วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"ราชสกุลเทพหัสดิน" แถลง "แพรวาไม่ได้เฉี่ยวชนรถตู้"

รถตู้ตกโทล์เวย์


พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน สบ 2 สน.วิภาวดี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงความคืบหน้าสวนคดี น.ส.เอ (นามสมมุติ) ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ชนรถตู้โดยสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บนทางด่วนโทลล์เวย์ วิภาวดีรังสิต เมื่อเดือนธันวาคม 2553 ว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และส่งสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้ว หากสำนวนถูกส่งกลับมาก็จะนัดผู้ต้องหาเพื่อนำตัวส่งมอบให้กับอัยการพร้อมสำนวนการสอบสวนเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะส่งฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ทางตระกูลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ออกแถลงการณ์เรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น พ.ต.ท.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันได้มีฟอร์เวิร์ดเมล อ้างว่า เป็นแถลงการณ์ของตระกูลเทพหัสดิน ณ อยุธยา เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริงทั่วไปเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุบนทางยกระดับอุตราภิมุข มีข้อความสรุปว่า ผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่ได้เฉี่ยวชนรถตู้โดยสาร แต่หักหลบรถตู้โดยสารที่เปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน ทำให้รถที่ผู้ต้องหาขับขี่มานั้นเสียหลักชนเข้ากับกำแพงกั้นขอบทาง เป็นเหตุให้รถยนต์เก๋งซีวิคได้รับความเสียหาย


"จากหลักฐานที่มีอยู่สามารถยืนยันได้ว่า ไม่มีร่องรอยการชนเข้าไปด้านหลัง เต็มๆ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ หรือที่เรียกว่าชนเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้รถตู้โดยสารเสียหลัก ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผู้ต้องหาย่อมต้องเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์เก๋งซีวิค มีน้ำหนักและขนาดเล็กกว่ารถตู้โดยสารมาก และหากมีการชนอย่างที่ว่านั้นจริง จะต้องปรากฏร่องรอยการชนบนรถทั้งสองคันอย่างแน่นอน และจากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น ก็ไม่ปรากฏว่าสีของรถยนต์เก๋งซีวิค ไปปรากฏบนส่วนหนึ่งส่วนใดของรถตู้ และในทางกลับกัน สีของรถตู้ก็ไม่ปรากฏบนตัวถังของรถยนต์เก๋งซีวิค


"ทีมกฎหมายขอเรียนไปยังทุกท่าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายของผู้ต้องหา เพราะที่ผ่านมา ทางฝ่ายผู้ต้องหาถูกประณามถึงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้พยายามดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุดตามกำลังความสามารถ เท่าที่จะทำได้ รวมทั้งการติดต่อขอพบผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งบางท่านก็ได้รับแจ้งว่า ไม่สะดวกที่จะให้เข้าพบ บางท่านก็ได้เข้าพบและเจรจา โดยบางท่านได้เสนอข้อเรียกร้องเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินกว่ากำลังความสามารถที่ครอบครัวจะพึงปฏิบัติได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงบางเรื่องยังไม่ได้สรุปชัดเจนและศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา จึงอยากจะร้องขอให้ทุกท่านได้พิจารณา รวมทั้งทีมงานด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบก่อนดำเนินการ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" แถลงการณ์ระบุ


ด้านนายปกป้อง ศรีสนิท ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) หนึ่งในทีมนักกฎหมายของ มธ. กล่าวว่า ในส่วนของทีมงานนักกฎหมายของ มธ.คงไม่จำเป็นต้องตั้งรับหรือหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมาหักล้างกับฟอร์เวิร์ดดังกล่าว เพราะเป็นเพียงข้อต่อสู้ของฝ่ายผู้ต้องหา ซึ่งข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครรู้ เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งอัยการเพื่อพิสูจน์ในชั้นศาลต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: