กระผมแกนนำ นปช. ผู้ต้องคดีก่อการร้ายจากการชุมนุมทางการเมือง 2553 ซึ่งถูกกักขังนานกว่า 9 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว มีความทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ จึงเขียนจดหมายปรับทุกข์กับผู้พิพากษา ดังนี้
1.ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งที่ผู้ก่อคดีในจังหวัดชายแดนภายใต้เป็นเพียงผู้ก่อความไม่สงบเท่านั้น
2.การสั่งคดีของดีเอสไอ(กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ซึ่งดีเอสไอให้ข่าวรายวันว่าจะส่งฟ้อง ทั้งที่ยังไม่รวบรวมพยานหลักฐานได้เสร็จ
3.กระบวนการพิจารณาคดี มีการยื้อคดีให้นานกว่าปกติ
4.สิทธิการประกันตัว แม้ผ่านมาแกนนำยังไม่เคยหลบหนีคดีและได้ยื่นประกันตัวหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการประกันตัว
5.สองมาตรฐาน แกนนำ นปช. ไม่ได้รับการประกันตัว ขณะที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งถูกข้อหาก่อการร้ายเช่นกัน ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นตำรวจและได้รับการประกันตัว
จากนั้นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. ได้ร่วมกันวางดอกกุหลาบสีแดงหน้าป้ายศาลอาญา ก่อนจะนำผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายจตุพรกล่าวว่า หากแกนนำผู้ชุมนุมยังไม่ได้รับการประกันตัว ในเดือนมีนาคม นปช.จะกลับมาชุมนุมหน้าศาลอาญาอีกครั้ง และยืนยันว่าจะไม่มีการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแน่นอน
หลังการอ่านจดหมายถึงศาลเสร็จแล้ว ปรากฏว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง ได้ทำให้การจราจรด้านฝั่งหน้าศาลถูกปิดไปโดยปริยาย ในขณะที่การจราจรฝั่งตรงข้าม รถเคลื่อนตัวได้ช้า เบื้องต้นใช้กำลัง จนท.เกือบ 1,000 นายดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ศาล โดยประตูใหญ่ด้านหน้าศาลมีการใช้โซ่คล้อง และล็อกกุญแจแน่นหนา อีกทั้งยังใช้แผงเหล็กมัดรวมกันกั้นอีกชั้น ป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าประชิด
หลังจาก แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจะอ่านจดหมายปรับทุกข์และวางดอกไม้หน้าศาลอาญาเสร็จสิ้นในเวลา 14.07 น. กลุ่มคนเสื้อแดง ได้เคลื่อนขบวนยาว โดยใช้มอเตอร์ไซต์ รถยนต์ และการเดินเท้า ไปตามถนนรัชดาฯ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน ผ่านห้าแยกลาดพร้าว เข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าแยกราชเทวีเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ก่อนเข้าถนนหลานหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ที่มา มติชนออนไลน์
เรดโชคดีอัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น