ที่ห้องโถงอาคารรัฐสภา วันนี้ (17 ต.ค.) นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย
รับหนังสือร้องเรียนพร้อมภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ จากนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี กทม. นำเครื่องปั่นไฟของราชการไปอำนวยความสะดวกการชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)
ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและอาจผิดต่อระเบียบราชการเพราะนำทรัพย์สินของทางราชการมาใช้ประโยชน์
โดยมิชอบ กระทรวงมหาดไทยรับปากว่าจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน2สัปดาห์ โดยเตรียมเชิญม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร
ผู้ว่าฯกทม.หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อไป
นายวิสาร กล่าวว่า จากการที่ตนกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งมีผู้ชุมนุมอยู่ประมาณ 400 คน แต่กลับมีผู้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันแล้วกว่า 20 ราย โดยการชุมนุมเปิดเผยในที่สาธารณะสามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกัน กทม.ก็มีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แต่ก็ไม่ใช่สนับสนุนการชุมนุมจนเกินเลย ดังนั้น ถ้าใครกระทำผิดเกินเลยหน้าที่ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งการลงโทษคงไม่ได้ถึงขั้นรุนแรงอยู่แล้ว อาจจะเป็นการตักเตือนก่อน หรือหาของทางราชการเสียหายก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ตนเชื่อว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. อาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความเกี่ยวข้องของผอ.เขต หรือผอ.สำนักโยธาฯ มากกว่า ที่อาจจะเชียร์ม็อบแล้วไปสนับสนุน หรืออาจะเป็นการให้ความช่วยเหลือตามปกติ แต่ถ้าเกินความเป็นธรรมเรื่องนี้ก็ต้องตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ตนไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นตอบโต้ทางการเมือง และยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งใครแต่เราก็ไม่ควรไปสนับสนุนม็อบให้กีดขวางการจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการสัมภาษณ์ น.ส.สมจิตต์
เครือนวสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง7 ได้พยายามสอบถาม
นายวิสารถึงท่าทีของรัฐบาลว่า
กำลังกดดันผู้ว่าฯกทม.เพื่อให้ไปจัดการกับม็อบใช่หรือไม่
ซึ่งนายวิสารปฏิเสธตอบคำถามของ น.ส.สมจิตต์ เนื่องจากเห็นว่าไปเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบดังกล่าว
พร้อมกับโชว์ภาพจากโทรศัพท์มือถือ และระบุว่า “มีผู้ส่งรูปถ่ายมาให้ตนหลายภาพโดย
1 ใน 40 คนของผู้ร่วมชุมนุมก็มีคุณสมจิตต์อยู่คนเดียวที่เอาสุนัขไปเลี้ยง
ไปอยู่ที่นั่นกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งผใไม่อยากขยายความ และคุณก็อยู่ในม็อบ ผมไม่อยากตอบคำถามคุณ
และคุณสมจิตต์ทำหน้าที่เกินเลยความเป็นนักข่าว”
นอกจากนี้ ก็ยังมีเยาวชนอายุแค่ 16-17 ปี
มาร่วมการชุมนุม และมีรูปถ่ายถูกมาจากการจัดตั้งทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน
รวมถึงมีชาวบ้านมาร้องเรียนถึงกระทรวงมหาดไทยว่าอยู่อาศัยไม่ได้ เนื่องจากม็อบส่งกลิ่นเหม็น
ซึ่งตนก็เห็นว่าผู้ชุมนุมมีแค่ 40 คน แต่ต้องกางเต้นท์
ปิดถนน มีส้วมหน้าบ้าน จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
และการรับเรื่องของนายพร้อมพงศ์ในวันนี้ ไม่ได้บอกว่าผู้ว่าฯกทม. ถูกหรือผิด
เพราะทุกอย่างต้องว่าไปตามหลักฐาน กระบวนการของกฎหมาย ตามหลักนิติรัฐนิติธรรมต้องมีความเสมอภาค
ซึ่งต้องตรวจสอบว่าใครทำผิด ก็ต้องว่าไปตามระเบียบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น