ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า วันที่ 21 กรกฎาคม บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง ที่จะเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งเข้าสู่โค้งสุดท้าย โดยที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งนานยกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายชินธันธิ์ อนันต์มั่งคั่งกุล (หรือช่างอีด) เบอร์ 2 นายกิจ หลีกภัย พี่ชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ เบอร์ 3 นายเอกรินทร์ นิลสวัสดิ์ มีการหาเสียงกันอย่างหนัก โดยที่ผู้สมัครแต่ละคนมีการงัดกลยุทธการหาเสียงต่างๆออกมาเพื่อหวังได้รับชัยชนะ
ล่าสุด นายกิจ หลีกภัย จัดทำคัตเอ้าต์หาเสียงเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ด้วยการนำแผ่นคัตเอ้าท์เชิญฟังคำปราศรัยนายชวน และ ส.ส.ตรัง ร่วมปราศรัยหาเสียงในนามทีมกิจปวงชน ประกบคัตเอ้าท์หาเสียงของนายกิจ หลีกภัย ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ นายชวน หลีกภัย และ ส.ส.ตรังพรรคประชาธิปัตย์ที่ 4 เขต รวมถึง นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะช่วยหาเสียงให้กับ นายกิจ หลีกภัย โดยมีหมายกำหนดการเปิดเวทีหาเสียงครั้งใหญ่ วันที่ 27 กรกฎาคม เป็นการถล่มคู่แข่งทั้ง นายชินธันธิ์ และ นายเอกรินทร์ ให้เป็นไปตามแผนการหาเสียง
หลังคัตเอ้าท์หาเสียงชุดดังกล่าวระดมติดไปทั่วเขตการเลือกตั้ง ปรากฏว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทั้งในแง่ดีและลบ โดยเฉพาะหัวคะแนนคู่แข่ง ออกมาให้ความเห็นว่าน่าจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนที่คิดว่า นายชวนลงสมัครด้วย นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวลือสะพัดไปทั่วเขตเทศบาลนครตรังว่า นายกิจ ประสบปัญหาความเครียดจากการหาเสียงอย่างมากถึงกับเกิดอาการช็อค ถูกหามส่งโรงพยาบาล แต่จากการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง และโรงพยาบาลเอกชน ไม่ปรากฏว่านายกิจ เข้ารับการรักษาตัวแต่อย่างใด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากกระแสการหาเสียงกันอย่างดุเดือด ที่มีการปล่อยข่าวโจมตีกันในช่วงโค้งสุดท้าย
ขณะที่ นายชินธันธิ์ ผู้สมัครเบอร์ 1 กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนหาเสียงเป็นไปตามกฎกติกามาโดยตลอด แต่ในที่สุดก็ยังถูกโจมตีใส่ร้ายป้ายสีว่า ตนได้รับการสนับสนุนในการหาเสียงเป็นจำนวนเงินถึง60 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ก่อนลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ตรังในครั้งนี้ ตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เลขที่ 485001101 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ออกโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“ผมเป็นนักประชาธิปไตยรุ่นใหม่ ที่ต้องการสานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค ด้วยกาย วาจาใจ จากรุ่นสู่รุ่น “ไม้ผลัดใบ” มิใช่อื่นไกลดั่งที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ขอความกรุณาเมตตาปราณีให้เกิดความเป็นธรรม เสมอภาค และทัดเทียมต่อท้องถิ่น ผมขออาสารับใช้ท้องถิ่นตรังเท่านั้น ไม่มีอื่นใดแอบแฝง” นายชินธันธิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น