วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"กลุ่มแพทย์พยาบาล" มอบดอกไม้ให้กำลังใจ ผบ.ตร. และตำรวจทั้งประเทศ






วันนี้ (31 ธ.ค.56) เวลา 15.00 น. กลุ่มแพทย์พยาบาลศรัทธาประชาธิปไตย และกลุ่มแพทย์และประชาชนผู้รักความยุติธรรม ได้มาร่วมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้การต้อนรับ ณ ห้องรับรอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"พานทองแท้" ซัด อภิสิทธิ์ ปฏิรูปตัวเองก่อน ปฏิรูปประเทศ

วันที่ 31 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพกาตูนพร้อมข้อความลง เฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้



ปฏิรูป + ล้มการเลือกตั้ง + ฉีกรัฐธรรมนูญ + ตั้งนายกขึ้นมาเอง = การปฏิวัติรัฐประหาร

ผมว่าสมการข้างบนนี้ต่างหาก ที่นายอภิสิทธิ์ฯ อยากให้เป็นของขวัญปีใหม่ แด่พี่น้องคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่คำพูดที่งดงามตามรูปหรอก ครับ

3ข้ออะไรที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประดิษฐ์ประดอยคำพูดมาสวยหรูนั้น เป็นความคิดของอดีตรองหัวหน้าพรรค นามว่าอาจ้อน อลงกรณ์ พลบุตร นักประชาธิปไตยตัวจริง-ชัดเจน ที่กล้าเอากระดิ่งไปผูกคอแมว เสนอการปฏิรูปพรรคฯแต่กลับถูกต่อต้าน จนถูกปลดลงจากรองหัวหน้าพรรคฯ ต้องเก็บข้าวของออกจากห้อง แทบจะไม่เหลือที่ยืนในพรรคฯต่อไป ปลดเขาแล้วอย่าไปขี้ตู่ผลงานของเขาครับ

ขณะนี้เสียงพี่น้องประชาชนสงสัยกันมากว่า หากพรรคประชาธิปัตย์มีความจริงใจที่จะปฏิรูปจริงๆแล้ว ทำไมจึงต้องปลดรองหน.อลงกรณ์ฯ ทำไมจึงมีข่าวว่าถูกอภิสิทธิ์ฯตำหนิเรื่องการปฏิรูป และทำไมไม่คิดจะปฏิรูปตอนปชป.เป็นรัฐบาล แต่จะต้องมาเพิ่มวิกฤติให้ประเทศถึงทางตัน กันในตอนนี้วะครับ

ยิ่งถึงตอนนี้ประชาชน ได้เห็นภาพรวมได้กระจ่างชัดยิ่งขึ้น เขาก็ต่อยอดความคิดกันไปอีกว่า ตลอด2ปีกว่าๆที่อภิสิทธิ์ฯดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่เห็นคิดจะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย จำได้ก็เพียง นโยบายขายไข่ชั่งกิโล นโยบายเคารพธงชาติเช้าเย็น นโยบายที่ลงท้ายด้วยคำว่าเข้มแข็ง ที่โดนครหาเรื่องการทุจริตอย่างมากมาย แล้วก็มีอดีตนายกฯชวนมาช่วยเสนอ ให้ประชาชนกินของนึ่งแทนของทอด ตอนที่มีการปั่นราคาน้ำมันปาล์ม ประชาชนเค้าจำได้แค่นี้จริงๆ

แต่พอเป็นฝ่ายค้านนายอภิสิทธิ์ฯขยันจังครับ ลงพื้นที่ ติโน่น ตินี่ ตำหนิติเตียนผู้อื่นตลอดเวลา พอประเทศชาติเกิดวิกฤติ แทนที่จะลดความขัดแย้งทางการเมือง กลับแบ่งหน้าที่กันกับนายสุเทพฯ รวมกันเดิน-แยกกันตี ทำอะไรสอดคล้องกัน ไปในทิศทางที่จะผลักดัน ให้ประเทศถึงทางตันอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรจะให้เป็นของขวัญให้กับพี่น้องประชาชนคือ พรรคประชาธิปัตย์ควรยอมรับความผิดพลาดของพรรคฯตัวเอง แข่งกันทางด้านบวก ในเมื่อนโยบายสู้เขาไม่ได้ ประชาชนเขาไม่เอา มันก็ต้องแพ้เลือกตั้งเป็นธรรมดา ควรจะกลับไปแก้ไขปรับปรุงตัวเสียใหม่

ไม่ใช่สู้ทางด้านบวกไม่ได้ก็ใช้ด้านลบ สร้างความหวาดกลัว สร้างความเกลียดชัง ในหมู่พี่น้องไทยจนแทบจะฝังรากลึก ไปจนเป็นสันดานไปชั่วลูกชั่วหลาน ทำแบบนี้อาจจะเป็นประโยชน์ทางการเมืองของพรรคฯตัวเอง แต่วัฒนธรรมที่ดีงามของไทยฉิบหายกันหมดแล้วครับ


ปฏิรูปพรรคฯตัวเอง ปฏิรูปความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย ปฏิรูปนิสัยตัวเองให้ดีเสียก่อน จึงค่อยมาเสนอหน้าเป็นผู้ปฏิรูปประเทศไทยครับ

นายกรัฐมนตรี อวยพรปีใหม่คนไทย "ขอให้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อจะได้มีทางออกอย่างสันติ"

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปี๒๕๕๗ ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนร่วมจิตร่วมใจ ร่วมขอพรเพื่อให้คนไทยได้กลับมารักและสามัคคีกัน ให้ผู้ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งไม่ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองหรือความเชื่อที่แตกต่าง ได้หันหน้าเข้ากัน เพื่อบ้านเมืองของเราจะได้มีทางออกที่สันติ

และดิฉันขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนคนไทยว่า ดิฉันจะตั้งใจทำงานอย่างไม่ย่อท้อ จะอดทน ท่ามกลางสถานการณ์ช่วงนี้ ในขณะเดียวกันดิฉันจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดอง และปกป้องรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างสุดความสามารถ


สุดท้ายนี้ ดิฉันขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ตลอดจนพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ คุ้มครองคนไทยให้อยู่รอดปลอดภัย สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนา และดลบันดาลให้ประเทศชาติสงบสันติเพื่ออนาคตของลูกหลานไทยทุกคน

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เทศกิจสุดกร่าง! เบ่งคับโรงพักอ้างเป็นการ์ดม็อบกบฏ ส่งยาให้ม็อบ ค้นพบปืนพร้อมกระสุน ตะโกนลั่นใครกล้าจับกู?

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา สายตรวจ สน.ท่าข้าม ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยคนหนึ่งได้ที่ซอยท่าข้าม 20  จึงได้ขออนุญาตตรวจค้น จึงทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายเจริญ เอียดปราบ อายุ 43 ปี ยอมรับสารภาพว่าเป็น จนท.เทศกิจอยู่  สนง. เขตธนบุรีได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ขนยายี่ห้อต่างๆจำนวนมาก อาทิยาแก้ปวด ยาใส่แผลสด อุปกรณ์ทำแผลชนิดต่างๆ   และยังพบอีกว่าเป็นการ์ดอาสากลุ่ม กปปส. โดยกำลังเตรียมตัวไปร่วมม๊อบ  ในขณะเดียวกัน ได้พบของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์พร้อมลูกกระสุนจำนวน 2 นัด  ซึ่งนายเจริญอ้างว่า มีไว้ป้องกันตัว

ภายหลังเข้าจับกุมข้อหามีอาวุธไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นายเจริญได้โวยวายขึ้นมาว่า “ใครกล้าจับกู นายกูสั่งมา มึงมีปัญหา อยากโดนถล่มโรงพักมึงเอาเลย”  ซึ่งจากนั้น นายเจริญก็ได้ขอโทรศัพท์ไปยังผู้บังคับบัญชาให้โทรติดต่อมายัง สน. เพื่อขอให้ละเว้นการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้ามไม่ยินยอม จึงสั่งให้ดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด

"โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" เตือน "เทพเทือก" คิดให้ดีๆ ก่อนปิดกรุงเทพเป็นของขวัญปีใหม่

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนไอดี @Oak Panthongtae Shinawatra กล่าวถึงมาตรการปิดกรุงเทพของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่นายสุเทพแสนภูมิใจมอบให้ประชาชน ย้ำให้นายสุเทพ คิดให้ดีว่า แท้จริงแล้วคนไทยต้องการ “เลือกตั้ง หรือ เทือกตั้ง”

"ยุทธการ...ปิดกรุงเทพฯ...!!" คือของขวัญปีใหม่ พุทธศักราช 2557
ที่แก๊งค์ อดีตสส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจมอบให้กับพี่น้องไทยทุกคนครับ

ม็อบประชาธิปัตย์คิดแปลกครับ คิดจะนำพาประเทศย้อนยุคไปเหมือนกับเขมรแดงในปีพ.ศ.2518 ซึ่งได้กระทำการปิดกรุงพนมเปญ จนยึดอำนาจได้สำเร็จ และในที่สุดก็ปิดทั้งประเทศ โดดเดี่ยวตัวเองออกจากประเทศอื่นๆทั่วโลก และจัดตั้งระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมพึ่งตัวเอง ทำให้เขมรซึ่งมีความเจริญทางอารยธรรม สูงสุดในอดีตกาล กลับต้องล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน ไปอย่างน่าเสียดาย

ผ่านมาเกือบ40ปีให้หลัง สุเทพ เทือกสุบรรณ คิดจะกระทำซ้ำรอยเขมรแดง ด้วยการปิดกรุงเทพครับ นำม็อบป่วนไปทั่วเมือง เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าจะต้องปฏิรูปการเมืองให้เสร็จก่อน จึงจะอนุญาตให้มีการเลือกตั้งได้ ประท้วงมาจนถึงวันนี้ เศรษฐกิจไทยคิดแค่ธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเดียว ก็เสียหายยับเยินไปนับแสนล้านบาทแล้ว ล่าสุดนายสุเทพฯยังจะประกาศ ซ้ำเติมความฉิบหายอีกว่า หลังปีใหม่นี้ คนกรุงเทพฯต้องเตรียมตัว รับชะตากรรม "คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า" กับแผนการหลุดโลกสไตล์ม็อบประชาธิปัตย์ ได้แก่ ยุทธการ...ปิดกรุงเทพฯ...!!

พานทองแท้ขอเตือนไว้เลยว่า ถ้าม็อบประชาธิปัตย์ล้มการเลือกตั้งได้สำเร็จ ประเทศไทยจะกลับมาสู่ระบบการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยได้ยากแล้วครับ ครั้งนั้นกว่าเขมรจะกลับเข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้งได้ ต้องใช้เวลาถึง16ปี โดยเขมรแต่ละฝ่ายต้องลงสัตยาบันกันว่า จะให้สหประชาชาติเข้ามาจัดการเลือกตั้ง และแล้วในที่สุดฝ่ายเขมรแดง ที่ได้กระทำการปิดล้อมกรุงพนมเปญเมื่อ16ปีก่อน ก็เบี้ยวสัตยาบันอีก โดยไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่สหประชาชาติเป็นผู้เข้ามาจัดการให้

ผมเชื่อว่ากติกาการเลือกตั้ง ที่ประชาธิปัตย์บอกว่าไม่ยุติธรรม ต้องแก้ไขก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เป็นเพียงข้ออ้างของคนประเภท"แพ้แล้วพาล"หรือ "ขี้แพ้ชวนตี" เท่านั้นครับ จนถึงวันนี้มีพรรคการเมืองไปสมัครรับเลือกตั้งแล้วถึง53พรรค แสดงว่าทุกพรรคฯการเมืองเขาต่างก็ยอมรับกติกากันทั้งนั้น มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่เพียงพรรคเดียว ที่งอแงไม่ยอมลงสมัคร และออกมาป่วนบ้านเมืองอยู่ทุกวันนี้

ถ้าประชาธิปัตย์อยากจะเป็นรัฐบาลแต่แพ้เลือกตั้ง เป็นฝ่ายค้านได้ไม่เท่าไหร่ ก็งอแงป่วนบ้านป่วนเมืองแบบนี้ได้ ต่อนี้ไปนักการเมืองที่รู้ตัวว่า เลือกตั้งไปยังไงตัวก็แพ้ ก็จะใช้วิธีการซ้ำรอยม็อบประชาธิปัตย์แบบนี้อีกครับ นำม็อบออกมาป่วนเมือง สร้างสถานการณ์ให้มีคนตาย มีความวุ่นวายเกิดขึ้นมากๆ ก็จะมีการเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้ง เสนอคนกลางมาเป็นนายกฯ เสนอให้แก้ไขกติกาให้ตัวเองได้เปรียบ การแข่งขันโดยกระบวนการประชาธิปไตย ด้วยวิธีหย่อนบัตรเลือกตั้ง ก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้อีก..!!

คนกรุงเทพฯกำลังถูก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หลอกให้กลัวคำว่า "ระบอบทักษิณ"ครับ กลัวโดยไม่มีเหตุผล ไม่ลืมหูลืมตา กลัวจนลืมคิดไปว่า ถ้าทำสำเร็จแล้ว "ระบอบสุเทพฯ" จะเข้ามาแทนที่หรือไม่ ถ้าระบอบทักษิณฯคือ การสร้างผลงานให้เข้าตาประชาชนมากมาย จนถูกขนานนามว่าเป็น "ประชานิยม" แล้วพอถึงเวลาที่กฏหมายกำหนด ประชาชนจะชอบ-ไม่ชอบอย่างไร ก็ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นระะบอบที่อยู่ภายใต้ประชาธิปไตย แล้วระบอบสุเทพฯหละ มีจุดขายจุดแข็งอะไรบ้าง นอกจากขายความกลัวและสร้างความเกลียดชัง ในหมู่พี่น้องคนไทยด้วยกัน

ถ้านำมาเปรียบเทียบกับ "ระบอบสุเทพ" ซึ่งเริ่มมาจากคนที่เป็นนักการเมืองมา35ปี ยังไม่เคยได้ยินผลงานทางด้านบวกอะไร ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยบ้าง จะถามคนสักกี่ร้อยคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยได้ยินแม้แต่โครงการเดียว เคยแต่ได้ยินเรื่องราวฉาวโฉ่อยู่ตลอดเวลา แทนที่นายสุเทพฯจะปรับปรุงตัว หรือแม้แต่จะปฏิรูปพรรคฯตัวเองให้ดีขึ้น ประชาชนเค้าจะได้เลือกมาเป็นรัฐบาล กลับไม่คิดจะทำ เอาแต่จะป่วนบ้านป่วนเมือง ล้มเลือกตั้ง ล้มประชาธิปไตย

ตั้งแต่โบราณกาล เราเคยปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การเลือกคนเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ จะทรงเป็นผู้เลือกด้วยพระองค์เอง จนกระทั่งในหลวงรัชกาลที่7 ทรงพระราชทานสิทธิของพระองค์ท่าน ให้กับปวงชนชาวไทยโดยรวม ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งคนเป็นพ่อ-ลูกกัน ยังไปใช้สิทธิ์แทนกันไม่ได้เลย แล้วสุเทพ เทือกสุบรรณ คิดว่าตัวเองเป็นใคร?? จึงจะมาใช้สิทธิ์พระราชทานนี้ แทนพี่น้องประชาชนได้..!!

ขออัญเชิญ พระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติ ของในหลวงรัชการที่7 อันเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้พี่น้องได้ทบทวนกันดูอีกครั้ง

"ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของ ข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"

อย่าลืมว่าพรรคการเมือง 53พรรค พร้อมที่จะลงเลือกตั้ง มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์พรรคฯเดียวที่งอแง แผลงฤทธิ์ฟาดงวงฟาดงาอยู่ ประเด็นที่ต้องพิจารณาจึงเหลือแค่ เสียงนกหวีดที่ "ม็อบประชาธิปัตย์"เป่าหนวกหูกันอยู่นั้น คือเสียงอันแท้จริงของราษฎรโดยทั่วไป หรือเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

แค่นี้เราก็สรุปได้แล้วครับ ว่าคนไทยส่วนใหญ่ ต้องการ....

"เลือกตั้ง" หรือ "เทือกตั้ง"...??

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มือดีเป่าดับ1 เจ็บ5 การ์ดกปปส. ผวาชุลมุนกลางดึก ชาวเน็ตวิจารณ์ยิงกันเองสร้างสถานการณ์ - Update


28 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 3.30น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถเก๋ง มาจากทางแยกนางเลิ้งมาจอดตรงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุมของม็อบ กปปส. โดยได้ลดกระจกด้านหลังลงจากนั้นแล้วใช้ปืน ลักษณะคล้าย M16 กราดยิง การ์ดของ ม็อบ กปปส.ที่ยืนเฝ้าระวังเหตุการณ์อยู่บริเวณแนวรั้วด้านหลังเวทีปราศรัย จากนั้นหลบหนีไปโดยใช้เส้นทางวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และพบว่ารถคันดักล่าวได้ขับรถวนไปที่แยกมิสสักวันแล้วกราดยิงในลักษณะเดิมอีกครั้ง

เบื้องต้นมีการ์ดของม็อบ กปปส. รวมทั้ง การ์ดของ คปท. ถูกยิง 4 ราย รถกู้ชีพจากมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่ง รพ.รามาธิบดี 2 ราย รพ.กลาง 1 ราย และ รพ.ราชวิถี 1 ราย โดยรายที่ รพ.กลาง ทราบชื่อ นายจำเรียง จิตรวัตร อายุ 31 ปี ชาวอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกระสุนทะลุข้างลำตัว และ นายยุทธนา องอาจ ชาวอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ถูกยิงเสียชีวิต และเหตุยิงกันด้วยอาวุธปืน บริเวณที่ชุมนุมเวที คปท. บริเวณสะพานอรทัย มีผู้บาดเจ็บ นำส่ง โรงพยาบาลราชวิถี 1คน ชื่อ นายสเน่ห์ โลหะศาสตร์ อายุ57ปี ถูกยิงข้อเท้าซ้าย กระดูกแตก 

เหตุยิงกันด้วยอาวุธปืนบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ชื่อ นายประวิตร ทองแปรง อายุ25ปี ถูกยิงเหนือเข่า และ นายสุรพงษ์ สมแคล้ว อายุ29ปี ถูกยิงที่คอและไหล่ขวา อาการสาหัส

ต่อมาเวลาประมาณ 05.00น. เกิดเหตุยิงกันด้วยอาวุธปืน บริเวณสะพานอรทัย ผู้บาดเจ็บชื่อนายสมบัติ นาคเพชร อายุ 48ปี ถูกยิงบริเวณข้อศอกซ้าย จะไปโรงพยาบาลเปาโลแต่รถยนต์เสียหลักประสบอุบัติเหตุชนป้อมตำรวจบริเวณแยกโรงกรอกน้ำ ทำให้นางปานทอง นาคเพชร ที่นั่งมาด้วยศรีษะแตก นำส่งรพ.เปาโล


ขณะเดียวกัน ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้มีผู้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยความเห็นทั้งหมดเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่วิเคราะห์ว่าน่าจะเกิดการยิงกันเองของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อที่ต้องการเป็นข้ออ้างให้การ์ดของม็อบ กปปส. ติดอาวุธ รวมทั้งเพื่อเป็นการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วย






ระยำไม่หยุด! กปปส. ตัดน้ำตัดไฟ ป่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งภาคใต้ เลืยนแบบปิดล้อมกกต.กรุงเทพฯ

กปปส. ยกปิดล้อมสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ทำให้ไม่มีผู้เข้ารับสมัคร ส.ส.ในวันนี้ ด้านผอ. กกต หางโผล่ อ้างหากไม่ความปลอดภัยในชีวิตเจ้าหน้าที่พร้อมปิดการรับสมัคร 

กปปส.ชุมพร ปิดประตูเข้าออกสถานที่รับสมัคร ห้ามผู้สมัคร-เจ้าหน้าที่ เข้าออก พร้อมตัดน้ำตัดไฟทั้งหมด / ภาพข่าว ทิวา (ไทยรัฐ)
28 ธันวาคม 2556 go6TV - เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ผ่านมาบริเวณอาคารโรงยิมเนเซี่ยมสนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั้ง 6 เขตเลือกตั้งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นวันแรก ยังไม่มีใครเดินทางมาสมัครแต่อย่างใด นายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องการสมัครคนใดเดินทางเข้ามาสมัครได้

โดยสถานที่รับสมัครมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นประตูทางเข้า ทั้ง 2 ด้าน เนื่องจากด้านนอกอาคารมีกลุ่ม กปปส จำนวนหนึ่งพร้อมรถติดเครื่องขยายเสียงมาทำการปิดล้อมสถานที่รับสมัครพร้อม เปิดเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้องเข้าดูแลประจำการณ์ในจุดดังกล่าวแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ ประกอบไปด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดยะลา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดนราธิวาส

กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ยะลา เดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา ห้ามผู้สมัคร-เจ้าหน้าที่ เข้าออก พร้อมตัดน้ำตัดไฟทั้งหมด ไม่ให้ กกต.ยะลา ไม่ให้รับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต
ภาพ กปปส.ยะลาปิดประตูทางเข้า-ออกศาลากลางจังหวัด ปิดทางสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต
กปปส.ยะลา ปราศรัยโจมตี กกต.ยะลา ห้ามผู้สมัคร-เจ้าหน้าที่ เข้าออก พร้อมตัดน้ำตัดไฟทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ภาพรถตำรวจที่สนามไทย-ญี่ปุ่น รูกระสุนพรุน






คลิปยืนยันชัดเจน "ตำรวจ" เข้าไปช่วยเหลือข้าราชการ ก.แรงงาน พาหนีตายจนโดนผู้ชุมนุมยิงปืนใส่ได้รับบาดเจ็บ



เปิดภาพความจริง จากกรณีที่มีข่าวใส่ร้าย "ตำรวจ" โดยผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นข้าราชการกระทรวงแรงงาน ว่าตำรวจไม่ได้เข้าไปช่วยข้าราชการในกระทรวงแรงงานเลยสักคน หายไปหมด  มีแต่ม็อบผู้ชุมนุมช่วยข้าราชการในกระทรวงแรงงาน แต่ตำรวจไปฆ่าทำร้ายผู้ชุมนุมนั้น

คลิปนี้ เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน ข้าราชการคนนั้นโกหก  เพราะในกระทรวงแรงงานนั้น มีแต่ตำรวจปราบจราจลที่เข้าไปอยู่ในกระทรวงแรงงานช่วยเหลือข้าราชการยันม็อบเอาไว้

ในคลิปดังกล่าว เป็นภาพถ่ายไปยังหน้าประตูกระทรวงแรงงาน กำแพงสนามกีฬาอยู่ขวามือ และกำแพงที่ข้าราชการปีนหนีตายไปด้านนอกนั้นอยู่ด้านซ้ายมือ  ตำรวจปราบจราจลให้ข้าราชการออกไปทางด้านซ้าย และตัวตำรวจไปยืนผลักดันผู้ชุมนุมเอง ที่ด้านหน้าประตู มีรถตำรวจเป็นจุดกำบัง จนโดนฝ่ายผู้ชุมนุมยิงเข้ามาด้วยอาวุธปืนจนบาดเจ็บ ต้องพาขึ้นรถพยาบาลวิ่งออกไป

ดังนั้นที่ข้าราชการกระทรวงแรงงาน "คนหนึ่ง" เขียนว่าไม่มีตำรวจช่วยเหลือเลยสักคน จึงเป็นการบิดเบือนอย่างรุนแรง และยิ่งหากบอกว่าม็อบมาช่วยเหลือข้าราชการ แต่ตำรวจทำร้ายผู้ชุมนุม ก็ยิ่งเป็นการบิดเบือนที่น่าสมเพชมากที่สุด

หากเป็นข้าราชการแล้วไม่รู้เลยว่า ใครคือผู้บุกรุกผิดกฏหมาย ใครคือผู้ปกป้องภัยให้ตัวเอง ก็ไม่สมควรเป็นข้าราชการอีกต่อไป เพราะประเทศชาติจะวิบัติด้วยข้าราชการโง่เยี่ยงนี้


จากใจ "นครบาล 8" ถึง "ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์" คุณคือวีรบุรุษในใจของเรา...ตลอดไป!

นายตำรวจท่านหนึ่ง ไม่เปิดเผยนาม ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงความรู้สึกของตำรวจไทย ในวันที่ถูกเหยียบย่ำศักด์ศรี ด้วยความเจ็บปวดใจที่สุดในชีวิต  ทีมงานขอนำข้อเขียนดังกล่าวเผยแพร่ต่อสาธารณชน ดังมีข้อความต่อไปนี้
เวลา 02:21 นครบาล 8 ในความรู้สึก!

วันนี้เป็นวันที่ผมเหน็ดเหนื่อยจิตใจมากที่สุด และเป็นวันที่ผมรู้สึกรันทดสลดใจที่สุด แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อลูกน้องที่ร่วมฝึก ร่วมทำงาน และร่วมเหน็ดเหนื่อยกันมา ต้องมาจบชีวิตลงจากคมกระสุนของกลุ่มฆาตกร  "อนาธิปัตย์" ที่กระหายอำนาจ ผู้ที่พูดว่าชุมนุมอย่างสงบ สันติ อหิงสา มาด้วยสองมือเปล่า แต่จากภาพที่เห็นและผลที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นความถ่อยเถื่อนที่สุดในบรรดาอารยะประเทศ ที่เห็นชีวิตมนุษย์เป็นเพียงผักปลา

และยิ่งเจ็บปวดยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินกลุ่มฆาตกรกระหายอำนาจเหล่านี้ ซึ่งนอกจากจะไม่มีแม้คำขอโทษแล้ว ยังพูดจาหน้าระรื่นบิดเบือนและป้ายสีตำรวจเข้าไปอีก รวมทั้งสมุนผู้สนับสนุนต่างก็ช่วยกันสร้างเรื่องใส่ร้ายไปต่างๆนานา

เอาละ ผมไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดใครหรอก เพียงแต่อยากวิงวอนให้เห็นคุณค่าชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติร่วมแผ่นดินเดียวกัน เขามาเพราะหน้าที่ เขามีลูกเมีย และรักตัวกลัวตายเหมือนทุกคน วันนี้ เขาสละชีวืตของเขาแล้ว ยังจะมาราวีชีวิต และมาลบหลู่เกีรยติยศของเขาอีกหรือ? ยังไม่สะใจกันอีกหรือ?

ผมแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเห็นลูกเมียและญาติพี่น้องของเขากรีดร้องร่ำไห้แทบขาดใจ พูดจนออกมาไม่เป็นถ้อยเป็นคำ เห็นอารมณ์ที่เดือดดาล เจ็บปวด คั่งแค้น ซึ่งผมอธิบายไม่ถูกว่าความรู้สึกที่ได้พบเห็นในขณะนั้นมันเป็นอย่างไร ใครไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้

ผมไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปลูกเขา 5 คนที่อยู่ในวัยเรียนจะอยู่กันอย่างไร โดยเฉพาะคนเล็กที่เพิ่งจะ 5 ขวบที่ยังไร้เดียงสา

และผมก็ไม่รู้ว่าการปฏิบัติภารกิจควบคุมฝูงชนจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อเห็นสีหน้าอารมณ์ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมอาชีพของเขาเริ่มที่จะหลุดกรอบของคำว่า "อดทนต่อความเจ็บใจ" เพราะผมรู้แต่เพียงว่าหัวใจตำรวจก็ทำด้วยเนื้อเหมือนกับคนอื่น


ในยามนี้ ผมคงพูดได้เพียงว่า "หลับให้สบายเถอะนะ ด.ต.ณรงค์ ปีติสิทธิ์ คุณคือวีระบุรุษในใจของเรา...ตลอดไป"

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

รายละเอียดตำรวจบาดเจ็บ-ตาย เพราะเหตุ "กระสุนปืน" จากฝ่ายม็อบ กปปส วันนี้


ศอรส.
สรุป ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากสถานการณ์การชุมนุม ณ เวลา 16.00 น.

ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
จำนวนทั้งสิ้น 25 ราย บาดเจ็บสาหัส 10 ราย บาดเจ็บ 14 ราย เสียชีวิต 1 ราย ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ส.ต.ต.ธนพล โนเปลือย 25 ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 บก. อคฝ. จุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง โดนอาวุธไม่ทราบชนิดถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา มีแผลที่หัวไหล่ขวา บาดแผลขนาด ประมาณ 2 ซม. ลึกถึงกล้ามเนื้อ มีโลหะฝังอยู่ที่กล้ามเนื้อหน้าอกแต่ไม่เข้าปอด ให้น้ำเกลือ เจาะเลือด เอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ที่หน้าอก แอทมิท ฉก.6/604 นายแพทย์ณัฐพงษ์ ผลเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ไม่โดนเนื้อปอด ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ กำลังไปผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก (อยู่ระหว่างพักฟื้น 22.00 น.)

2. จ.ส.ต.ทวี วงษ์จันทร์ อายุ 40 ปี ผบ.หมู่ (ป) สังกัด สภ. บางม่วง จ.นครสวรรค์ ประจำจุด ประตู 4 กระทรวงแรงงาน มาด้วยถูกแก๊สน้ำตาและอาวุธไม่ทราบชนิด มีแผลที่เท้าขวา การรักษา ล้างตา ให้น้ำเกลือ ทำแผล ส่งตรวจเลือดแอทมิท ฉก.6/605 นายแพทย์ณัฐพงษ์

3. ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ (จเร) สังกัด สภ.บางม่วง จ.นครสวรรค์ ประจำจุด กระทรวงแรงงาน มาด้วยอาการถูกแก๊สน้ำตา ถูกอาวุธไม่ทราบชนิดตีที่ศีรษะและแขนขวาเกิดเหตุประมาณ 9.00 น. การวินิจฉัย กล้ามเนื้อฟกช้ำ ระคายเคืองจากโดนแก๊สน้ำตา การรักษา ทำความสะอาดร่างกาย เอ็กเรย์ ให้ยารับประทาน จำหน่ายกลับจุดที่พัก

4. ด.ต. นิมิตร ทองคำ 42ปี ผบ.หมู่ ป. สภ ธงชัย จ. ประจวบคีรีขันธ์ จุดกระทรวงแรงงาน โดนอาวุธ ระเบิดปิงปอง ไม่ทราบชนิดกระเด็นใส่เท้าขวา มีแผลถลอก ปวดเท้าขวา เอ็กซ์เรย์ รอผล

5. ส.ต.อ.ธนัญชัย (ธงชัย) มณีวรรณกุล 32 ปี ผบ.หมู่ ป. สภสอยดาว จ. จันทบุรี จุดกระทรวงแรงงาน ถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าโล่ห์และกระแทกเข้าศรีษะ มีอาการปวดศรีษะ และแสบตา ล้างตา ล้างตัว เอ็กซ์เรย์ รอผลตรวจ

6. จ.ส.ต.สิทธิพร กล้องพรม 34 ปี สภ.บางม่วง จว.นครสวรรค์ โดนสะเก็ดระเบิดปิงปองที่สะโพกซ้าย 2 ซม.

7. พ.ต.อ. ชูเกียรติ วงศ์สิทธิการ อายุ 54ปี รอง ผบก. จ. นครสวรรค์ จุดประตู 1 กระทรวงแรงงาน ให้ประวัติหลบอาวุธไม่ทราบชนิด ข้อเท้าพลิก มีปวดข้อเท้าขวา แผลถลอก ทำความสะอาดบาดแผล ล้างตา รอแพทย์ตรวจอย่างละเอียด ให้ออกซิเจน 4 ลิตร เนื่องจากความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำ 
8. จ.ส.ต. มนตรี ชัยประภา อายุ 36 ผบ.หมู่ ป. สภ. บางม่วง จ. นครสวรรค์ จุดกระทรวงแรงงาน โดนอาวุธไม่ทราบชนิดปาใส่ลำตัว มีแผลถลอกแขนขวา โดนแก๊สน้ำตา ล้างตา ล้างตัว รอสังเกตุอาการ

9. ส.ต.อ.ปภาวิน แสงจันทร์ อายุ 32 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่กองร้อยที่2 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กก.คฝ1. ประจำจุดประตู 1 อาคารกีฬาเวช มาด้วยถูกวัตถุไม่ทราบชนิดเป็นรูทะลุหมวกเหล็ก ส่งทำ CT สมองด่วน

10. ส.ต.ต.ณัฐพงษ์ บุตรพรม อายุ 24 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่กองร้อยที่2 อารักขาและควบคุมฝูงชน2 บก.อคฝ.มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าเข่าซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

11. ส.ต.ต.สุภกิตติ์ พูลศรี อายุ23 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่กองร้อยที่1 กองกำกับการควบคุมฝูงชน2 ประจำจุดประตู 1 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าโคนต้นขาซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

12. ด.ต.พันธุ์ลักษณ์ กุลสิงห์ อายุ 39 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ประจำจุดประตู 1 กระทรวงแรงงาน มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่มือขวา มีแผลรูเปิดที่โคนนิ้วชี้มือขวา

13. ส.ต.ต.เจษฎา ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่กองร้อยที่ 2 กก.ควบคุมฝูงชน บก.อคฝ. ประจำจุดประตู1กระทรวงแรงงาน มาด้วยถูกสะเก็ดอาวุธไม่ทราบชนิดกระเด็นใส่มือซ้ายมีแผลถลอกมือซ้าย

14. ร.ต.ท.ไพโรจน์ เผื่อนผึ้ง อายุ 41 ปี ตำแหน่งรองสวป. สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ประจำจุดประตู 1 กระทรวงแรงงาน มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่หน้าแข้งขาซ้ายมีแผลรูเปิดที่ขาซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

15. ด.ต.พันธ์ศักดิ์ อินทะสอน อายุ 47 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม สน.เตาปูน กรุงเทพ ประจำจุด บชน. มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดตีที่มือซ้าย,ตีที่ศรีษะ ปวดมือซ้ายและปวดศรีษะ อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

16. ส.ต.ต.ธีระยุทธ ทองผุด อายุ 25ปี ตำแหน่งผบ.หมู่กองร้อยที่ 3 กก.ควบคุมฝูงชน 1 ประจำจุดกระทรวงแรงงาน มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดปาใส่ข้อเท้าขวา ปวดข้อเท้าขวา อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

17. ส.ต.ท.เกียติศักดิ์ ดวงใจ อายุ 29ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ ปราบปราม สภ.เขาคิชกูฎ จ.จันทบุรี ประจำจุด สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่ขาซ้ายมีแผลที่ขาซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

18. ด.ต.เอกฉัตร สมศิริ อายุ 38 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่งานสืบสวน สน.บางเขน กทม. ประจำจุด บชน. มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดตีที่ศรีษะมีอาการปวดศรีษะ อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

19. ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ สมพร อายุ 25 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กก.ควบคุมฝูงชน2 บก.อคฝ. ประจำจุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดงประตู 1 มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่เข่าซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

20. พ.ต.ท.ภูมิภัฒน์ พงศ์บุณย์ดี อายุ 35 ปี ตำแหน่งสวป.สภ.สระแก้ว ประจำจุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่ใต้ตาขวามีแผลเปิด อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

21. ส.ต.ต.พงศกร บุญอินทร์ อายุ24ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม สน.นางเลิ้ง กทม. ประจำจุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง มาด้วยถูกแก๊สน้ำตา มีอาการแสบตา

22. ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ อายุ 45 ปี สน.ตลาดพลู ประจำจุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา ขณะนี้ เสียชีวิตเวลา 16.00 น

23. ด.ต.ศักดิ์ชาย เสนาธรรม อายุ 47 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม ภจว.พระนครศรีอยุธยา ประจำจุดสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแเดง มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่คางมีบาดแผลที่คาง อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

24. ด.ต.สุวรรณ์ คำยวง อายุ42ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม สน.ราษฎร์บูรณะ กทม. ประจำจุด สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง มาด้วยถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงที่ข้อเท้าซ้ายมีแผลเปิดที่ข้อเท้าซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา


25. ส.ต.ต.พงษ์พันธุ์ จันทร์ชัย อายุ 20 ปี ผบ หมู่ (ป) สังกัด สำเหร่ กทม. ประจำจุด สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง มาด้วยอาการถูกอาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่ขาซ้าย มีแผลรูระเบิดที่ขาซ้าย อยู่ระหว่างแพทย์ทำการรักษา

บทความพิเศษ พิชิต ชื่นบาน :"โฆษณาชวนเชื่อ Propaganda"

26 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชิต ชื่นบาน ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊ก พิชิต ชื่นบาน (https://www.facebook.com/pichitofficial) โดยมีเนื้อหาดังนี้
 

โฆษณาชวนเชื่อ Propaganda

ที่มาของคำนี้มาจากการปฏิบัติในโบสถ์ในสมัยอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจ โดยที่โบสถ์ได้แต่งตั้งผู้ทำการประกาศโฆษณาเพื่อให้ประชาชนเกิดศรัทธา และเชื่อมั่นในพระเจ้าขึ้นมา ต่อมาวิธีการชวนเชื่อโดยใช้กุศโลบายที่เหมาะสมก็ได้นำมาใช้กันในหมู่ผู้นำของยุคเผด็จการต่างๆ ตลอดมา ไทยเราก็ได้เคยตั้งกรมโฆษณาการขึ้นเพื่อชักชวนให้ประชาชนเชื่อในผู้นำ และรัฐนิยมในสมัยเชื่อผู้นำชาติพ้นภัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อวิธีการโฆษณาได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย กรมนี้จึงต้องปรับเปลี่ยนมาเป็น กรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน

อ้างอิงจาก เดโช สวนานนท์ พจนานุกรม ศัพท์การเมือง
คู่มือการมีส่วนร่วมของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

การโฆษณาชวนเชื่อให้ปฏิรูปประเทศไทยเสร็จเสียก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง กระบวนการและวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้คนเกลียดกัน ไม่รู้จักให้อภัยกัน พร้อมจะฆ่ากัน ความยุติธรรมที่เหลื่อมล้ำ คนหนึ่งทำผิดถูกลงโทษทันที แต่อีกคนหนึ่งทำผิดอยู่ได้ทุกวัน ถามว่าจะปฏิรูปประเทศให้ใคร ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ กำลังฝากความหวังกับอะไร และกับผู้ใด ระหว่างตัวบุคคลหรือระบบที่มีอยู่ หากเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อของตัวบุคคล ไม่เชื่อระบบ สิ่งที่ประชาชนสูญเสียอำนาจของตนที่มีอยู่ทันทีคือการตัดสินใจทางการเมืองในการกาบัตรลงคะแนน และระบบนิติรัฐของประเทศก็พังทันที บ้านเมืองจะตกอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


"สาวปาน" จวกกปปส. สติปัญญาน้อยหลัง "ปอง-อัญชะลี" หนีทัพไม่กล้าลุยกกต.

26 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00น. ที่ผ่านมา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่น2 โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ตำหนิ ม็อบ กปปส. โดยกล่าวประชดประชันว่า "มีสติปัญญาน้อย" พร้อมถามว่า แกนนำพาไปบ้านพักของนายกรัฐมนตรีทำไมทั้งที่ไม่มีใครอยู่ 

ทั้งนี้ "สาวปาน" โพสต์ข้อความดังนี้


ผมคงมีสติปัญญาน้อยที่ไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่า จุดชี้ขาดสำหรับ "วันนี้"อยู่ที่การจับสลากเลือกเบอร์ ถ้าไม่สามารถจับสลากได้ก็ไม่มีเบอร์ไปหาเสียง เมื่อยังไม่มีเบอร์หาเสียง ก็เริ่มสมัคร ส.ส.เขตยังไม่ได้ จึงจะนำไปสู่การเลื่อนเลือกตั้งในที่สุด (ถ้าเป้าหมายยังอยู่ที่ ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง) เป็นการชุมนุมจุดเดียว เพียงไม่กี่วัน แต่วันนี้ทำไมจึงแยกมวลชนเคลื่อนขบวนไปที่บ้านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน? ไปบ้านยิ่งลักษณ์ไปวันไหนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเลือกวันนี้เลยครับ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก"  หนึ่งในแกนนำม็อบกปปส. นำมวลชนไปบ้านนายกรัฐมนตรีเพราะกลัวว่าตนเองจะถูกให้นำมวลชนบุกเข้าไปทำลายสถานที่รับสมัครเลือกตั้งของ กกต. บริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกแก๊สน้ำตา-น้ำฉีด รวมทั้งกระสุนยาง 

ศอ.รส.ชี้แจง จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา เหตุ ม็อบรุนแรง ใช้ปืนจริงยิง ตร. บาดเจ็บ ทำลายสถานที่


วันที่ 25 ธันวาคม 2556 go6TV - นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานกำกับดูแลศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้แก็สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมโดยสันติและอหิงสาอย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และ แกนนำกล่าวอ้างมาโดยตลอด แต่เป็นการชุมนุมที่เป็นการบุกรุกคุกคามและทำลายทรัพย์สินของสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองซ้ำแล้วซ้ำอีก ขัดขวางกระบวนการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พรรคการเมืองเดินทางมาเพื่อจับสลากหมายเลขของแต่ละพรรคเพื่อใช้ในการเลือกตั้งในเวลา 09.00 น.

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เตือน กกต.ทั้งคณะ ระวัง “กกต.สมชัย” จะพาไปติดคุกฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


ตั้งแต่เริ่มมีคณะกรรมการ การเลือกตั้งชุดใหม่นี้ ประชาชนคนทั่วไป ไม่ได้รู้สึกเชื่อมั่นอะไรในคณะกรรมการชุดนี้เลย เพราะเหตุการณ์หลายวันที่ผ่านมา มันบ่งชี้ว่า คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง พยายามทุกวิถีทางในการที่จะ "ไม่จัดการเลือกตั้ง"

กฏหมายกำหนด ให้คุณเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง แต่กรรมการ กกต. ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นงานแรกทันที พร้อมจินตนาการวาดภาพว่าอาจเกิดความวุ่นวายจัดการเลือกตั้งไม่ได้ สมควรให้รัฐบาลเลื่อนวันเลือกตั้ง

นี่ขนาดเข้าทำงานสัปดาห์แรก ยังอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ขนาดนี้

ในสัปดาห์ที่สอง ทุกคนเข็นให้เดินหน้าจัดรับสมัครเลือกตั้ง
แต่เรากลับเห็น กรรมการการเลือกตั้ง "สมชัย ศรีสุทธิยากร" คนบอยคอตเลื่อกตั้งปี 49 ออกมาพูดทุกชั่วโมงว่าอาจจะเลือกตั้งไม่ได้  รับสมัครไม่ได้ โน่นนี่นั่น จนกรรมการท่านอื่นๆชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า "สมชัย" เป็นกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการไม่เลือกตั้ง กันแน่

ที่สำคัญ ทุกฝ่ายพยายามทุกทางที่จะให้ความช่วยเหลือเพียงแค่ให้ กกต.บอกมา ว่าต้องการอะไรบ้างเช่น ต้องการตำรวจมาดูแลหน้าประตู ต้องการการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุด แต่ กกต.ก็เพิกเฉย ปล่อยให้ทุกคนเผชิญชะตากรรมกันเองเอง เพื่อจะเป็นเหตุผลว่า "ให้เลือนเลือกตั้ง"

หลายฝ่ายเสนอว่า กฏหมายน่าจะเปิดช่องให้แก้ไขเพิ่มเติมและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพิ่มสถานที่จัดการรับสมัครได้ แต่ กกต.ชุดนี้ ก็มิได้นำพา ไม่เตรียมหาที่สำรอง ไม่เตรียมประกาศแก้ไขสถานที่รับสมัคร  ได้แต่ผลัดวันประกันพรุ่งไปวันๆ เหมือนจงใจให้หมดวันรับสมัครไปไวๆ จะได้ประกาศว่ารับสมัครไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น

กกต. โปรดฉุกคิดหน่อยว่า พวกคุณมือใหม่ บริหารงานองค์กรขนาดใหญ่ไม่เป็นมาก่อน  ภูมิหลังเป็นผู้พิพากษา ก้มหน้าอ่านแต่คดีความ พอต้องมาบริหารจัดการงานก็ทำไม่ได้ ก็โยนให้ "สมชัย" ที่ดูพูดรู้เรื่องหน่อยคนเดียว ก็เลยโดนสมชัยลุยถั่วมั่วมติ กกต.กันตั้งแต่สัปดาห์แรก

แนะผู้พิพากษา ที่ผันตัวเองมาเป็น กกต. ได้โปรดไปอ่านกฏหมายให้ดีๆว่า หากไม่จัดการเลือกตั้ง จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  ท่านจะผิดกฏหมาย และขอเตือนดังๆไปหาท่าน กกต.ที่เหลือสี่ท่านว่า

"ระวัง กกต.สมชัย จะพาท่านไปติดคุก"

"พานทองแท้" FB ชี้ทางสุเทพ "ยุติม็อบป่วนเมือง ป่วนประชาธิปไตย" คืนความสุขให้คนไทย รับปีใหม่

วันที่ 25 ธันวาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพกาตูนพร้อมข้อความลง เฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้



"คนเราทุกคน มีสิทธิ์ที่จะฝัน" ครับ

ในโอกาสวันคริสต์มาสของทุกปี เด็กๆมักจะฝันว่า ซานตาครอส เอาของเล่นและขนมมาใส่ไว้ให้ ในถุงเท้าที่แขวนไว้ใกล้ๆเตียงนอน

คริสต์มาสปีนี้ คนไทยที่เป็นผู้ใหญ่ก็ฝันเหมือนกับเด็กๆครับ ผู้ใหญ่แต่ละคนแต่ละฝ่าย ต่างก็ฝันแตกต่างกันไป
----------------------------

พี่น้องประชาชนทั่วไป ฝันว่า เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน

มวลมหาประชาชน ก็ฝันว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยออกไป ประชาธิปัตย์ก็จะได้เป็นใหญ่ ในแผ่นดิน
----------------------------

นายกยิ่งลักษณ์ฯ ก็ฝันว่าวันที่ 2กุมภา57 ประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้เลือก ว่าจะไว้วางใจให้ใครมาเป็นตัวแทนบริหารประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตย ผ่านการ "เลือกตั้ง"

นายสุเทพฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ก็ฝันว่า วันที่ 2กุมภา57 จะต้องไม่มีการเลือกตั้ง และนายสุเทพฯจะเป็นผู้เลือกคน เข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆด้วยตัวเอง ตามระบอบเทือกสุบรรณ ผ่านการ"เทือกตั้ง"
----------------------------

ใครจะฝันจะหวังอะไรก็แล้วแต่ ถือเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่การที่จะทำความฝันของตนให้เป็นจริง จะต้องไม่ไปข่มขู่ รบกวน หรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยเฉพาะสิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมือง ของพี่น้องประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยครับ

ลุงกำนันฯ เป็นนักการเมืองมา 35ปี อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองว่า ตนเองทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาเยอะ ขอกระทำอะไรตามใจตัวเองบ้างสักครั้ง

ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เขาก็อาจมองว่า ลุงกำนันเป็นนักการเมืองมานาน มีข้อครหาเรื่องการเบียดเบียนแย่งประโยชน์ ที่ควรเป็นของประชาชนไปเป็นของตนเองเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ที่ดินทำกินของคนยากคนจน สปก.4-01, เขาแพง, กักตุนน้ำมันปาล์มจนประชาชน ต้องไปต่อคิวซื้อเป็นชั่วโมงด้วยราคาที่แสนแพง และเรื่องอื่นทางด้านลบอีกหลายต่อหลายเรื่อง ตลอดเวลา 35ปีที่ผ่านมา ลุงกำนันน่าที่จะเลิกคิดร้าย ต่อประเทศชาติบ้านเมืองได้แล้ว

ชีวิตการเมืองของลุงกำนัน ผ่านวันคริสต์มาสมา 35ครั้ง ผมถามผู้ใหญ่ที่เกิดทันลุงกำนันว่า 35ปีที่ผ่านมา ลุงกำนันได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองบ้าง ลุงทราบมั๊ยครับว่าไม่มีแม้แต่คนเดียวที่นึกออก ผมเชื่อว่ามวลมหาประชาธิปัตย์อะไรทั้งหมดของลุงนั่นก็ไม่มีใครสักคนนึกออก เพราะลุงไม่เคยทำประโยชน์อะไรเลยครับ


เลิกม็อบป่วนเมือง ป่วนเลือกตั้ง ป่วนประชาธิปไตย คืนความสงบสุขให้กับปวงชนชาวไทย เป็นของขวัญวันคริสต์มาสและปีใหม่ 2557นี้ ดีกว่ามั๊ยครับ กำนันสุเทพ และม็อบประชาธิปัตย์..!!