พานทองแท้โพลล์" ได้สำรวจความคิดเห็น ของพี่น้องประชาชน
ในหัวข้อ
"พี่น้องประชาชนไทย มีภาพจำในนโยบายและคำพูด
ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนไหนบ้าง" ได้ผลออกมาน่าสนใจครับ
ผมขอคัดเอามาเฉพาะที่มีคนโหวตสูงสุดจำนวน5ท่านแรก
เรียงตามปีที่ดำรงตำแหน่งนะครับ เป็นท่านอดีตนายกฯที่มาจากหลายพรรคฯด้วยกัน
เห็นรูปที่โพสต์นี้แล้ว บรรดาสลิ่ม-แมลงสาบ และคนไทยหัวใจอำมาตย์ทั้งหลาย
ที่ชอบแอบเข้ามาอ่านเพจ"พานทองแท้"ทุกวัน
บ่อยและเยอะกว่าเข้าไปดูเพจของพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะยิ้มกันแก้มแทบปริ
เพราะมีอดีตนายกฯที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ติดโผที่ประชาชนจำฝังใจถึง2คนด้วยกัน อดีตนายกจำนวน 5ท่านนี้ได้แก่...
1. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์
ภาพจำของท่านได้แก่นโยบาย "เงินผัน"
และคำพูดว่า "กูไม่กลัวมึง"ครับ
2. พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ
ภาพจำของท่านได้แก่นโยบาย" เปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามการค้า"
และคำพูดว่า "No Problem" ครับ
3. นายชวน หลีกภัย ภาพจำของท่านได้แก่ นโยบาย
"สปก.4-01" (มีภาพจำเรื่อง"ปล่อยหมากัดม็อบ"เยอะเลยครับ
แต่คงเป็นเรื่องของพฤติกรรมชั่ววูบ ไม่น่าจะใช่เรื่องนโยบาย เลยขอตัดทิ้งครับ)
และคำพูดว่า "เสียใจแต่ไม่ขอโทษ" ครับ
4. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภาพจำของท่านได้แก่
นโยบาย "ประชานิยม"
และคำพูดว่า "ผมจะเป็นนายกฯ ที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
และผมขอประกาศสงคราม ยาเสพติด ความยากจน และคอร์รัปชั่น" ครับ
(ไม่ได้เข้าข้างพ่อ
เลยเขียนยาวกว่าท่านอื่นนะครับ แต่คนโหวตแบบนี้เยอะจริงๆครับ)
5. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภาพจำของท่านได้แก่
นโยบาย "โรงพักเข้มแข็ง, ไข่ชั่งกิโล, นมโรงเรียน(บูด) และปลากระป๋อง(เน่า)"
และคำพูดว่า "เหี้ย กระหรี่ อีโง่" ครับ
(ไม่ได้เข้าข้างอภิสิทธิ์ฯ
เลยเขียนยาวกว่าท่านอื่นนะครับ แต่คนโหวต"เหี้ย"นี่เยอะจริงๆครับ)
ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้ง5ท่านไว้ตรงนี้นะครับ
สิ่งที่ท่านทำมาประสบความสำเร็จในการ Branding หรือการทำให้พี่น้องประชาชนเกิด"ภาพจำ
ติดตา ติดใจ" ในนโยบายและคำพูดของท่านมากกว่าคนอื่นๆ
ส่วน"ภาพจำ"ดังกล่าวนั้น ใครจะคิดในแง่บวกหรือแง่ลบนั้น
ผมว่ามันเป็นเรื่องนานาจิตตังครับ อดีตนายกหมายเลข 1และ2นั้นท่านล่วงลับไปแล้ว ท่านทำประโยชน์ให้กับประเทศมากมาย
ความเห็นจึงมักเป็นไปในทางบวกเหมือนกัน
ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่เป็นลบที่จะต้องมาถกเถียงกัน
ส่วนอดีตนายกท่านที่ 3,4,5 นี่ เสียงแตกออกเป็น2สี
2ทางเลยครับ ตัวอย่างเช่นเรื่อง สปก.4-01 บรรดาสลิ่ม-แมลงสาบทั้งหลาย อาจมองนโยบายสปก.4-01เป็นการนำที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพราะถ้านำที่ดินให้คนจนไปเพาะปลูก ต่อไปก็ต้องมาประกันหรือรับจำนำผลผลิตกันอีก
รายได้ต่อพื้นที่ภาคการเกษตรหรือจะดีสู้การท่องเที่ยว
สู้ให้นายทุนนำไปสร้างรีสอร์ทไม่ได้ พวกพ้องรวยกันถ้วนหน้า
สรุปว่าถ้าจะตะแบงมองเข้าข้างตัวเองกันแบบนี้ โรงพักเข้มแข็ง,ไข่ชั่งกิโล, นมโรงเรียนบูด, ปลากระป๋องเน่า
ก็มองในแง่ดีได้หมดแหละ แม้กระทั่งคำพูด เหี้ย, กระหรี่,
อีโง่ ศิษย์เก่าอ็อกซ์ฟอร์ดยังมองว่า
การพูดคำหยาบเป็นการอนุรักษ์คำไทยโบราณ เพื่อไม่ให้พจนานุกรมมีขนาดเล็กลงเลย
(เฮ้อออ...ไม่ทราบเอาสมองส่วนไหนคิดนะครับ..?)
ส่วนมุมมองความเห็นของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังมองภาพของสปก.4-01เป็นภาพลบครับ
เป็นภาพของการนำที่ดินทำกินของเกษตรกร ไปแจกให้กับนายทุนพรรคพวกตัวเอง
ที่รวยอยู่แล้วก็รวยยิ่งๆขึ้นกันไปอีก เราจึงได้ยินคนพูดกันติดปากอยู่เสมอว่า
นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น "อุ้มคนรวย ไม่ช่วยคนจน" พี่น้องประชาชน
โดยเฉพาะเกษตรกรคนยากคนจน จึงโกรธและเกลียดพรรคประชาธิปัตย์ฝังใจมาจนทุกวันนี้
ส่วนเรื่องคำพูดหยาบคายนั้นหลายคนมองว่า คนเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี
ควรประพฤติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน ดันพูดจาปราศรัยใช้คำพูดหยาบๆแบบนี้นี่
ใช้ไม่ได้ครับ
ก็อย่างที่ผมบอกไว้ว่า "นานาจิตตัง"ครับ
มุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน เรื่องง่ายๆเรื่องเดียว
คนยังมองตรงข้ามกันได้อย่างสิ้นเชิง ระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่เจริญแล้ว
เขาจึงต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ และเสียงส่วนน้อยต้องรู้แพ้รู้ชนะไม่ตีรวนครับ
เมืองไทยของเราไม่ทราบว่า จะต้องเรียนรู้กันไป อีกนานเท่าไหร่จึงจะหันมา
รักษากฏกติกามารยาทในระบอบรัฐสภากันอย่างจริงจังเสียทีนะครับ
มีเวลาว่างเลยเขียนยาวหน่อยนะครับ พอดีช่วงนี้ผ่องงานที่Voice TV ให้คนอื่นรับช่วงทำไปเยอะ
และเห็นว่าคราวที่แล้ว ไปเยี่ยมชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม พรรคประชาธิปัตย์ออกมาตีอกชกลมกันใหญ่
วันนี้นึกสนุกเลยจะลงพื้นที่...เอ๊ยยย..!!...ไปเยี่ยมพี่น้องที่จังหวัดเชียงใหม่ดูบ้าง
ว่ามีประเด็นอะไรที่จะมาเล่าสู่กันฟังหรือไม่
แล้วจะโพสต์รูปให้ดูกันนะคร๊าบบบบ.....!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น