นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์
ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า
ธ.ก.ส.ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรในหัวข้อ “เงินออมของเกษตรกรและความคิดเห็นต่อโครงการรับจำนำข้าว”ในระหว่างวันที่ 14 และ 17
มิถุนายน 2556 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเกษตรกรจากภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง พบว่า
1. เกษตรกรมีเงินออมกับ ธ.ก.ส.
เพิ่มขึ้น ซึ่งเงินออมของเกษตรกรส่วนใหญ่ได้มาจากการขายผลผลิตการเกษตร
โดยเป็นเงินรายได้จากการจำนำข้าวคิดเป็นร้อยละ 82.6 % ทั้งนี้เหตุผลที่เกษตรกรฝากเงินกับ
ธ.ก.ส.เพราะเดินทางสะดวก/ใกล้บ้าน และเป็นธนาคารที่มีความมั่นคง
2. เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรัฐบาล
(อาทิ โครงการจำนำข้าวและพักชำระหนี้)มีส่วนช่วยลดภาระหนี้สินทั้งในระบบ (หนี้
ธ.ก.ส. และหนี้ผ่อนชำระรถยนต์/รถจักรยานยนต์) และนอกระบบคิดเป็นร้อยละ 97.8%
3. ขายข้าวได้ราคาสูงกว่าท้องตลาดมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ
77.7 %
4. มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อโครงการรับจำนำข้าวคิดเป็นร้อยละ 93.7 %
ด้วยเหตุผลดังนี้
ราคารับจำนำข้าวสูงกว่าราคาตลาดผู้ปลูกข้าวเป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
และแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดได้ นอกจากนี้ จากการสัมภาษณ์พบว่า
เกษตรกรได้รับผลตอบแทนจากการจำนำข้าวสูงกว่ากรณีที่นำข้าวไปขายให้แก่โรงสี
เกษตรกรจึงมีความพึงพอใจต่อโครงการรับจำนำข้าวมากโดยสรุปความพึงพอใจของเกษตรกรที่มีต่อโครงการรับจำนำข้าวในภาพรวมเห็นว่าดีมีประโยชน์
นายสมศักดิ์
กล่าวต่อไปว่าหน่วยงานภาครัฐควรรณรงค์ให้เกษตรกรผลิตข้าวที่มีคุณภาพเพื่อรักษาตลาดส่งออกข้าวในระยะยาวด้วยการกำหนด“ราคานำ”สำหรับข้าวคุณภาพดีสูงกว่าปกติเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจเกษตรกรให้ปลูกข้าวที่มีคุณภาพซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น