ศปภ.แถลงการณ์เวลาเย็น
ตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนถึงขณะนี้การอพยพผู้คนออกจากนวนครเป็นไปอย่างโกลาหล ทำให้การจราจรด้านติดขัดอย่างหนักทั้งรถและคน ขณะที่น้ำซึ่งทะลักเข้าสู่พื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้เข้าท่วมโรงงานในโครงการ1 ด้านทิศเหนือแล้วกว่า 10 โรงงาน แต่ก็มีความพยายามที่จะบล็อคน้ำให้จำกัดพื้นที่อยู่บนแนวถนนสาย 5 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของโครงการ 1 แต่ปัญหาที่พบขณะนี้คือน้ำได้ไหลไปตามท่อและคลองระบายน้ำและเริ่มผุดขึ้นในบางจุดทั่วโครงการแล้ว
นาทีที่น้ำได้ทะลักเข้าสู่พื้นที่ ทางถนนนวนครสาย 14 เข้าท่วมโรงงานลินินแคร์ จมน้ำเป็นโรงงานแรก โดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร และขยายวงกินพื้นที่เกือบครึ่งของโครงการ 1 หรือประมาณ 20% ของพื้นที่นิคมฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามที่จะกั้นทางน้ำบริเวณหัวถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน 128 กรุ๊ป แต่น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปภายในโรงงานส่งผลให้กำแพงโรงงานพังลง น้ำทะลักเข้าสู่ใจกลางโครงการ 1 ซึ่งมีโรงงานสำคัญตั้งอยู่เช่น สยามคูโบต้า เอ็นอีซี. และวิศวไทย แต่ก็มีความพยายามของคนในนิคมฯที่จะหยุดกระแสน้ำโดยระดมกระสอบทรายนับหมื่นลูกไปปิดถนนทุกเส้นที่จะมุ่งสู่ถนนสาย 5 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของโครงการ 1
แม้ว่าขณะนี้จะชะลอน้ำบนถนนไว้ได้แต่ปัญหาที่เกิดคือน้ำได้ทะลักเข้าไปตามท่อระบายน้ำและคลองส่งน้ำโดยรอบโครงการเริ่มเต็มและล่าสุดน้ำเริ่มเอ่อขึ้นท่วมทั่วพื้นที่ในหลายจุดแล้ว
ขณะที่ทางนิคมฯ ได้ประกาศอพยพแรงงานหลายพันคน เร่งเก็บข้าวของออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดความชุลมุนและการจราจรติดขัดอย่างหนักตั้งแต่ถนนด้านในนิคมฯ จนถึงเส้นพหลโยธิน และมีแรงงานต่อคิวซื้อตั๋วรถโดยสารยาวเหยียด ขณะที่รถรับจ้าง ต่างปฏิเสธรับ-ส่งผู้โดยสารเข้า-ออกนิคมฯเพราะกลัวจะได้รับผลกระทบหากน้ำทะลักเข้าพื้นที่
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 มาติดตามสถานการณ์และจัดระเบียบการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ ซึ่งมีการใช้ถนนและสะพานลอยอย่างหนาแน่นจนเกรงว่าสะพานลอยอาจไม่สามารถรับน้ำหนักได้ โดยได้ให้เด็ก ผู้หญิงและคนชราขึ้นไปก่อน ประชาชนที่อดทนเข้าคิวไม่ไหวก็ตัดสินใจวิ่งข้ามถนน 8 เลน ทำให้การจราจรบนถนนพหลโยธินติดขัดอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามยังมีความพยายามที่จะชะลอน้ำที่ทะลักเข้าพื้นที่นิคมฯบริเวณคันกั้นน้ำด้านทิศเหนือใกล้บ่อบำบัด โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ซีนุ๊กจากศูนย์การบินทหารบก 2 ลำทำการยกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุทรายไปวางปิดทางน้ำ ซึ่งปฏิบัติการหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ใช้เวลาตู้ละประมาณครึ่งชั่วโมง
เบื้องต้นสามารถหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ได้แล้ว 3 ตู้จากแผนทั้งหมด 6 ตู้ พร้อมทั้งเตรียมตู้คอนเทนเนอร์สำรองไว้สำหรับจุดอื่น ๆ อีก 20 ตู้ ทั้งนี้ทีมปฏิบัติการเชื่อว่าหากสามารถหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ได้ตามแผนจะช่วยชะลอน้ำทะลักเข้าพื้นที่นิคมฯได้ถึง 90% แต่หากปฏิบัติการนี้ไม่สำเร็จ ก็คาดว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วมนิคมฯจนถึงถนนพหลโยธินภายใน 6 โมงเย็นวันนี้
ขณะที่รอยรั่วอื่น ๆ ได้จัดเรือโป๊ะบรรทุกรถแบ็คโฮ ทยอยเข้าทำการเสริมคันดินและอุดรอยรั่วแล้ว รวมทั้งได้จัดเจ็ตสกีเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วนำกระสอบทรายไปอุดทั้งคันดินที่รั่วและท่อระบายน้ำที่มีน้ำเอ่อล้นขึ้นมา เพื่อรักษาพื้นที่ไว้ให้ได้มากที่สุด
นาทีที่น้ำได้ทะลักเข้าสู่พื้นที่ ทางถนนนวนครสาย 14 เข้าท่วมโรงงานลินินแคร์ จมน้ำเป็นโรงงานแรก โดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร และขยายวงกินพื้นที่เกือบครึ่งของโครงการ 1 หรือประมาณ 20% ของพื้นที่นิคมฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามที่จะกั้นทางน้ำบริเวณหัวถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน 128 กรุ๊ป แต่น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปภายในโรงงานส่งผลให้กำแพงโรงงานพังลง น้ำทะลักเข้าสู่ใจกลางโครงการ 1 ซึ่งมีโรงงานสำคัญตั้งอยู่เช่น สยามคูโบต้า เอ็นอีซี. และวิศวไทย แต่ก็มีความพยายามของคนในนิคมฯที่จะหยุดกระแสน้ำโดยระดมกระสอบทรายนับหมื่นลูกไปปิดถนนทุกเส้นที่จะมุ่งสู่ถนนสาย 5 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของโครงการ 1
แม้ว่าขณะนี้จะชะลอน้ำบนถนนไว้ได้แต่ปัญหาที่เกิดคือน้ำได้ทะลักเข้าไปตามท่อระบายน้ำและคลองส่งน้ำโดยรอบโครงการเริ่มเต็มและล่าสุดน้ำเริ่มเอ่อขึ้นท่วมทั่วพื้นที่ในหลายจุดแล้ว
ขณะที่ทางนิคมฯ ได้ประกาศอพยพแรงงานหลายพันคน เร่งเก็บข้าวของออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดความชุลมุนและการจราจรติดขัดอย่างหนักตั้งแต่ถนนด้านในนิคมฯ จนถึงเส้นพหลโยธิน และมีแรงงานต่อคิวซื้อตั๋วรถโดยสารยาวเหยียด ขณะที่รถรับจ้าง ต่างปฏิเสธรับ-ส่งผู้โดยสารเข้า-ออกนิคมฯเพราะกลัวจะได้รับผลกระทบหากน้ำทะลักเข้าพื้นที่
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 มาติดตามสถานการณ์และจัดระเบียบการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ ซึ่งมีการใช้ถนนและสะพานลอยอย่างหนาแน่นจนเกรงว่าสะพานลอยอาจไม่สามารถรับน้ำหนักได้ โดยได้ให้เด็ก ผู้หญิงและคนชราขึ้นไปก่อน ประชาชนที่อดทนเข้าคิวไม่ไหวก็ตัดสินใจวิ่งข้ามถนน 8 เลน ทำให้การจราจรบนถนนพหลโยธินติดขัดอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามยังมีความพยายามที่จะชะลอน้ำที่ทะลักเข้าพื้นที่นิคมฯบริเวณคันกั้นน้ำด้านทิศเหนือใกล้บ่อบำบัด โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ซีนุ๊กจากศูนย์การบินทหารบก 2 ลำทำการยกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุทรายไปวางปิดทางน้ำ ซึ่งปฏิบัติการหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ใช้เวลาตู้ละประมาณครึ่งชั่วโมง
เบื้องต้นสามารถหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ได้แล้ว 3 ตู้จากแผนทั้งหมด 6 ตู้ พร้อมทั้งเตรียมตู้คอนเทนเนอร์สำรองไว้สำหรับจุดอื่น ๆ อีก 20 ตู้ ทั้งนี้ทีมปฏิบัติการเชื่อว่าหากสามารถหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ได้ตามแผนจะช่วยชะลอน้ำทะลักเข้าพื้นที่นิคมฯได้ถึง 90% แต่หากปฏิบัติการนี้ไม่สำเร็จ ก็คาดว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วมนิคมฯจนถึงถนนพหลโยธินภายใน 6 โมงเย็นวันนี้
ขณะที่รอยรั่วอื่น ๆ ได้จัดเรือโป๊ะบรรทุกรถแบ็คโฮ ทยอยเข้าทำการเสริมคันดินและอุดรอยรั่วแล้ว รวมทั้งได้จัดเจ็ตสกีเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วนำกระสอบทรายไปอุดทั้งคันดินที่รั่วและท่อระบายน้ำที่มีน้ำเอ่อล้นขึ้นมา เพื่อรักษาพื้นที่ไว้ให้ได้มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น