ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่เรือนจำได้มีการปล่อยตัวแกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้ง 7 คนและแนวร่วม นปช. แล้ว ท่ามกลาง กลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอรับและให้กำลังใจอย่างคับคั่ง โดยมีกองทัพสื่อมวลชนเดินทางมาทำข่าวจำนวนมาก จนเกิดการชุลมุนกันหน้าเรือนจำ ทันทีที่มีการปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดง
ทั้งนี้แกนนำ นปช. ทั้ง 7 คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายขวัญชัย ไพรพนา, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ใส่เสื้อสีขาว ได้ชูมือกันออกมาจากเรือนจำ ก่อนหน้านี้ ในช่วงบ่าย ศาลอาญา ได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
จากนั้นนั้นณัฐวุฒิ ได้ขึ้นขี่คอการ์ดนปช.เพื่อกล่าวกับสื่อมวลชนและพี่น้องเสื้อแดงที่มารอรับออกจากเรือนจำ นพ.เหวง ลำดับถัดไป และนายวิภูแถลง ก่อนที่จะเคลื่อนไปยังรถขยายเสียงหน้าเรือนจำเพื่อกล่าวกับพี่น้องอีกครั้ง
จากนั้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ตัวแทนแกนนำ นปช. ได้กล่าวต่อพี่น้องที่มาต้อนรับความว่า
"เรียนพี่น้องเสื้อแดงและประชาชนทั่วประเทศ ว่าพวกผมกลับมาแล้ว ผมกลับมาแล้ว" แกนนำนปช.กล่าว และว่า พร้อมยืนยันจุดยืนเคียงข้างประชาชนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง สิ่งแรกที่จะดำเนินการคือ ตนจะทวงถามการเยียวยาและความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้ง ดำเนินการภายใต้กฎหมายเพื่อให้คนเสื้อแดงที่ถูกจองได้รับการประกันตัว
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รอยยิ้มหรือความสุขจะถูกพรากไปกี่ครั้ง แต่สิ่งที่อยู่ในหัวใจและร่างกายจะยืนหยัดและมอบให้ประชาธิปไตย"
นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณศาลที่ให้โอกาส โดยคืนความยุติธรรมให้พวกตน และหวังว่าคนเสื้อแดงจะได้รับประกันตัวในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้หลังจากตนกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวไม่กี่วัน ต่อจากนั้นจะทำเพื่อประชาธิปไตย เหตุการณ์ในวันนี้่จะเป็นการเริ่มต้นที่ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และสร้างประชาธิปไตยร่วมกันให้เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่แกนนำเดินออกจากประตูเรือนจำกลุ่มคนเสื้อแดงได้กรูกันเข้าประชิดตัวแกนนำโดยมีการ์ดคอยกันตลอดเส้นทาง และกลุ่มคนได้เดินตามไปตลอดทางจนถึงรถเวทีปราศรัย
ขณะเดียวกันที่หน้าเรือนจำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ลงไปยืนรอบนพื้นผิวถนนจนต้องปิดการจราจรถนนงามวงศ์วางฝั่งเรือนจำ ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น