังถึงคนกลุ่มนี้ที"

ทั้งนี้ นางสาวชยิกา โพสต์ข้อความมีเนื้อหาดังนี้



“เล่ารัฐประหาร” กับ “ทำรัฐประหาร” อย่างไหน “ทำร้าย” และ “ทำลาย” ภาพพจน์ประเทศ?

เช้านี้ (30 เมษายน 2556) ได้มีโอกาสฟังวิทยุคลื่นหนึ่ง มีนักวิชาการท่านหนึ่งออกมา ติติงการปาฐกถาพิเศษของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา ว่า 
(1) นายกฯยิ่งลักษณ์ทำร้ายและทำลายภาพพจน์ประเทศ และ 
(2) นายกฯยิ่งลักษณ์นำเรื่องของพี่ชาย ซึ่งเป็นครอบครัว เป็นเรื่องส่วนตัวมาพูดในเวทีโลก
เมื่อได้ฟังแล้วก็รู้สึกท้อใจ กับตรรกะของคนบางกลุ่มที่มีเพียงทัศนคติด้านลบ และสร้างวาทกรรมบิดเบือนความเป็นจริง เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง

ทั้งๆที่สิ่งที่นายกรัฐมนตรี พูดก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย โดยเฉพาะ กรณีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพื่อโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
หรือคนกลุ่มนี้คิดว่าที่ผ่านมา ทั่วโลกไม่เคยมีใครรับรู้ รับทราบ ถึงเรื่องราวเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราเลย
1. เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปี 2549 ที่มี นายกฯ ชื่อ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
2. การมีรัฐบาลที่มีที่มาจากคณะรัฐประหาร หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
3. การชุมนุมยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 เพื่อโค่นล้มรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
4.การช่วงชิงเสียง ส.ส. เพื่อระดมไปจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในปลายปี 2551 ที่มีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนขณะนั้นว่ามีการไปพูดคุยเจรจากันในค่ายทหาร
และ 5.เหตุการณ์การสลายการชุมนุมของประชาชน ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553

ที่สุด ก็คงได้แต่ทำใจว่าคนบางกลุ่มที่ “เสียงดัง” คือมีโอกาสเข้าถึงสื่อสารมวลชนมากกว่าคนอื่น กลับใช้สื่อในทางที่ผิด บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพราะท้ายที่สุด ประชาชนก็คงเป็นผู้ตัดสินเองว่า ระหว่างผู้กระทำการรัฐประหาร กับ ผู้ถูกรัฐประหาร และ ผู้ที่นำเรื่องการทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร มาบอกเล่านั้น “ใคร” เป็นบุคคลที่ทำร้ายและทำลายภาพพจน์ประเทศ

หาก “เห็นด้วย” ก็ขอให้ช่วย “กด LIKE” “กด SHARE” ให้ดังไปถึง “คนกลุ่มนี้” ทีนะคะ

https://www.facebook.com/Sand.Chayika

ด่วน! ผลไต่สวนศาลยืนยัน ทหารยิงกันเองตายช่วงสลายการชุมนุมเสื้อแดง


30 เมษายน 2556 go6TV -  ศาลอาญาอ่านคำสั่งในคดีการไต่สวนการเสียชีวิตของพลทหาร ณรงค์ฤทธิ์ สาละ สังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรี ว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด รวมถึงสาเหตุและพฤติการณ์การตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 จากเหตุการณ์ที่ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็ว เพื่อระงับเหตุการณ์การปะทะกันของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ (ดอนเมือง) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2553

โดยศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งว่า ผู้ตายคือพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ เสียชีวิตที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง เมื่อเวลา 15 นาฬิกา ของวันที่ 28 เมษายน 2553 ถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง ที่ยิงจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้น โดยกระสุนปืนถูกที่หางคิ้วด้านซ้าย ทะลุกระโหลกศรีษะ ทำลายเนื้อเยื่อสมองเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

ขณะที่การฟังคำสั่งในวันนี้ ไม่มีญาติและผู้ร้อง หรือเจ้าหน้าที่ทหารผู้เกี่ยวข้องเดินทางมาฟังคำสั่งแต่อย่างใด



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ThaiFreeNews - ภาพชุดใหม่ ยิงกันเอง เผยแพร่ด่วน

เจ้าชายวิลเลม แห่งเนเธอร์แลนด์ เสด็จขึ้นครองราชย์ วันนี้

เนเธอร์แลนด์ จัดพระราชพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์พระองค์แรกในรอบกว่า 122 ปีของประเทศ วันนี้ (30 เมษายน) ตัวแทนราชวงศ์จากทั่วโลกเข้าร่วม

วันนี้ (30 เมษายน) เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ รายงานว่า พระราชินีบีทริกซ์ พระราชมารดา จะลงพระนามแต่งตั้งให้เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ มกุฏราชกุมารขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ของเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ โดยมกุฎราชกุมาร วิลเลม อเล็กซานเดอร์ พระโอรสองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ จะเสด็จขึ้นครองราชสมบัติต่อจากพระมารดา ที่ทรงปกครองประเทศมายาวนานถึง 33 ปี และพระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกในรอบ 122 ปีนับตั้งแต่กษัตริย์วิลเลม ที่ 3 สวรรคตเมื่อปี 2433 

รายงานระบุว่า คนงานหลายพันคนได้จัดเตรียมเวทีและประดับตกแต่งอาคารด้วยสีธงชาติ แดงขาวน้ำเงิน และสีส้ม ที่เป็นสีสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ออเรจน์-นัสเซา ของเนเธอร์แลนด์ และคาดว่าจะมีประชาชนมากถึงเกือบ 1 ล้านคน เฝ้ารอชมสองข้างถนน และริมแม่น้ำในกรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อร่วมชมพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์ครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ 30 เมษายนนี้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาร์ค รูทเทอร์ของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า หนึ่งในพิธีสำคัญในวันอังคารที่ 30 เมษายนนี้ คือ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคของกษัตริย์และพระราชินีพระองค์ใหม่ โดยประชาชนจะได้ชมเรือพระที่นั่งสวยงามในกระบวนพยุหยาตราและการแสดงดนตรีของวงออเคสตรา และรัฐบาลได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาเพื่อให้วันอังคารนี้เป็นวันเฉลิมฉลองที่มีความสุข 

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของเนเธอร์แลนด์จะแพร่ภาพถ่ายทอดสดพระราชพิธีนาน 14 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 75 พรรษา ทรงลงพระปรมาภิไธยในตราสารสละราชสมบัติช่วง 10 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น ที่พระบรมมหาราชวัง ส่วนพิธีสถาปนากษัตริย์พระองค์ใหม่จะจัดขึ้นที่โบสถ์ใหม่ ซึ่งเป็นโบสถ์อายุ 600 ปี ในเวลาบ่าย 2 โมง ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะมีสมาชิกราชวงศ์จากทั่วโลกเสด็จเข้าร่วมพิธ อาทิเช่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลและดัชเชสออฟคอร์นวอลล์ แห่งอังกฤษ เจ้าชายฟิลิปเป้และเจ้าหญิงเลติเซียแห่งสเปน เจ้าชายนารุฮิโตะและเจ้าชายมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น เป็นต้น

สำหรับพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์ครั้งนี้ ทางเนเธอร์แลนด์ใช้คำว่า inauguration แทนคำว่า coronation หรือพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเน้นถึงความเสมอภาคกันระหว่างกษัตริย์และประชาชน และเจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ ซึ่งทรงมีพระชนมายุครบ 46 ชันษาเมื่อวันเสาร์ ทรงประทานสัมภาษณ์เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันสำคัญว่า พระองค์ไม่ได้ยึดติดกับพิธีการ ถึงพระองค์จะเป็นกษัตริย์ แต่ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนด้วย นอกจากนี้ พระองค์ยังตรัสว่าจะทรงเป็นกษัตริย์ที่สืบทอดโบราณราชประเพณี แต่ก็จะเป็นกษัตริย์แห่งยุคศตวรรษที่ 21 ที่เป็นแรงบันดาลใจแก่ประชาชน

ทั้งนี้ หลังพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว เนเธอร์แลนด์จะกำหนดให้วันที่ 27 เมษายน ซึ่งตรงกับวันประสูติของกษัตริย์พระองค์ใหม่ เป็นวันราชา






วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ด่วน! ASTV ประจาน "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ปล่อยจอดำ งดจัดรายการอ้าง "ไปขึ้นศาล"


ด่วน! ASTV ประจาน "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ปล่อยจอดำ งดจัดรายการอ้าง "ไปขึ้นศาล"
เมื่อเวลาประมาณ 13.23 น. วันที่ 29 เมษายน 2556 สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ได้เผยแพร่ภาพหน้าจอสีดำ ขึ้นข้อความสีขาวประท้วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ความว่า

"ขออภัยที่จอดำ  เนื่องจากผู้ดำเนินรายการและร่วมรายการต้องไปขึ้นศาลคดีก่อการร้าย ที่ถูกกว่าวหาโดยรัฐบาลยุคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแลตำรวจ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบอำนาจจากนายอภิสิทธิ์ ให้รับผิดชอบดูแลกำกับตำรวจ โดยผู้แจ้งข้อกล่าวหาคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายตำรวจคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ"

ภายหลังจากเผยแพร่ภาพดังกล่าวเป็นเวลาประมาณ 3 นาที ทางสถานีได้ถอดภาพออก และนำเทปรายการเก่ามาเผยแพร่ระหว่างที่ไม่สามารถดำเนินรายการสดได้

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 63


แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 63

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า เวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 28 เมษายน 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระอาการไม่สบายพระองค์ ทรงมีพระกรรสะเล็กน้อย หายพระทัยเร็วกว่าปรกติ ทรงเริ่มมีพระปรอทต่ำๆ ต่อมาขึ้นสูง 38.8 องศาเซลเซียส การเต้นของพระหทัยเร็วขึ้นเล็กน้อย ความดันพระโลหิตลดลงเล็กน้อย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายตรวจพระวรกายพบเสียงผิดปรกติของพระปับผาสะ (ปอด) และที่พระนาภี ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography) ปรากฎว่า เหมือนเดิม ผลการตรวจทางรังสีวิทยาด้วยเครื่องเอกซเรย์และเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พระอุระพบการอักเสบเล็กน้อยที่พระปับผาสะทั้งสองข้างด้านล่าง ผลการตรวจทางรังสีวิทยาด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พระนาภีไม่มีความผิดปรกติ ผลการตรวจพระโลหิตแสดงว่ามีการอักเสบ และได้ทำการเพาะเชื้อในพระโลหิต

คณะแพทย์ฯ ได้ขอพระราชทานงดเสวยพระกระยาหารชั่วคราว และได้ถวายสารน้ำทางหลอดพระโลหิตร่วมกับพระโอสถปฏิชีวนะ การตรวจติดตามตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ พระปรอทลดลง ความดันพระโลหิตและการหายพระทัยเป็นปรกติ พระอาการทั่วไปเริ่มดีขึ้น

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง 

28 เมษายน พุทธศักราช 2556

"นายกฯยิ่งลักษณ์" ฟ้องโลก "พี่ชายตนถูกรัฐประหาร-ประชาชนถูกยิงด้วยสไนเปอร์" ยืนยันวันนี้พร้อมลุกสู้!



เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 เฟซบุ๊คของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยแพร่ ปาฐกถาพิเศษ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประชุมประชาคมประชาธิปไตย อูลัน บาตอ, มองโกเลีย ดังนี้


คำแปลปาฐกถาพิเศษ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประชุมประชาคมประชาธิปไตย อูลัน บาตอ, มองโกเลีย 29 เมษายน 2013
โดย Yingluck Shinawatra (บันทึก) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2013 เวลา 8:47 น.

ท่านประธาน,
ท่านผู้มีเกียรติ,
ท่านผู้เข้าร่วมประชุม,

ดิฉันขอเริ่มด้วยการขอบคุณท่านประธานาธิบดีแห่งมองโกเลียที่ได้เชิญให้ดิฉันมาปาฐกถาณ การประชุมประชาคมประชาธิปไตยแห่งนี้

ดิฉันได้ตอบรับเชิญไม่เพียงเพราะดิฉันต้องการที่จะได้มีโอกาสเยือนมองโกเลียประเทศที่ประสบความสำเร็จในความเป็นประชาธิปไตย หรือไม่ได้มาเพียงที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยแต่ดิฉันเดินทางมาที่นี่เพราะความเป็นประชาธิปไตยมีความสำคัญต่อดิฉันอย่างมากและที่สำคัญยิ่งกว่าคือความไม่เป็นประชาธิปไตยมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศบ้านเกิดของดิฉันประเทศไทยที่ดิฉันรัก

ประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่เป็นแนวคิดอุดมการณ์ใหม่ในช่วงเวลาที่ผ่านมายาวนานแนวทางประชาธิปไตยได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าและความหวังสำหรับผู้คนจำนวนมากและในขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาและสร้างความเป็นประชาธิปไตย

เป็นที่ประจักษ์ชัดว่ารัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ไม่ได้ได้มาฟรีๆ สิทธิ เสรีภาพและความเชื่อที่ว่า มนุษย์ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงมีความเท่าเทียมกันนั้นได้มาด้วยการต่อสู้และที่น่าเศร้าใจคือ ทำให้ต้องมีผู้เสียชีวิต

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นหรือ?ก็เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยในโลกนี้ที่ไม่เชื่อในแนวคิดประชาธิปไตย  คนเหล่านี้พร้อมที่จะให้ได้มาด้วยอำนาจและด้วยการกดขี่การมีเสรีภาพนั่นหมายความว่าพวกเขาพร้อมที่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น เขาไม่เคารพสิทธิมนุษยชนหรือความเสรีภาพพวกเขาพร้อมจะใช้กำลังเพื่อกดขี่ให้คนอยู่ใต้อำนาจ และยังใช้อำนาจในทางที่ผิด สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นในอดีตและยังคงท้าทายเราทุกคนในปัจจุบัน

มีหลายประเทศที่ความเป็นประชาธิปไตยได้หยั่งรากลึกแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเป็นความรู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นกระแสประชาธิปไตยที่นำความเปลี่ยนแปลงสู่ประเทศต่างๆจากปรากฏการณ์อาหรับสปริงค์ถึงช่วงผ่านเปลี่ยนในเมียนมาร์ภายใต้ผลักดันของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของดิฉัน ด้วยพลังของประชาชนคนไทยที่ทำให้ดิฉันมายืนอยู่ที่นี่ได้ในวันนี้

ในระดับภูมิภาคหลักการสำคัญๆในปฏิญญาอาเซียนก็ยึดมั่นในหลักนิติธรรม, ประชาธิปไตยและรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกันเราทุกคนต้องระมัดระวังว่าแรงปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยไม่เคยที่จะถดถอยลดน้อยลงดิฉันขอยกเรื่องของดิฉันเองเป็นอุทาหรณ์

ในปี1997 ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งร่างขึ้นโดยที่ประชาชนมีส่วนร่วม เราทุกคนคิดว่ายุคใหม่ของประชาธิปไตยไทยมาถึงแล้วและจะเป็นยุคสมัยที่ไร้การรัฐประหาร

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึงสองครั้งสองหนด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกล้มลงในปี 2006 ประเทศไทยเสมือนรถไฟตกรางและประชาชนคนไทยใช้เวลาเกือบ10 ปีกว่าที่จะได้เสรีภาพแห่งประชาธิปไตยกลับคืนมา

หลายคนที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้รู้ว่ารัฐบาลที่ดิฉันพูดถึงคือรัฐบาลที่พี่ชายของดิฉันพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

หลายคนที่ไม่รู้จักดิฉันอาจบอกว่า เธอจะบ่นไปทำไม? เป็นเรื่องปกติในกระบวนการการเมืองที่รัฐบาลมาแล้วก็ไปซึ่งหากตัวดิฉันและครอบครัวของดิฉันต้องเจ็บปวดแต่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็คงจะปล่อยวาง

แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเป็นไปที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารประเทศไทยต้องถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติหลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการและแผนงานที่พี่ชายของดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิกประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป

คำว่า“ไทย” หมายความว่า “อิสระ” และประชาชนคนไทยก็ได้ลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืนมาแต่ในเดือนพฤษภาคม 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง91 คนในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ

คนบริสุทธิ์ถูกลอบยิงโดยสไนป์เปอร์แกนนำการชุมนุมต้องติดคุกหรือหลบหนีไปต่างประเทศ และแม้แต่ทุกวันนี้ยังคงมีเหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ติดคุกอยู่

ประชาชนคนไทยไม่ท้อถอยและยืนยันที่จะเดินไปข้างหน้าจนในที่สุดรัฐบาลในขณะนั้นต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งก็มีฝ่ายปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยที่เชื่อว่าจะบริหารจัดการและบิดเบือนเจตนารมณ์ประชาธิปไตยได้ต่อแต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของประชาชนได้ดิฉันได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ขอประเทศ แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบ

มีความชัดเจนว่าผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย

ตัวอย่างหนึ่งที่ดีในประเด็นนี้จะเห็นได้จากที่จำนวนครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาไทยมาจากการเลือกตั้ง แต่อีกครึ่งหนึ่งกลับได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งยิ่งกว่านั้น กลไกที่เรียกว่าองค์กรอิสระได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงเป็นการดำเนินการเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหนึ่งมากกว่าเพื่อคนส่วนใหญ่ของสังคม

นี่คือความท้ายทายของประชาธิปไตยไทยในปัจจุบันดิฉันนั้นต้องการเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในประเทศไทยและประชาธิปไตยของไทยพัฒนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยหลักนิติธรรมและกระบวนการทางกฎหมายที่แข็งแรงมีขั้นตอนที่ชัดเจนโปร่งใสและเมื่อนั้นทุกคนจะสามารถมั่นใจได้ว่าเขาจะได้รับการดูแลที่ยุติธรรมเจตจำนงนี้ ดิฉันได้แสดงออกโดยประกาศเป็นนโยบายต่อที่ประชุมของรัฐสภาก่อนการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

ความมีประชาธิปไตยทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองเกิดสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดการลงทุน นำมาสู่การสร้างงานสร้างรายได้ที่สำคัญดิฉันเชื่อว่าเสรีภาพทางการเมืองเป็นการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วยการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจและนำมาซึ่งการลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างคนจนคนรวย

นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นความสำคัญที่จะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับประชาชนในระดับรากหญ้าเราจะต้องเดินหน้าปฏิรูปการศึกษา เพราะการศึกษาสร้างโอกาสด้วยความรู้ และปลูกฝังวัฒนธรรมทางประชาธิปไตยในวิถีชีวิตของประชาชน

เมื่อประชาชนมีความรู้ประชาชนจะสามารถตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถปกป้องความเชื่อของตนจากผู้ที่ต้องการกดขี่และนี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนข้อเสนอของมองโกเลียในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติเกี่ยวกับการศึกษาและประชาธิปไตย

การลดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนก็สำคัญเช่นกันมนุษย์ทุกคนควรมีโอกาสที่เท่าเทียมกันเราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งนี้จะทำให้ประชาชนเป็นผู้มีส่วนร่วมที่แท้จริงในการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างประชาธิปไตยของประเทศ

นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลต้องริเริ่มนโยบายที่จะเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสร้างชีวิตที่ดีกว่าและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ดิฉันได้เริ่มต้นไว้หลายโครงการ รวมถึงการสร้างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และวิสาหกิจขนดกลางขนาดย่อม ในขณะที่ได้กำหนดมาตรการยกระดับรายได้ของเกษตรกร

และดิฉันเชื่อว่าเราต้องการการนำที่มีประสิทธิภาพและมีความสร้างสรรค์ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและหลักนิติธรรมตลอดจนความสร้างสรรค์ในการหาทางออกที่สันติในการแก้ไขปัญหาของประชาชน

เราต้องการการนำที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในซีกรัฐบาลแต่ในฝ่ายค้านและประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนต้องเคารพกฎหมายและช่วยกันสร้างประชาธิปไตย

ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ,

อีกบทเรียนที่ได้เรียนรู้คือเพื่อนในต่างประเทศมีความสำคัญการกดดันจากนานาชาติที่เชื่อในระบอบประชาธิปไตยทำให้กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทยคงอยู่ได้การคว่ำบาตรและการไม่ยอมรับเป็นกลไกที่สำคัญที่จะหยุดกระบวนการปฏิกิริยาที่ต่อต้านประชาธิปไตย

เวทีนานาชาติอย่างประชาคมประชาธิปไตยแห่งนี้มีบทบาทที่จะช่วยให้ประชาธิปไตยยืนหยัดอยู่ได้การส่งเสริมและปกป้องประชาธิปไตยด้วยการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นประสบการณ์และสร้างความร่วมมือหากประเทศใดก็ตาม ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ทุกคนต้องร่วมกันกดกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงและนำเสรีภาพกลับคืนสู่ประชาชน

ดิฉันขอยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนเวที่นี้เวทีนี้และการดำเนินงานของสภาบริหาร( GoverningCouncil ) เพื่อจะได้ช่วยให้ประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้นทั่วโลกนอกจากนี้ดิฉันขอชื่นชมประธานาธิบดีมองโกเลียสำหรับข้อริเริ่มความเป็นหุ้นส่วนเอเชียเพื่อประชาธิปไตย( Asian Partnership Initiative for Democracy ) และทางรัฐบาลไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือในส่วนนี้

ท่านผู้มีเกียรติ,

ดิฉันขอปิดท้ายด้วยการประกาศว่าดิฉันหวังว่าความเจ็บปวดที่ครอบครัวของดิฉันได้รับที่ครอบครัวของเหยื่อทางการเมืองไทย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 91 คนในเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม2553 ต้องเผชิญจะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทย

ขอให้เราทุกคนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อที่เสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์ได้รับการปกปักษ์รักษาเพื่อลูกหลานและคนรุ่นต่อๆไป

ขอบคุณค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

"ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม" คว้า The Star 9 ของเมืองไทย


The Star 9 วราวุธ โพธิ์ยิ้ม (Warawut Poyim) ชื่อเล่นว่า ตั้ม (Tum) เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2536 กำลังศึกษาอยู่ ปี1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงหนุ่ม    บุคคลิคเป็นหนุ่มขี้กังวลที่ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัว ตั้ม วราวุธ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อตอนผ่านเข้ารอบสุดท้าย เล่าด้วยความสนุกสนานว่าเขาเคยอ้วนมาก่อน แต่ในปีนี้ ได้พยายามลดความอ้วนลงมา และได้นำความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม พร้อมกับเดินก้าวเข้ามาร่วมประกวดในเวที The Star 9 ปีนี้ เป็นปีแรกของตั้ม และก็ต้องตกใจมาก เมื่อโดนกรรมการทั้ง 3 ท่านติชมในเรื่องของการร้องเพลง ที่เสียงร้องไม่เป็นตามธรรมชาติ แต่เรื่องนั้นไม่ได้เป็นปัญหาของ ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม เพราะหนุ่มตตั้มคนนี้มีดีมากกว่านั้น และพร้อมด้วยที่กรรมการทั้ง 3 เห็นความมุ่งมั่นในแววตา จนต้องให้เป็นหนึ่งในตัวแทนจากภาคใต้ แม้จะพึ่งมาประกวดในเวทีเดอะสตาร์ เพียงครั้งเดียว และครั้งแรกก็ตาม จึงเปิดโอกาสให้ ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ไปปรับปรุงข้อบกพร่องของตัวเองมาให้ดี และสุดท้ายก็ไม่ผิดหวัง เพราะตั้มก็ทำให้กรรมการเห็นว่า เขาทำได้!! จึงได้ผ่านเข้ารอบเป็นตัวแทนภาคใต้ในเดอะสตาร์ 9 มาอย่างหวุดหวิด

เต็มอิ่มจุใจ! ปราศรัย "เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย" (28 เมษายน 2556 - ขอนแก่น)

go6TV - เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยเปิดปราศรัยใหญ่ "เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย" ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดทและเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ช่วงแรกเป็นการชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการรถไฟความเร็วสูง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้นเป็นการปราศรัยในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายนิรโทษกรรม โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. ท่ามกลางคนเสื้อแดงที่มาฟังปราศรัยหลายพันคน

ทั้งนี้ กองบรรณาธิการ go6TV ขอนำเนื้อหาบนเวทีปราศรัยมานำเสนอสำหรับผู้ที่พลาดชมการถ่ายทอดสด ดังนี้  





โหรดังฟันธง! "ประชาธิปัตย์" ปฏิรูปไม่รอด ต้องลาตายไปเกิดใหม่

บทความพิเศษ/มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 26เม.ย.-2พ.ค.2556)

ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่เป็นข่าวร้อนติดอันดับในสัปดาห์นี้ว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ลุกขึ้นเรียกร้องให้ปฏิรูปภายในพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งขอรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป

ผู้เขียนในฐานะนักโหราศาสตร์ รู้สึกเข้าใจและเห็นใจคุณอลงกรณ์ จึงขอให้ความเห็นว่า เหตุที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างนี้เป็นเพราะดวงชะตาของพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งแก้ไขได้ยากยิ่ง

วิธีการแก้ไขจะต้องยุบเลิกแล้วย้ายพรรค เลือกฤกษ์ดีๆ ตั้งพรรคใหม่ เรียกว่า ต้องเกิดใหม่ ด้วยวิธีการผ่าท้องคลอดใหม่ ให้มีดวงชะตาใหม่ จึงจะปฏิรูปพรรคได้สำเร็จ

เนื่องจากวิถีกรรม หรือพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์เป็นไปตามดวงชะตา ซึ่งมีจุดอ่อนที่สำคัญอยู่หลายเรื่องตั้งแต่เกิดมาแล้ว

ทำนองเดียวกันกับ ดวงเมือง กรุงเทพฯ ซึ่งรัชกาลที่ 4 ได้ทรงวางฤกษ์ดวงเมืองใหม่ ตั้งเสาหลักเมืองใหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ

ดวงชะตาของพรรคประชาธิปัตย์ มีตำแหน่งและระดับวาสนา ปรากฏตามดวงชะตา ดังนี้

วันเกิด ๕ เมษายน ๒๔๘๙
ปีจอ จ.ศ.๑๓๐๘
เวลาใกล้ค่ำ
ดวงราศีจักร์
๒๐ ๗๘ ๓ ลั ๖ ๔๙
ลัคนา(ลั) อยู่ในราศีกันย์
ดวงนวางค์จักร
๔๙๖ ๓ ๐ ๗ ๕ ๘ ๒ ๑

เมื่ออ่านจากดวงกำเนิดแล้ว จุดอ่อนของพรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ดังนี้

1. ดาวศุกร์ (๖) ไปอยู่ในเรือนมรณะ อ่านว่า บริวาร มักล้มหายตายจาก หรือลาออกไปง่าย นั่นคือเป็นใหญ่ไม่ได้ ถ้าสงบก็ต้องมีคนตาย หรือถ้าวุ่นวายก็ต้องมีคนไม่ลาออกไปจำนวนหนึ่งนั่นแหละ เรือนมรณะแปลว่า ความตาย การดับสูญ

พูดแบบชาวบ้านก็คือ เป็นดวงชะตาที่บริวารอยู่ไม่ทนนั่นแหละ

2. ดาวพุธ (๔) เป็นเรือนเจ้าตนุ และเจ้าเรือนกัมมะ ตกในเรือนอริ ดาวพุธ (๔) หมายถึงไหวพริบ และคำพูด คำว่า เจ้าเรือนตนุ อ่านว่า ตัวตนของพรรคประชาธิปัตย์ ชอบความขัดแย้ง ชอบต่อสู้ ชอบมีปัญหา ชอบมีอุปสรรค ชอบใช้ปากสร้างศัตรู หรือหาเรื่องนั่นแหละ เรื่องนี้เป็นที่รู้ๆ กันอยู่

อีกด้านหนึ่ง ดาวพุธ (๔) เป็นเจ้าเรือนกัมมะ (กัมมะ แปลว่า การงาน) เมื่อเจ้าเรือนกัมมะไปอยู่ในเรือนอริ อ่านว่า งานที่ทำไม่ค่อยราบรื่น มักมีอุปสรรค มีความขัดแย้ง ไม่สำเร็จง่ายๆ จนได้สมญานามว่า "ดีแต่พูด"

ภาพที่ปรากฏในจอทีวี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ขว้างปาแฟ้มเอกสารใส่ประธานสภา ขณะเดียวกัน ส.ส.หญิงก็ขึ้นไปลากเก้าอี้ประธานสภาออก เกิดเรื่องชุลมุนในสภาอันทรงเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ก็กล้าทำให้เห็นกันมาแล้ว ทำให้ประเทศไทยต้องอับอายขายหน้าไปทั่วโลก

3. เรื่องอังคาร (๓) ได้มาตรฐานระดับอ่อนสุด (มาตรฐาน นิจ) ในดวงนวางค์จักร

จุดอ่อนเกี่ยวกับ ความขยันเรื่องนี้เคี่ยวเข็ญได้ยาก ดาวอังคาร (๓) เป็นสัญลักษณ์ของความกล้า ความขยัน เลือดลม และพละกำลัง วันก่อตั้งพรรค ดาวอังคาร (๓) ได้มาตรฐานอ่อนสุดๆ ปรากฏในดวงนวางค์จักร ดาวอังคาร (๓) ได้มาตรฐานนิจ ถ้าเป็นดวงชะตาบุคคลลองอ่านไปตามหลักวิชาว่า เจ้าชะตาเป็นคนไม่ขยัน ไม่กล้าตัดสินใจ

ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าเป็นดวงชะตาบุคคลเป็นเหตุให้ถูกเจ้านายเขม่นย้ายงาน หรือถูกยื่นซองขาวได้ง่าย เพราะไม่ขยันเท่าที่ควร ใจไม่ถึง เลือดลมไม่ดี อ่อนเพลียง่าย ทำงานไม่เสร็จตามกำหนด เพราะไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร นัดหมายกับใครไม่ทันเวลา ลุกช้า เคลื่อนไหวช้า

ถ้ามองในด้านความกล้าตัดสินใจกันแล้ว พรรคพรรคประชาธิปัตย์ถูกรู้จักกันทั่วแต่เข้าตำราใจเล็กนั่นแหละว่าอย่างงั้นเถอะ

4. เรื่องคุณภาพของดาวเสาร์ (๗) ต้องเรียกว่าใช้ไม่ได้เลยจริงๆ เนื่องจากดาวเสาร์ (๗) ได้มาตรฐานนิจ ในดวงนวางค์จักร

เช่นเดียวกับดาวอังคาร (๓) ความอดทนที่จะฟันฝ่าอุปสรรคมีน้อยที่สุดหรืออ่อนมาก คนเราถ้าเกิดมามีดาวเสาร์ (๗) และดาวอังคาร (๓) อ่อนด้อยทั้งสองดวงเช่นนี้เรียกว่าเป็นคนวาสนาน้อย เพราะการดำเนินชีวิตจะต้องสู้ชีวิตต้องกล้าคิดกล้าทำแบบกัดติด ไม่ถอดใจง่าย การที่ดาวทั้งสองดวงในดวงชะตาของพรรคประชาธิปัตย์ มีคุณภาพระดับอ่อนที่สุดเช่นนี้ อ่านได้ว่าเป็นนิสัยเดิมๆ ที่แก้ไขได้ยาก นอกจากให้ลาตายไปแล้วเกิดใหม่

ถ้าจะตั้งพรรคใหม่ต้องเลือกวันที่ตั้งพรรคให้ดาวเสาร์ (๗) และดาวอังคาร (๓) ได้มาตรฐานระดับสูงๆ เช่น มาตรฐานอุจ มาตรฐานเกษตร มาตรฐานมหาจักร มาตรฐานราชาโชค ฯลฯ จะได้ขยันและอดทน

ถึงแม้ว่าจะมีการปฏิรูปพรรคใหม่อย่างไรก็แก้นิสัยเสียหรือจุดอ่อน 2 เรื่องนี้ไม่ได้แน่

5. จุดอ่อนที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ทำงานใหญ่ไม่สำเร็จ ก็คือ พรรคนี้ตั้งในวันศุกร์ (6) ดาวศุกร์จึงเป็นบริวารเดิม ดาวบริวารเดิมไปอยู่ในเรือนมรณะ

ถ้าเป็นดวงชะตาของคนก็ต้องอ่านว่าเจ้าชะตาเป็นคนเพื่อนน้อย ลูกน้องน้อย เรื่องนี้แหละที่ทำให้พรรคนี้มีขนาดใหญ่ได้ยาก

เรือนมรณะ อ่านว่า เรือนชะตาที่เสีย หมายถึงความตาย การดับสูญ หรือการลาออกจากพรรค ประชาชนผู้สนใจ การเมืองและติดตามวิถีกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องยอมรับความจริงในเรื่องบริวารที่จากไปได้เป็นอย่างดี

จากหลักฐานที่ปรากฏได้แก่

1. นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียิงศีรษะตัวเองตายในระหว่างเดินทางไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล

2. นายสุวโรจน์ พะลัง ส.ส.ชุมพร ป่วยตาย ระหว่างการเลือกตั้ง ปี พ.ศ.2553

นอกจากนี้ มี ส.ส.คนสำคัญลาออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์หลายครั้ง รวมได้ประมาณ 15 คน ได้แก่

1. นายชัย ชิดชอบ

2. นายสมัคร สุนทรเวช

3. นายอุทัย พิมพ์ใจชน

4. นายบุญเกิด หิรัญคำ

5. นายใหญ่ ศวิตชาติ

6. พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์

7. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

8. นายเฉลิมพันธุ์ ศรีวิกรณ์

9. พลเอกหาญ ลีนานนท์

10. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์

11. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล

12. นายประสพ บุษราคัม

13. นายวาสนา ภูพันธ์ตันติ

14. นายนพดล ปัทมะ

15. นายสุนัย จุลพงศธร

บุคคลเหล่านี้ เป็นผู้มีสติปัญญา มีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างสูงทั้งสิ้น

ดังนั้น แนวทางความคิดการปฏิรูปพรรคของ คุณอลงกรณ์สมควรจะสอบถามความเห็นจากอดีต ส.ส.ของพรรคผู้มีรายชื่อดังกล่าวข้างต้น ว่าเหตุใดจึงได้ลาออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะได้คำอธิบายดีๆ เอากลับมาปรับปรุงระบบงานในพรรคได้ด้วย

การที่นายอลงกรณ์ลุกขึ้นเรียกร้องให้ปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณบอกเหตุว่า ถ้าไม่เป็นไปตามที่คุณอลงกรณ์ลุกขึ้นเรียกร้อง อาจมีการแตกร้าวหรือแยกวงกันอีกก็เป็นได้

ผู้เขียนขอเสนอให้สมาชิกพรรคลองสอบถามตัวเองแล้วทบทวนดูว่า

1) การสร้างภาพว่าซื่อสัตย์ ไม่โกงไม่กินนั้นยังใช้ได้ดีอยู่หรือไม่?

2) การโจมตีคนอื่นว่าไม่เทิดทูนสถาบันยังใช้ได้ดีต่อไปหรือไม่

3) การปล่อยให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แสดงความคิดเห็นแนะนำรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ คิดว่าเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างไรหรือไม่?

4) สุดท้าย ลองปรึกษา ส.ว.บุญเลิศ ไพรินทร์ อ่านดวงชะตาจากวัน-เวลาที่ตั้งพรรค ถ้าไม่เห็นด้วยกับผู้เขียนตรงไหน อย่างไร ก็ขอให้เขียนมาแสดงความคิดเห็นได้

จะได้ให้ผู้สนใจเรียนโหราศาสตร์ไทยได้มีตัวอย่างเรียนรู้กันบ้าง

"ศ.อุกฤษ มงคลนาวิน" เตือนศาลรัฐธรรมนูญต้องทบทวนบทบาท ประชาชนไม่ใช่วัว-ควาย!


นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) กล่าวถึงข้อเสนอปรับปรุงศาลรัฐธรรมนูญว่า สิ่งที่ได้นำเสนอไปนั้น เป็นผลจากการศึกษาส่วนหนึ่งของแนวคิดที่จะมีการนำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต่อสังคม โดยเป็นแนวความคิดที่อยู่ในใจมานานแล้ว และผ่านการประชุมของ คอ.นธ.ทั้งคณะ 
 

         ทั้งนี้ส่วนจังหวะที่นำเสนอนั้นยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่ต้องการถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และมีการชุมนุมที่บริเวณหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญอยู่ตอนนี้ แต่ยอมรับว่าความคิดอาจจะมีความใกล้เคียงกันได้ เพราะปัจจุบันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเกิดปัญหา เพราะได้ตีความขยายอำนาจจากที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
 

         " ผมมองว่าเมื่อมีความขัดแย้งระหว่างศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มคนเสื้อแดง ผมในฐานะผู้ใหญ่ไม่อยากเห็นการก่อเหตุบานปลาย จึงปรารถนาดีเป็นคนกลาง หรือเป็นกรรมการเพื่อเตือนสติให้แต่ละฝ่ายได้พึงกระทำตามสิทธิที่กฎหมายให้ไว้ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเองต้องทบทวนบทบาท อย่าทำอะไรที่สร้างอันตราย เพราะประชาชนไม่ใช่วัว ไม่ใช่ควาย มีมันสมองที่เมื่อวันหนึ่งทนไม่ไหวก็อาจจะใช้กำลังได้ ขณะคนชุมนุมไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขณะนี้ ควรเคารพกติกา อย่าใช้ความรุนแรง " นายอุกฤษ กล่าว

ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมวินิจฉัย "สมาชิกภาพ ส.ส. อภิสิทธิ์" วันที่ 1 พ.ค.นี้


วันที่ 28 เมษายน 2556 (go6TV) แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีคำสั่งให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมกรณีที่ส.ส. 134 คน ยื่นคำร้องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ หลังจากที่กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ กลับมายังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วัน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วยังเห็นว่าคำร้องดังกล่าวไม่มีข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนายอภิสิทธิ์ เพียงแต่ผู้ร้องได้แนบแต่คำสั่งของกระทรวงกลาโหมมาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น จึงไม่ชัดเจนว่าคำสั่งกระทรวงกลาโหมเป็นที่สุดแล้วหรือไม่

 แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส่งเอกสารประกอบคำร้องเพิ่มเติมกลับมายังศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมกลับมานั้นเป็นเอกสารที่มีข้อมูลชี้แจงเหตุผลคำสั่งของกระทรวงกลาโหมอย่างละเอียด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าคำสั่งของกระทรวงกลาโหมที่ออกมานั้นมีผลสิ้นสุดลงอย่างไร  เหตุผลของคำร้องเป็นที่สิ้นสุดอย่างไรและความเป็นสมาชิกภาพส.ส.ของนายอภิสิทธิ์สิ้นสุดลงอย่างไร พร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่าการที่นายอภิสิทธิ์ไปยื่นเรื่องฟ้องพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ต่อศาลปกครองนั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกระบวนการของศาลปกครองยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ยังไม่มีคำสั่งใดๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เอกสารเพิ่มเติมมาแล้วได้มอบหมายให้ตุลาการประจำคดีเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นคาดว่าตุลาการประจำคดีน่าจะเสนอคำร้องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 พ.ค.

ด่วน! สะพาน 200ปีถล่ม ที่อยุธยา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

เกิดเหตุสะพาน 200 ปี อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ถล่มทำให้รถยนต์ตกลงไปในน้ำหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นประมาณ 10 คน ยังไม่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตหรือไม่

ขอบคุณภาพถ่ายจาก YNWA / ชมรมกู้ภัยจังหวัดนครสวรรค์




ภาพสะพานก่อนเกิดเหตุ





"พานทองแท้" เผยสื่อเทศโฟกัส "ยิ่งลักษณ์" เป็นพิเศษ พร้อมแนะ "ประชาธิปัตย์" เก็บ "จ้อน" ช่วงนี้

28 เมษายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00น.ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาระบุว่าสื่อกระแสหลักในต่างประเทศให้ความสนใจติดตามเผยแพร่ข่าวความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากการประชุมเอเซียนซัมมิทเป็นพิเศษ นอกจากนี้นายพานทองแท้ยังแสดงความเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการเตือน "จ้อน" ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายอลงกรณ์ พลบุตร ให้งดการพูดเรื่องการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ นายพานทองแท้ โพต์ข้อความดังนี้ 



มุมมองสื่อ ของประเทศยักษ์ใหญ่แห่งเอเซีย ต่อการประชุม Asean Summit ครั้งที่22 เมื่อ3-4วันที่แล้วครับ

วันก่อนผมหาข้อมูลการประชุม Asean Summit ในเวปไซต์ต่างๆ ปรากฏว่ามาสะดุดตาเวปข่าวของ India Times 

ผู้ที่เชียร์การทำงานของรัฐบาลไทย เมื่อได้เข้าไปดู คงจะปลื้มใจไปกับผู้นำประเทศของเรา ที่ได้รับความสนใจจากประเทศ ซึ่งอยู่นอกอาเซียน ที่คอยเฝ้าดูการประชุมอยู่

แต่สำหรับ "สลิ่ม, แมลงสาบ" ทั้งหลายต้องขอเตือนว่าอย่าเข้าไปดูเด็ดขาด อาจถึงขั้นอกแตกตายได้...!!! แหะๆ...ผมพูดไปงั้นแหละ เพราะรู้ว่าคนที่ผมเตือนไว้ว่า "อย่าดู" มักจะกดเข้าไปดูพอๆหรืออาจจะมากกว่า ผู้ที่ชื่นชม"อาปู"ด้วยซ้ำ ไม่เชื่อลองดูตามนี้ครับ 

http://www.indiatimes.com/news/asia/asean-summit-thai-pm-steals-the-show-74125.html

อินเดียไทมส์ พาดหัวข่าวไว้ว่า "Thai PM Steals the show" แทนประโยค "Our people, Our future Together" ซึ่งเป็นTheme ของการจัดงาน แปลว่าสายตาทุกคู่ ที่จับจ้องการประชุมอาเซียนซัมมิทอยู่นั้น โฟกัสมาที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ของประเทศไทย 

สิ่งนี้ทำให้ 
"ผมระลึกถึงภาพเก่าๆ ที่ไทยเราถูกยกย่องให้เป็น Leader of Asean ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ครับ

ลองกด Next หรือกด Slide Show ดูไปเรื่อยๆก็เพลินดีครับ เป็นอิริยาบทต่างๆของนายกฯไทย ซึ่งมีทั้งขณะที่กำลังนั่งพูด โดยมีผู้นำประเทศต่างๆนั่งฟังด้วยความสนใจ, การต้อนรับโดยเจ้าภาพบรูไน, ภาพอาปูเข้าร่วมในการประชุมต่างๆ และภาพอาปูโบกมือลา โดยมีคำอธิบายใต้ภาพไว้ชัดเจน

"อาปูแต่งตัวสวย"ครับ ยอมรับเลย ท่านแต่งกายด้วยผ้าไทย ตัดเย็บแบบไทยๆ แสดงความเป็นเอกลักษณ์ไทย ให้ชาวโลกได้ชื่นชม ทำให้เอกลักษณ์และความเป็นไทยนี้ เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในโลกสากลครับ

ผมต้องยอมรับดักคอกันไว้ก่อน ว่า"อาปูแต่งตัวสวย"ครับ เพราะรู้ดีว่าอาปูจะต้องเจอกระแนะกระแหน ในเรื่องไร้สาระอะไรมั่ง มันเป็นการเมืองแบบไทยๆ สไตล์ประชาธิปัตย์ ที่ผมเริ่มจะชื่นชอบ เพราะคุ้นชินและดักทางได้อย่างสบายแล้วครับ หมดห่วงสบายบรื๊อ... Everything under control 

เป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์ อยู่เรื่องเดียวครับตอนนี้ ใครก็ได้เอา "อาจ้อน"ไปเก็บหน่อย ช่วงนี้ชักจะพูดเยอะเกินไป อภิสิทธิ์ก็ด่าแล้ว ท่านชวนก็เตือนแล้ว แกยังไม่ยอมฟังอีก อีก2ปีกว่าๆก็จะเลือกตั้งกันอีกแล้ว จะมาปฏิร่ง-ปฏิรูปพรรคอะไรเลอะเทอะ ทำตัวผิดคาแรกเตอร์พรรคเก่าแก่ น่าเบื่อจริงๆ 

หมูจะหาม เอาคานเข้ามาสอด อาจ้อนนี่นะ ปั๊ดโธ่...!!

เจิมสากอ่วม! ชาวเน็ตจัดหนักหลังโพสต์เหยียดศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง นางแบบสาว "ปางน้ำฟ้า"

28 เมษายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดีกที่ผ่านมา นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน พรีเซ็นเตอร์และนางแบบชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พิธีกรสถานีโทรทัศน์บลูสกายชาแนล สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมกระบอกเสียงพรรคประชาธิปัตย์ที่นำรูปของตนเองที่ถ่ายรูปคู่ "พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร" เมื่อครั้งที่ได้ได้ร่วมเดินทางไปกับกิจกรรม NASA No.1 ของแฟนเพจพานทองแท้ ชินวัตร ไปลงในเฟสบุ๊กและนายเจิมศักดิ์ได้ทำภาพกราฟิกด้วยข้อความไม่เหมาะสมลงไปด้วย โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมที่น่ารังเกียจของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รวมทั้งต่างแสดงความเห็นใจ นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน ที่ถูกนายเจิมศักดิ์รังแก และดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง

ทั้งนี้ นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน ได้โพสต์ข้อความถึง นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง โดยมีข้อความดังนี้


"คุณเป็นผู้ใหญ่รุ่นคุณปู่และยังเรียนจบเป็นถึงดร. (แปลคือผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือดุษฎีบัณฑิตที่คนอื่นเรียกว่าอาจารย์) แต่การกระทำและในความคิดของคุณมันมีแค่นี้เองเหรอคะ

ทำไมความคิดคุณไม่ได้สูงตามที่จบมาเลยละคะ ความสุขของคุณคือวันๆ มัวแต่หาเรื่องใสร้ายป้ายสีคนอื่น จับผิดคนอื่น ด่าว่าร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์แค่นั้น แล้วคุณไม่ทำงานเหรอคะ?

หรือนี่คืองานของคุณ เพื่อจะเอาศักดิ์ศรีไปแลกกับเงิน รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ตาดำๆ คนนึงได้ เพื่อกีฬาสีของคุณเนี่ยเหรอคะ นู๋จะบอกอะไรให้นะคะท่านด๊อก ไม่มีอะไรสามารถซื้อคนอย่างปางน้ำฟ้าได้หรอกคะ ถึงจะตัวเล็กกระจิ๋วหลิ๋วนิดเดียวนู๋ก็ทำงานทำการหาเงินใช้เองโดยสุจริต โดยใช้ความเพียรได้นะคะ อย่าเอาตนเองมาวัดค่าของคนกับผู้อื่นคะ เราไม่เหมือนกันคะ ...โดยที่ไม่ต้องวันๆ มัวแต่หาเรื่องด่าคนอื่นใส่ร้ายคนอื่นใสเฟสบุ๊กตนเอง เพื่อให้นายหรือใครชื่นชมตนเองหรอกนะคะท่าน "ด๊อก" เจิมศักดิ์ปิ่นทอง...

"ป.ล.ไม่ทราบว่านู๋ไปทำร้ายคุณตอนไหนเหรอคะ เสียดายโตซะเปล่า ให้เด็กมาพูดแบบนี้กับคุณ บ่งตรง ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกเพราะคุณเองก็เป็นผู้ใหญ่มากๆ นู๋รู้มันไม่ดีเลย แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำแบบนี้ นู๋ก็เกินคำว่าอดทนนะคะ แน่จริง อย่าลบข้อความที่โพสไปนะคะท่านด๊อกเตอร์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง"