วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พ่อแพรวาแจงครั้งแรก !! "อยู่อเมริกา ก็ขับรถเอง"


ความคืบหน้าเหตุน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคชนรถตู้โดยสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์ พ.อ.รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดา น.ส.เอ ทางโทรศัพท์ โดย พ.อ.รัฐชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงเครียดว่า สื่อควรลงข่าวให้ตรงกับข้อเท็จจริง ไม่ควรสนใจกระแสข่าวต่างๆ ในเฟซบุ๊กมากนัก เพราะเป็นแค่การนำเสนอข้อเท็จจริงเพียงด้านเดียว โดยวันเกิดเหตุลูกสาวมีเพื่อนมารับออกไปข้างนอก ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อนจะขับรถมาส่งทุกครั้งและอยู่ในความควบคุมตลอด แต่คืนเกิดเหตุหลังจากเพื่อนขับรถมารับแล้ว ลูกสาวได้ยืมรถของเพื่อนออกไปทำธุระคนเดียว ระหว่างที่ขับรถกลับไปรับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของรถเพื่อจะให้ขับมาส่งที่บ้านก็เกิดเหตุเสียก่อน

"ตอนลูกสาวอยู่ที่อเมริกาก็ขับรถเอง พอกลับมาเมืองไทยผมก็อนุญาตให้ขับรถได้ในละแวกบ้านคือ เมืองทองธานี เพื่อไปสระผมบ้าง ทำเล็บบ้างเท่านั้น แต่คืนเกิดเหตุอนุญาตเพียงให้ออกไปกับเพื่อน แต่ไม่ทราบว่าลูกขับรถด้วย" พ.อ.รัฐชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิจารณ์ว่าลูกสาวเปลี่ยนชื่อเพื่อหนีคดีนั้น พ.อ.รัฐชัยกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่เกิดมาบุตรสาวใช้ชื่อนี้มาตลอด เพิ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นอีกชื่อเมื่อตอนกลับจากสหรัฐอเมริกาเมื่อ 6-8 เดือนที่แล้ว ส่วนที่อ้างว่าหลบหนีออกนอกประเทศก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เพราะตอนนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง


"ลูกสาวเล่าว่าระหว่างเกิดเหตุขับรถอยู่เลนขวา โดยขับตามหลังรถตู้ซึ่งขับคร่อมทางอยู่ เมื่อเห็นว่ารถตู้เปิดไฟขอทางเข้าเลนซ้ายจึงเบี่ยงให้ แต่รถตู้ไม่ได้เลี้ยวตามที่ขอทาง ไม่กี่วินาทีต่อมารถตู้เบียดเข้าเลนขวามากกว่าเดิม จึงเบรกแล้วหักเลี้ยวซ้าย เพราะหากเลี้ยวขวาจะชนกับขอบกั้นทาง เมื่อเบรกแล้วรถจึงเสียหลักชนท้ายรถตู้ ทำให้รถทั้ง 2 คันหมุนคว้างจนเกิดเหตุดังกล่าว ลูกสาวมีอาการฟกช้ำที่ตาและลำตัว ส่วนภาพที่เห็นว่ายืนโทรศัพท์อยู่ เพราะว่ามีบาดแผลถลอกที่หลังและก้น ทำให้ไม่สามารถนั่งได้ ทั้งยังไม่ได้เล่นบีบีแต่อย่างใด เพียงกดโทรศัพท์เพื่อบอกเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของรถว่า เกิดอุบัติเหตุและถามเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทประกันเพื่อติดต่อเท่านั้น" พ.อ.รัฐชัยกล่าว

พ.อ.รัฐชัยกล่าวอีกว่า จากกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่กล่าวว่าลูกสาวเส้นใหญ่หรือมีการปิดสื่อ ไม่โกรธที่จะมีใครคิดอย่างนั้น เพราะว่าใครเห็นนามสกุลของตระกูลก็สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน เพราะตั้งแต่เข้ารับราชการกระทั่งลาออกทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ไม่เคยเล่นเส้นสายหรือทุจริตแต่อย่างใด กรณีของนายณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (บุตรชาย) ก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เราทำตามกระบวนการของกฎหมายทุกอย่าง ทั้งยังไม่เคยบอกว่าลูกสาวถูก หากมีความผิดจริงก็ต้องให้รับผิดตามโทษทัณฑ์กฎหมาย แต่จะให้พาลูกสาวไปประหาร นั่งเก้าอี้ไฟฟ้าทันทีอย่างนั้นไม่ยุติธรรม

"ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกสาวรู้สึกไม่ต่างกับผมนัก คนดีๆ ทั้งนั้นที่เสียชีวิตไป ผมไม่ได้ตามใจลูกโดยไม่มีเหตุผล เช่นเรื่องการขับรถผมก็วางแผนจะซื้อให้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ขับรถเอง แม้จะเข้ามหาวิทยาลัยก็วางแผนว่าจะให้แม่ของเขาขับรถไปรับส่ง รอให้มีใบอนุญาตขับขี่ได้ก่อนผมจึงจะอนุญาตให้เขาขับรถเองได้" พ.อ.รัฐชัยกล่า

ไม่มีความคิดเห็น: