วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"โอ๊ค" ถึง "ปชป." "ถึงจะแพ้ในสาระ ขอกูชนะด้วยโวหาร"

นายพานทองแท้  ชินวัตร
(3 กรกฎาคม 2555 go6TV) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสท์ข้อความลงในเฟรซบุ๊คส่วนตัวพูดถึงการพูดจาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มักจะพูดและไม่รับผิดชอบในคำที่ตนพูดไว้ ดังมีรายละเอียดดังนี้


"ถึงจะแพ้ในสาระ ขอกูชนะด้วยโวหาร"

เป็นคำนิยาม ที่ผมมองพรรคประชาธิปัตย์ ในยุค "นาซาโกโฮม" นี้ครับ
ก็ลองอ่านดูสิ่งที่พรรคปชป.โต้ในสิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตุดูสิครับว่ามีสาระอะไรมั่ง
ผมโปรโมทเวปให้ ปชป. ด้วยเลยก็ได้ลองเข้าไปดูใน Official website ของปชป.เลยตามลิ๊งค์นี้ครับ

http://www.democrat.or.th/th/news-activity/news/detail.php?ELEMENT_ID=12257&SECTION_ID=29

ข้อมูลที่ผมโพสต์เรื่องนาซาก่อนหน้านี้ ก็เนื่องจากผมเผอิญไปเห็นข้อมูลอีก2ข้อ ที่มันวางอยู่จะจะ อยู่ในหน้าเดียวกันกับข้อมูลที่ ปชป.หยิบมาโจมตีรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่วางแผนการบิน ไว้ตั้งแต่สมัยอภิสิทธิ์ฯเป็นนายกฯ(เมื่อ18,19 ก.ค.54) ว่าจะเอาเครื่องบินER-2 (ที่ปชป.ยืนยันว่าเป็นเครื่องบินสอดแนม) มาบินในอาณาเขตประเทศไทย ตามลิ๊งค์นี้ครับ

http://espo.nasa.gov/missions/seac4rs/search/node/Thailand

ผมก็แค่บอกว่าทำไมถึงพูดแต่ข้อเดียว ทำไมอีก2ข้อในสมัยพรรคปชป.จึงไม่พูด และผมก็ใช้คำว่า "ตั้งข้อสังเกตุ4ข้อ" แทนที่จะใช้คำว่า "ตั้งคำถาม4ข้อ" เพราะผมรู้ว่าท่านตอบไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลมาด่าพ่อล่อแม่ผมอีก และผมก็ไม่ได้ต้องการบีบบังคับให้ท่านตอบด้วยครับ เพราะยิ่งท่านตอบไม่ได้หรือท่านยิ่งทำให้มันคลุมเครือเท่าไหร่ พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นว่า "ใครเล่นการเมือง โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง"

เดี๋ยวนี้มีการใช้สำนวนโวหาร ประเภทหยาบๆคายๆถี่ขึ้นเรื่อยๆครับ
ล่าสุดมีการบัญญัติศัพท์ "อีแอบหน้าคอมพ์" แทนคนที่ใช้เฟสบุ๊ค
คนใช้เฟสบุ๊คมีเป็นล้านคน แฟนเพจผมก็มีหลายหมื่นคน พูดแบบนี้ไม่สวยครับ
ผมและแฟนเพจของผมได้ตกลงกันไว้แล้วว่า ผมจะไม่ตอบโต้แบบหยาบๆคายๆกับผู้ใด
โดยผมจะใช้ทฤษฎี "หมากัด ด่าเจ้าของหมา" มาใช้แทนอย่างเคร่งครัด
โดยทฤษฎีนี้ อุปมาอุปมัยเหมือนกับมีใครแอบอยู่ข้างหลัง แล้วปล่อยสุนัขมากัดผมอยู่เรื่อยๆ
ต่อให้ส่งมาอีกสัก10ตัวจะเป็นสุนัขตัวผู้หรือสุนัขตัวเมีย
ก็กัดผมไม่เข้าหรอกครับ และผมก็จะไม่กัดตอบด้วย
ผมก็อยู่หน้าจอคอมพ์ผม พูดคุยกับแฟนเพจของผมต่อไปนี่แหละ

ยังจำเหตุการณ์ที่มีคนเสนอให้บล็อคเฟสบุ๊คไม่ให้คนไทยทั้งประเทศใช้ได้มั๊ยครับ
ในที่สุดก็ต้องลนลานออกมาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ นั่นคือตัวอย่างอิทธิพลของโซเชียลเน็ตเวิร์คครับ
ผมว่าเลิกเถอะครับโต้กันด้วยคำพวกนี้ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ครับ
ถ้าไม่เลิกก็ตามใจ เพราะผมแค่เป็นห่วงว่า เกิดคนไทยที่ใช้เฟสบุ๊คเขาเคืองขึ้นมา
แล้วพร้อมใจกันตั้งฉายาให้ใครทีเขาคิดว่าแอบสั่งอยู่ข้างหลังว่า
"อีแอบหลังหมา"บ้าง เดี๋ยวจะพาลมาเสนอให้บล๊อคเฟสบุ๊คทั้งประเทศอีก ผมว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ