นายบัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้แสดงความคิดเห็นแย้งต่อกลุ่มคณะรัฐบุคคล
ที่แนะนำให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา
7 ว่าเป็นข้อเสนอที่โน้มเอียงไปเผด็จการมุสโสลินี
และรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ทั้งที่รัฐธรรมนูญไม่ได้ถึงทางตัน
มีทางออกให้จัดการเลือกตั้ง แต่ไม่ทำกันเอง
“กรณีข้อเสนอของกลุ่มคณะรัฐบุคคล
เป็นการละทิ้งหลักการประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานโดยสิ้นเชิง
เพราะความคิดดังกล่าวนี้เป็นการไม่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลก
และการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ด้านการเมืองกว่า 80 ปีที่ผ่านมา
อีกทั้งจากข้อเสนอดังกล่าว เสมือนการกระทำให้มุสโสลินีขึ้นมามีอำนาจช่วงทศวรรษ 1922 ในประเทศอิตาลี เพราะในสมัยนั้นมุสโลลินี นำทัพเดินเข้ากรุงโรม
ต่อหน้าคนหกหมื่นคนพร้อมทั้งบอกเป้าหมายง่ายมาก โดยบอกว่าเราจะปกครองอิตาลี
เพราะฉะนั้นกระบวนการนี้น่าเป็นห่วง ที่จะพาให้สังคมเข้าภาวะวิกฤตกว่าเดิมเสียอีก
ทว่าวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ มีทางออกทางเดียวที่ง่ายสุด คือไปลงเลือกตั้ง
ข้อเสนอดังกล่าว มีลักษณะที่โน้มเอียงไปทางเผด็จการมุสโสลินี
ซึ่งในแง่ประวัติศาสตร์มุสโสลินีก็พาอิตาลีไปสู่ความพ่ายแพ้
มากไปกว่านั้นแทนที่กลุ่มบุคคลคนเหล่านี้จะเดินหน้าไปสู่กระบวนการประชาธิปไตย
แต่มุ่งไปกดดันสถาบันเชิงประเพณี
คิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่บังควรที่ไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้ง 14 ตุลาคม 2516 และเหตุพฤษภาประชาธรรม 2535 นั้น คิดว่า 14 ตุลาคม 2516 เป็นสถานการณ์พิเศษ จริงๆ ที่เห็นคู่ขัดแย้งชัด
แต่ปัจจุบันนี้ความพยายามของ กปปส.ที่เดินมาได้จนถึงตอนนี้
ที่บอกว่าศัตรูที่แท้จริงคือตระกูลชินวัตร
แต่ตนไม่เชื่อว่าการนำเอาคนในตระกูลชินวัตรออกจากประเทศไทยได้
จะเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมือง อีกเหตุผลหนึ่ง กลุ่มทุนที่เชื่อมโยงทางการเมืองทั้งสองฝ่าย
และกลุ่มทางการเมืองทั้งสองฝ่ายมีไม่น้อย เพราะฉะนั้นก็ต่างจากพฤษภาประชาธรรม 2535 ด้วย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น