นายโนบูอากิ อ่านแถลงการณ์ในที่ประชุมว่า ตนติดตามการเสียชีวิตของนายมูราโมโตะมาตลอด ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นแสดงออกหลายรูปแบบเพื่อเรียกร้องความช่วยเหลือ ทั้งนายกฯ ญี่ปุ่นเคยเข้าพบนายกฯ ไทย และรมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นก็เคยเข้าพบรมว.ต่างประเทศไทย สิ่งที่ต้องการเรียกร้องสิ่งเดียว คือ คำตอบที่ชาวญี่ปุ่นและครอบครัวของนายมูราโมโตะเข้าใจได้และเร็ววันที่สุด ในฐานะนักการทูต ตนย่อมต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม แต่เวลาที่ผ่านมากว่า 10 เดือน น่าเสียใจมากที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนหรือนำไปสู่การจับตัวคนร้าย ความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมของไทยอาจนำไปสู่ความเชื่อถือของชาวญี่ปุ่นที่ลดน้อยลง
"สำนักข่าวญี่ปุ่น ทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์เสนอข่าวว่าการเสียชีวิตของนายมูราโมโตะอาจมาจากถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิง ฉะนั้นหากฝ่ายรัฐบาลหรือทหารคิดว่าการเสียชีวิตของมูราโมโตะไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ น่าจะอธิบายอย่างชัดเจนว่าการเสียชีวิตของนายมูราโมโตะเกิดจากอะไร เพราะการรายงานแบบนี้ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เข้าใจว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เกิดจากการกระทำของฝ่ายรัฐบาล" นายโนบูอากิ ระบุ
ด้านพ.ต.ท.วีระวัช พนักงานดีเอสไอชำนาญการพิเศษ ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบสำนวน 10 เม.ย. 2553 รวมทั้งคดีของนายมูราโมโตะกล่าวว่า ดีเอสไอนำกล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียนสตรีวิทยาและกล้องทั้งหมดใกล้ที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ ไม่พบภาพนายมูราโมโตะ เพราะกล้องมุมต่ำเกินไป ส่วนประจักษ์พยานสองคนที่เห็นปากหนึ่งที่น่าเชื่อถือซึ่งมีดีเอ็นเอของนายมูราโมโตะติดที่กางเกง ทางดีเอสไอรวบรวมปากคำประกอบสำนวนแล้ว เบื้องต้นส่งสำนวนชันสูตรกลับไปให้ตำรวจเนื่องจากทางดีเอสไอพิจารณาตามวิถีกระสุนแล้ว เชื่อว่ายิงมาจากฝ่ายทหาร
นายโนบูกิ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังการหารือว่า จากที่ตนได้รับฟังเสมอมา กระบวน การสอบสวนของทางการไทยไม่มีปัญหา แต่มีความล่าช้ามากๆ เช่น เนื้อหาที่ตนได้ฟังครั้งนี้ ไม่มีอะไรใหม่จากการประชุมครั้งที่แล้ว แม้ตนจะเข้าใจว่าคดีนี้เป็นคดีที่มีความซับซ้อนและอ่อนไหว แต่หากคดียังไม่มีความคืบหน้าเร็วกว่านี้ ทางการญี่ปุ่นเตรียมดำเนินมาตรการกดดันทางการเมืองต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น