วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ศอ.รส.ประณามเลขาฯ ศาลปกครองเขียนจม.ฝากตำรวจ - การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายแทรกแซงการโยกย้ายอย่างชัดเจน และจะทำให้สังคมเชื่อถือคำพิพากษาศาลได้อย่างไร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล โฆษก ศอ.รส. แถลงสรุปผลการประชุมศอ.รส. ว่า กรณีมีการนำภาพถ่ายเอกสารที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ทำบันทึกถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้สนับสนุนพ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผกก. ให้ขึ้นเป็นผกก. โดยให้เหตุผลว่าได้ช่วยดูแลการปฎิบัติภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดในหลายโอกาส ซึ่งศอ.รส.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจอย่างชัดเจน ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ออกมาแถลงรับว่าได้ทำบันทึกดังกล่าวจริง และแม้จะพยายามอธิบายว่าเป็นเพียงการชื่นชมข้าราชการตำรวจคนดังกล่าวของประธานศาลปกครองเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาของการทำบันทึกและการออกมายอมรับดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำที่สมควรตำหนิ และประณามอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกระทำผิดต่อจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ โดยผู้นำสูงสุดของฝ่ายตุลาการในศาลปกครอง

โฆษก ศอ.รส. แถลงต่อว่า ทั้งที่ศาลปกครองเพิ่งมีคำพิพากษาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี นั้นเป็นการใช้ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบ ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม แต่การกระทำของนายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่การกระทำของเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง กับประธานศาลปกครองในกรณีนี้เป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจด้วยเลย ซ้ำร้ายกลับเป็นการกระทำผิดต่อจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งด้วย


แม้ว่าศอ.รส.จะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีในกรณีนี้ก็ตาม แต่ศอ.รส.ก็ห่วงใยว่ากรณีนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะเพิ่มความไม่เชื่อถือคำพิพากษาคดีของนายกรัฐมนตรี เรื่องการโยกย้ายนายถวิล อันจะนำไปเป็นประเด็นเพิ่มความขัดแย้งของคน 2 กลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นภารกิจของศอ.รส.ด้วยที่จะต้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในที่สุด จึงขอเรียกร้องให้บุคคลทั้งสองในศาลปกครองพิจารณาตนเองด้วยโฆษก ศอ.รส. แถลง

ไม่มีความคิดเห็น: