วันที่ 9 ตุลาคม 2556 (go6TV) - ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2556 หมายเลขแดงที่ อม.6/2556
ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง พล.อ.เสถียร
เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
จากกรณีที่ พล.อ.เสถียร ไม่แสดงรายการบัญชีทรัพย์สินของตนและคู่สมรส (นางณัฐณิชาช์
เพิ่มทองอินทร์) จากกรณีเข้ารับตำแหน่งกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.)
กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างปี 2550-2551
- ในกรณีเข้ารับตำแหน่ง (27 ก.พ.2550) คือเงินฝากธนาคาร 16 บัญชี
เป็นเงิน 2,842,884.77 บาท เงินลงทุนมูลค่า 9,913,405,64 บาทที่ดินจำนวน 4 แปลง
มูลค่า 618,000 บาท รวมทรัพย์สินที่ไม่แสดงจำนวน 13,374,290.41 บาท และเงินกู้ยืม
จำนวน 1,500,000 บาท
- ในกรณีพ้นจากตำแหน่ง (15 ก.พ.2551) คือเงินฝากธนาคาร 15 บัญชี
เป็นเงิน 1,929,330.89 บาท เงินลงทุนมูลค่า 8,540,629 บาท ที่ดินจำนวน 4 แปลง
มูลค่า 618,000 บาท รวมทรัพย์สินที่ไม่แสดงจำนวน 11,087,959.89 บาท
และเงินกู้ยืมจำนวน 1,500,000 บาท
- ในกรณีที่พ้นจากตำแหน่งแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี (16 มี.ค.2552)
คือเงินฝากธนาคาร 13 บัญชี เป็นเงิน 393,417.14 บาท เงินลงทุนมูลค่า 1,629,600 บาท
ที่ดินจำนวน 4 แปลง มูลค่า 618,000 บาท รวมทรัพย์สินที่ไม่แสดงจำนวน 2,641,017.14
บาท และเงินกู้ยืมจำนวน 1,500,000 บาท
แต่เนื่องจากกรณีเข้ารับตำแหน่ง คดีขาดอายุความแล้ว
ป.ป.ช.จีงยื่นฟ้อง พล.อ.เสถียรแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ
ป.ป.ช.ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
เฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ขณะที่ศาลชี้ว่า กรณีพ้นจากตำแหน่งคดีขาดอายุความแล้ว
จึงจะวินิจฉัยเฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
โดยพบว่า พล.อ.เสถียร ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ
ป.ป.ช. รวม 5 รายการ ประกอบด้วย
(1) บัญชีเงินฝากประจำธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขาอุบลราชธานี
เลขที่บัญชี 305-3-32657 6/11 ของผู้คัดค้าน
(2) รายการเงินลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์หน่วยบัญชีทหารพัฒนา จำกัด
ของผู้คัดค้าน
(3) รายการเงินลงทุนใน หจก.กรุณาภรณ์ สหกิจ 1997 ของคู่สมรส จำนวน
1,500,000 บาท
(4) ที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 1461 และเลขที่ 1526 ต.แสนสุข (ธาตุ)
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ของคู่สมรส และ
(5) รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือกับ หจก.กรุณาภรณ์ สหกิจ
1997 ของคู่สมรส มูลค่า 1,500,000 บาท
องค์คณะผู้พิพากษา ศาลฎีกาฯ จึงมีคำพิพากษาว่า
พล.อ.เสถียรจงใจยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ
ป.ป.ช.ด้วยความข้ออันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ประกอบมาตรา 263 วรรคหนึ่ง
และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542
มาตรา 41
โดยมีโทษ ห้าม พล.อ.เสถียรดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา
5 ปี นับแต่วันที่ 15 ก.พ.2551 และมีโทษทางอาญา จำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท
แต่เนื่องจาก พล.อ.เสถียร ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1
ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น