ใกล้ถึงวันวิวาห์ของ "ชยิกา วงศ์นภาจันทร์" (แซนด์) บุตรสาวคนโตของ"เยาวเรศ ชินวัตร" (พี่สาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) และ "วีรชัย วงศ์นภาจันทร์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินวัตร (ภูเก็ต) จำกัด ที่กำลังจะมีขึ้น
แซนด์จึงถูกโฟกัสมากเป็นพิเศษ และเธอยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามองในฐานะลูกหลานตระกูล "ชินวัตร" อยู่ในสายงานการเมืองใกล้ชิดกับ "น้าปู" ในตำแหน่งข้าราชการการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
หน้าที่หลัก คือช่วยดูแลโซเชียลมีเดีย เช่น เว็บไซต์รัฐบาล (http://www.thaigov.go.th) เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย เฟซบุ๊กพรรคและของรัฐบาล ทำงานควบคู่กับสำนักงานโฆษกรัฐบาล และเป็นหนึ่งในทีมที่เข้าไปช่วยเซตนิวมีเดีย
หลังจากที่แซนด์ได้ทำงานใกล้ชิดกับนายกฯปู ตั้งแต่ก่อนหาเสียงเลือกตั้งและช่วงหาเสียงยังได้เป็นผู้ช่วยเลขาฯกรรมการพรรคเพื่อไทย ร่วมร่างนโยบายหาเสียง อีกทั้งยังเป็นเลขานุการสรุปประเด็นจากการประชุม และมีความถนัดในการทำฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ จึงเข้ามาช่วยดูแลสื่อออนไลน์ ประกอบกับผ่านงานสายมาร์เก็ตติ้งมาก่อน
เมื่อผนวกเข้ากันจึงเข้ามาทำงานการเมืองในส่วนมาร์เก็ตติ้ง คอยตอบข้อซักถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายพรรค ชี้แจงสิ่งที่คนไม่เข้าใจและเข้าใจผิดให้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง แต่ไม่เน้นการตอบโต้
"ถ้าเราอยู่กับความจริง บิดยังไงก็ไม่ไป พูดกี่ทีก็ถูก พูดกี่ครั้งก็จะเหมือนเดิม"
นี่คือคำกล่าวของหลานสาวนายกฯปู ผู้อยู่เบื้องหลังคำชี้แจงแถลงไขที่เห็นกันตามโซเชียลมีเดียของรัฐบาล ทำงานร่วมกับทีมงานรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล และ ส.ส.ในพรรค เปรียบดังแม่ทัพด้านหน้าที่ต้องเจอกับแรงปะทะในโลกออนไลน์
หากใครที่จิตไม่แข็งพออาจจะลมปรานแตกซ่านสติแตกได้ง่าย ๆ
แซนด์ยอมรับว่า ต้องรวบรวมสมาธิมากทีเดียวกว่าจะปล่อยวางได้ ประกอบกับกำลังใจจากว่าที่เจ้าบ่าว "ไผ่ บัวงาม" วัย 37 ปี หนุ่มเมืองเพชรลูกชายอดีตเกษตรจังหวัดเพชรบุรี ปัจจุบันเป็นผู้จัดการด้านการพัฒนาธุรกิจ บริษัท พีเออี จำกัด (มหาชน) คอยอยู่เคียงข้าง
ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยน ปลอบโยน ให้คำแนะนำกันและกัน และด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ทำให้ทั้งสองตัดสินใจจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ และฉลองสมรสในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี
ถึงจะตกลงปลงใจกันมานานแล้ว แต่ฝ่ายว่าที่เจ้าสาวบอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"ว่า ตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อต้องนับถอยหลังเข้าประตูวิวาห์ ในวันที่มาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งยังสถานที่ซึ่งทั้งสองต่างผูกพันร่วมกัน ณ ห้องอาหารอควา โรงแรมโฟร์ซีซั่น พร้อมกับเปิดใจถึงเรื่องราวความรักก่อนตัดสินใจลั่นระฆัง
ความรักของ "ไผ่-แซนด์" ก่อเกิดคล้าย ๆ กับคู่รัก ลูกพี่ลูกน้องอย่าง "เอม-พินทองทา ชินวัตร กับพงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สถาปนิกหนุ่มรูปหล่อ ทั้งคู่พบรักกันในคลาสเรียน หลักสูตรอสังหาริมทรัพย์ RE-CU จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความสัมพันธ์ของทั้งสองดำเนินมากว่า 4 ปี ต่างได้พิสูจน์รักแท้ของกันและกันมาพอสมควร ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่
ฝ่ายชายเองก็ต้องผจญด่านอรหันต์บิดาแสนดุ ผู้หวงและห่วงลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใด และมารดาที่แม้จะตามใจลูก แต่ขอสแกนก่อนทุกครั้งไป รวมทั้งแก๊งน้องชายที่ขอวางฟอร์มโหดหวงพี่สาวไว้ก่อน แต่เมื่อทุกคนพิจารณาดูอายุของบุตรสาวคนเดียวในบ้าน ก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาออกเรือนได้แล้ว (ปัจจุบันอายุ 34 ปี)
"ตอนที่พาพี่ไผ่ไปเจอพ่อครั้งแรก เขาเกร็งมาก" แซนด์ย้อนความหลังเมื่อครั้งพาแฟนเข้าบ้านครั้งแรก
ว่าที่เจ้าบ่าวรีบเสริมว่า "ผมเอาไวน์ไปให้ พ่อเขาบอกว่า ไม่เอาไวน์ยี่ห้อนี้ พ่อกินอีกแบบหนึ่ง โอ้ย ตกใจมาก มากกว่านั้น น้องชายสองคนของแซนด์ก็เหมือนพ่อ ไม่มองหน้า ไม่พูดไม่คุย เพราะหวงพี่สาว แต่ตอนหลังก็สนิทกันมาก เหมือนผมก็มีพี่น้องเพิ่มขึ้น ถามว่ายากมั้ย ผมก็บอกว่าไม่ได้ยากเลย"
ด้านว่าที่เจ้าสาวแจงว่า ด่านคุณแม่เยาวเรศผ่านฉลุย
"แม่บอกว่าพี่ไผ่เป็นคนน่ารัก แม่ชอบไปดูหมอ แล้วปักใจเชื่อมากว่าลูกสาวจะเป็นคนดูแลตอนแก่ เขาก็เลยมาดูพี่ไผ่ด้วย ซึ่งพี่ไผ่ก็เทกแคร์คุณแม่เยอะมาก แม่ก็ชอบใจ เหมือนไปตรงกับที่หมอดูพูด เขาก็โอเค ๆ ถ้าเจอลูกเขยไม่เอาใจก็อาจจะไม่เอา" แซนด์แอบเล่าเบา ๆ ให้ฟัง
ด้านฝ่ายหญิงก็เอาชนะใจพ่อแม่ฝ่ายชายได้ไม่ยากเช่นกัน แค่ลูกชายปลื้มพ่อแม่ก็พร้อมจะยอมรับได้ทุกอย่าง
ความรักของทั้งสองก่อตัวขึ้นในช่วงที่สังคมพิพากษาการเมืองอย่างหนักหน่วงฝ่ายชายได้หยิบยื่นความเห็นอกเห็นใจมอบให้ฝ่ายหญิงในขณะที่ตระกูลของเธอถูกโจมตีหนัก
จุดนี้เองที่ฝ่ายหญิงใจอ่อน ทั้งคู่ต่างประทับใจในความเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ของกันและกัน
"ถ้าแซนด์ยืนอยู่ในจุดปัจจุบัน ผมคงไม่มาจีบ บางทีผมเลือกไม่ได้ว่าเราจะเจอเขาตอนไหน แต่เราก็ดีใจที่ได้เจอเขาตอนนั้น และแซนด์ก็ทำให้ผมหัวเราะได้ ยิ้มได้ เราปล่อยมุขกันสองคนก็เพลิน ๆ ปล่อยมา 100 ขำแค่ 2 ก็โอเค" ว่าที่เจ้าบ่าวอธิบายถึงที่มาของการตัดสินใจจีบลูกสาวตระกูลดัง หากพิจารณาบุคลิกของแซนด์ เธอมีเสน่ห์ระหว่างการพูดคุย ทำให้คู่สนทนาประทับใจ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนเต็มตัว
ฉะนั้นถ้าต้องปรับเป็นโหมดโรแมนติก อาจจะยากสำหรับแฟนหนุ่ม เพราะเธอไม่ค่อยอยู่นิ่ง ๆ ให้เซอร์ไพรส์ได้ง่าย ๆ ว่าที่เจ้าบ่าวได้พยายามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์กลับมาตลอด
"มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเตรียมเซอร์ไพรส์เขาที่ห้องรับแขก โรยกลีบกุหลาบไว้เต็มห้อง และจุดเทียนหอมไว้ทั่วห้อง คิดว่าเขากลับมาต้องเซอร์ไพรส์แน่ ๆ แต่จู่ ๆ เอมก็โทร.มาบอกให้ไปรับแซนด์หน่อย เพราะแซนด์เริ่มมึน ๆ แล้ว ผมต้องรีบเก็บดอกไม้ออกให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อเตรียมทำให้ในวันถัดไป มันจะเป็นอย่างนี้ตลอดแต่ก็สนุกดี" ว่าที่เจ้าบ่าวแอบแซวว่าที่ภรรยา
ทั้งคู่ยอมรับว่า เมื่อต้องใช้ชีวิตคู่ มีหลายอย่างที่ต้องปรับเข้าหากัน โดยฝ่ายชายเรียกร้องขอเวลาจากว่าที่ภรรยาให้เงยหน้าออกจากโลกโซเชียลบ้าง และอยากให้เธอทำงานเบื้องหลังแบบนี้ ยังไม่อยากให้สปอตไลต์การเมืองส่อง
ฝ่ายหญิงเองแรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ได้สนใจการเมือง คิดว่าการเมืองไทยอดีตจนถึงปัจจุบันไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิง แต่ตอนนี้เริ่มพัฒนาดีขึ้น แต่มีจุดที่ต้องกลัว ต้องระวัง
แม้จะขยาดบ้าง แต่เมื่อได้มาสัมผัสการเมืองจริง ๆ ความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ทำประโยชน์กับคนอื่น ทำให้เธออยู่ต่อ และขอก้าวแบบช้า ๆ ขอเวลาหาประสบการณ์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เห็นสมควรให้อยู่จุดใด
"นายกฯปูสอนไว้ว่า จำไว้เลยนะว่า เราทำงานตรงนี้ ด้วยความที่เราเป็นหลาน จะต้องทำดีกว่าคนอื่นเยอะ ๆ เพราะถ้าทำดีเราก็จะทำดีเท่าตัว แต่ถ้าทำผิดเราจะต้องโดนเพ่งเล็งอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องอดทน อดทน และอดทน" หลานสาวนายกฯบอกและเล่าวิธีฝึกความอดทนว่า "โยนไปที่ไผ่ เวลาถูกจู่โจมหนักทางโซเชียล"
ทั้งคู่ยังเล่าถึงบรรยากาศในงานหมั้นวันที่ 19 มิ.ย.ว่าเป็นธีม "เซียงไฮ้ไนท์" ผู้หญิงแต่งกี่เพ้า ผู้ชายเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ งานแต่งเป็นแบบสากล โดยชุดเจ้าสาวสั่งตัดที่ร้านพิจิตรา และสูทเจ้าบ่าวตัดที่ร้าน Button Up (ร้านฮิตดาราฮอลลีวูดสั่งตัด)
สำหรับทริปฮันนีมูนฝ่ายชายวางแผนจะพาเจ้าสาวไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์รสแซบกันที่ยุโรป และไม่ลืมที่จะพาไปย้อนรอยอังกฤษเมืองที่เขาเคยอาศัยอยู่ เช่นเดียวกับของชำร่วย คือ น้ำตาลโตนด สินค้าโอท็อปเมืองเพชร ที่ได้ชื่อว่าหอมหวานที่สุด
ถึงจะหอมหวานหรือแซบแค่ไหน แต่ฝ่ายหญิงแอบกระซิบว่า ขอใช้ชีวิตสองคนไปก่อนจะตัดสินใจมีเจ้าตัวน้อยให้ชื่นใจ
**รู้จักหลานเขยคนล่าสุดตระกูล "ชินวัตร"
ไผ่ เป็นบุตรคนเดียวของนาย นายเอื้อ บัวงาม และ นางสมถวิล บัวงาม เกิดวันที่ 17 ธันวาคม 1976 ที่จังหวัด เพชรบุรี ปัจจุบันทำงานเป็นผู้จัดการด้านการพัฒนาธุรกิจ บริษัท พีเออี (จำกัด) มหาชน ก่อนหน้านี้เคยเป็น ผู้อำนวยการ/เจ้าของ Otto Pizza กรุงเทพ และเคยทำงานเป็นกรรมการผู้จัดการโรงแรม Cinnamon Beach Resort เกาะสมุย จ. สุราษฏร์ธานี
เขาเกิดและเรียนที่จังหวัดเพชรบุรี กระทั่งเรีนจบมัธยมฯ เขาได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อเรียนต่อคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อเรียนจบเลือกเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ หวังจะหาวิชาชีพติดตัวกลับมา แต่หลังจาก
ได้สัมผัสกับชีวิตการทำงาน เขาเบนเข็มจากการศึกษามาทำงานเต็มตัว โดยการลงหุ้นกับเพื่อนซื้อร้านอาหารมาบริหาร ก่อนจะแยกตัวไปเทกโอเวอร์ ร้านสไปซี่ไทย มาดูแลเอง
ทำงานอยู่ประเทศอังกฤษเกือบ 7 ปี แล้วจึงกลับมาเมืองไทย จากนั้นสนใจด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทดลองทำโปรเจ็กต์ 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงลงเรียนคอร์สอสังหาริมทรัพย์ RE-CU จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะได้พบรักกับ "แซนด์ ชยิกา" หลังจากนั้น (ซัน) น้องชายแซนด์ จึงชักชวนให้เข้าไปทำงานในบริษัทก่อสร้าง พีเออี
อ้างอิง http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1371100286
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น