วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทูตกัมพูชายัน "ข่าวทหารเขมรตาย 64คนเป็นเท็จ"



เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมศรีบูรพา(หอประชุมเล็ก) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดงานสัมมนาวิชาการอุษาคเนย์ครั้งที่ 8 ประจำปี 2544 หัวข้อ "สยาม-ขะแมร์ คู่รัก คู่ชัง คู่กรรม คู่เวร"

โดย H.E.You Ey เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กล่าวว่า


"กัมพูชาและไทยมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เช่น ลักษณะภาษาที่มีความคล้ายคลึงกัน ที่ต่างหยิบยืมภาษาบาลี-สันสกฤตมาใช้ แต่ที่สำคัญคือเราทั้งคู่นับถือศาสนาพุทธที่เมืองเสียมเรียบ มีปราสาทหนึ่งที่เรียกว่า"ปราสาทบายน" ซึ่งประกอบด้วยปรางค์ทั้งสิ้น 54 ยอด ซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัดทั้ง 54 จังหวัดของกัมพูชา ในสมัยที่จักรวรรดิเขมรยังเรืองอำนาจขณะที่ปัจจุบัน กัมพูชาเหลือเพียง 24 จังหวัด โดย 13 จังหวัดตกเป็นของไทย และอีก 17 จังหวัดตกเป็นของเวียดนามอย่างไรก็ดี เราคงไม่สามารถอ้างสิทธิในจังหวัดทั้ง 13 จังหวัดได้อีก กัมพูชาทำได้แค่เพียงต้องปกป้องและรักษาสิ่งที่ตนมีอยู่ให้ดีที่สุด

ส่วนเวียดนาม ซึ่งได้ 17 จังหวัดของเราไป กลับไม่พบข้อขัดแย้งใดๆด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้เพราะผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเป้าประสงค์เดียวกันในการทำข้อตกลงเพื่อจัดการกับปัญหาความขัดแย้ง

เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว เราต่างเป็นเพื่อนบ้านกันทั้งในแง่ภูมิศาสตร์และโชคชะตา และเราก็จะเป็นเพื่อนบ้านกันตลอดไป เราต้องอยู่เคียงข้างกัน และเราไม่สามารถย้ายประเทศหนีได้ เพราะว่าเราทั้งสองเปรียบเสมือนลิ้นกับฟัน ซึ่งต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลา เราต้องรู้จักประนีประนอม เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

แต่หัวใจของปัญหาคือการที่ไทยกับกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความคิดของคนที่จะตัดสิน ทั้งนี้ ไทยกับกัมพูชาต่างเป็นประเทศในประชาคมอาเซียนด้วยกันทั้งคู่ หากยังมีปัญหาต่อไปประชาคมอาเซียนในปี 2015 ก็อาจไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุด


นอกจากนี้ จากที่ได้มีการนำเสนอข่าวว่าในกัมพูชามีผู้เสียชีวิตถึง 64 คนนั้นไม่เป็นความจริงตามที่ได้มีการรายงานข่าวออกไป


"ขอฝากเอาไว้กับทางมหาวิทยาลัยผู้ให้ความรู้ สอนนักเรียนด้วยเนื้อหาประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจและมีอคติที่ผิดๆฝังใจ"


ไม่มีความคิดเห็น: