เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณีหม่อมอุ่นเรือน ยุคล อดีตชายาของ ม.จ.ฐิติพันธ์ ยุคล หรือท่านกบ ราชสกุลยุคลสายพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล นำเอาพระบรมโกศของรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลไปจำนำไว้กับพ่อค้าย่านเยาวราชว่า กระทรวงวัฒนธรรมไม่มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากพระบรมโกศรัชกาลที่ 5 ถือเป็นมรดกตกทอดประจำราชสกุลยุคล เป็นสมบัติส่วนบุคคลในครอบครัวราชสกุลยุคล ซึ่งต้องดูแลปกป้องกันเอง
นายสมชายกล่าวว่า เบื้องต้นมีความเห็นว่ากระทรวงวัฒนธรรมยังไม่ตั้งเรื่องขอซื้อคืนจากพ่อค้าเยาวราช เพราะคิดว่าลูกหลานราชสกุลยุคลควรจะต้องดูแลพระบรมอัฐิบรรพบุรุษให้ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะเพิ่งเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ภาคใต้
มีรายงานว่า เรื่องดังกล่าวกระทรวงวัฒนธรรมยังไม่มีการตั้งเรื่องหรือมอบให้กรมศิลปากรดำเนินการใดๆ เพียงแต่แจ้งข่าวให้ผู้บริหารระดับสูงรับทราบตามปกติ เพราะเห็นว่าพระบรมโกศรัชกาลที่ 5 ยังมีสถานะเป็นสมบัติส่วนบุคคล ไม่ใช่สมบัติของแผ่นดิน การที่จะให้ตกเป็นสมบัติของแผ่นดินคือ เจ้าของยินยอมบริจาคให้กระทรวงวัฒนธรรมเก็บรักษาไว้เท่านั้น
ม.จ.ภูริพันธ์ ยุคล หรือท่านเป๋อ หนึ่งในเครือญาติราชสกุลยุคล กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่หม่อมอุ่นเรือน ยุคล นำพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 5 ไปจำนำ และยังไม่มีการไถ่คืนเป็นเวลานานร่วมปีว่า ส่วนตัวไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้มาก เพราะอยู่นอกวง เป็นแค่ส่วนหนึ่งของตระกูล ไม่ค่อยรู้เรื่องที่มาที่ไป แต่เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยหารือกันแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาของคนในตระกูลยุคล แต่ไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรในการพูดคุยกัน เพราะอยู่ประชุมไม่ตลอด วงหารือบอกว่าหม่อมไฉไลต้องรีบไป เลยไม่อยู่ประชุมตลอด และกลับทันที
“ผมไม่อยากฟังด้วยซ้ำไปเรื่องนี้ ลองคิดดูให้ดี เป็นคนในตระกูลยุคลหรือเปล่า มาจากไหน คนนี้ไม่ใช่คนในตระกูล เป็นพวกอาศัยสกุลอยู่ พวกที่เป็นหม่อมทั้งหลายแหล่สื่อต้องไปดูว่ากำพืดของพวกนี้มาจากไหน บางคนจบแค่ ป.4 ไม่มีความนึกคิด แต่ผมเลือกครอบครัวดี มีสกุล เราชอบอยู่เงียบๆ ไม่อยากพูดเรื่องนี้ ที่อยู่ทุกวันนี้ในตระกูลยุคลก็อยู่แบบแกนๆ" ม.จ.ภูริพันธ์กล่าว
ท่านเป๋อกล่าวว่า พระบรมอัฐิดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นมรดกของฝ่ายโน้น เจ้าของทรัพย์จริงๆ มีแค่ 3 คน ชาย 2 หญิง 1 คนที่ต้องรับผิดชอบคือคนที่ครอบครองไว้ต้องรับทราบและรับผิดชอบเรื่องนี้ หม่อมอุ่นเรือนไม่มีสิทธิ์ และคนที่รับซื้อไปก็เท่ากับรับซื้อของโจร
"มันแล้วแต่คน ไม่เข้าใจ มีแต่ใช้ทรัพย์สินอวดร่ำอวดรวยกัน และต้องดูกำพืดด้วย แต่งงานมีครอบครัวก็ต้องดูให้ดี ถ้าเราไม่เลือกก็เป็นแบบนี้ เอาสาวใช้ เอาเด็กขายกาแฟมาก็จบ มันเป็นแบบนี้ถึงมีเรื่องแย่งมรดกกันเป็นว่าเล่น” ม.จ.ภูริพันธ์กล่าว
น.ส.สายฝน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 55 ปี หนึ่งในลูกหลานราชสกุลยุคลสายพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล หรือเสด็จพระองค์ชายใหญ่ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรุ่นเด็กก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร และยังไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้ใหญ่ในราชสกุลยุคล จึงไม่ทราบทางออกเรื่องนี้
"ดิฉันกับพี่น้องหลายคนเครียดกันมาก เท่าที่ทราบคือผู้ใหญ่ในราชสกุลยุคลยังไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจน คิดว่าคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือหม่อมอุ่นเรือน ยุคล" น.ส.สายฝนกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น