วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

จับแพะชนแกะ “จักรทิพย์” โยงอาร์พีจีกลางกรุง ไปคู่กับบึ้มกลาโหม


“จักรทิพย์” เผย เครื่องยิงอาร์พีจีและลูกจรวดที่พบซุกภายในห้องเช่าย่านสะพานเหลือง ไม่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ถูกขโมยหายไปจาก จ.ลพบุรี พร้อมสั่งตรวจสอบอย่างละเอียดหาที่มา ระบุ ลูกจรวดและเครื่องยิงคล้ายกับอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่กระทรวงกลาโหม ส่วนเจ้าของห้องเช่าที่เป็น รปภ.เรียกตัวสอบแล้ว และให้การเป็นประโยชน์ เตรียมเรียกเพื่อน รปภ.ที่เคยอยู่ห้องเช่าด้วยกันสอบ หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องจะแจ้งข้อหาต่อไป
วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น.เปิดเผยกรณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก รับแจ้งเหตุพบอาวุธสงคราม ซึ่งประกอบด้วย เครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี 1 กระบอก ปืนอาก้า 1 กระบอก ลูกจรวดอาร์พีจี 4 ลูก และกระสุนปืนอาก้า 750 นัด ภายในห้องเช่า ซอยกิตพาณิชย์ ย่านสะพานเหลือง เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า เครื่องยิงอาร์พีจีและลูกจรวดที่พบไม่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ถูกขโมยหายไปจาก จ.ลพบุรี แต่จะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นรายวันหรือไม่นั้น จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบลูกจรวดอาร์พีจี และเครื่องยิงที่พบเมื่อวานนี้ เบื้องต้นคล้ายกับอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ที่จะต้องตรวจสอบว่าอาวุธสงครามที่พบทั้งหมดมีที่มาที่ไปอย่างไร

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า อาวุธทุกอย่างที่พบเมื่อวานนี้เป็นกล่องยังไม่ได้ประกอบ ลูกก็ลูก ดินส่งก็ดินส่ง แก๊ปก็แก๊ป แยกสวนกันอยู่ ถ้าใช้จะต้องนำมาประกอบกัน ส่วนการออกหมายจับนั้นยังไม่มี เนื่องจากทาง สน.บางรัก เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำแล้ว หากนายอุเทน พาอินทร์ และ นางคำดี ชะวารี มีส่วนรู้เห็นด้วยก็จะแจ้งข้อหาต่อไป ขณะนี้กำลังพิสูจน์ว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง โดย นายอุเทน ก็ให้ปากคำเป็นประโยชน์พอสมควร โดยมีตัวละครเพิ่มมาอีก 2 คน คือ นายปรีดา แก่นโพธิ์ น้องชายของ นางคำดี และ นายสุขสันต์ รังวิเรนทร์ เพื่อนของนายปรีดา ที่มาเช่าหอพักอยู่ด้วย เนื่องจากมาหางานทำ โดยทั้งสองคนนี้เป็นการ์ดของบริษัท ธนากร ส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เป็นรปภ.และเป็นชาวจังหวัดสกลนคร ซึ่ง นายอุเทน และ นางคำดี มาเช่าห้องก่อน และพักอยู่ชั้น 2 ส่วนนายปรีดา และ นายสุขสันต์ อยู่ชั้น 3 โดยตามมาเช่าห้องภายหลัง หลังจากนี้ จะต้องตามตัวทั้งสองคนให้ได้ก่อน หากพบว่าทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ใช้ได้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึงตลอดชีวิต ยิ่งหากเอาไปค้าก็มีโทษจำคุก 20 ปี ถึงตลอดชีวิต และหากใช้ยิ่งใช้ฆ่าก็ประหารชีวิต

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการดูรักษาความปลอดภัยการจัดกิจกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 10 ต.ค.อย่างไร พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางการข่าวยังไม่พบว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ของมือที่สามแต่อย่างใด โดยให้ทุก บก.ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อความอุ่นใจของพี่น้องประชาชน ตนจะเข้มงวดไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน บก.น.1 บก.น.5 และ บก.น.6 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะใช้จัดกิจกรรมผู้บังคับการทุกคนทราบภารกิจดีอยู่แล้ว และตนก็จะลงพื้นที่ดูแลด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังสั่งจับตาเว็บไซต์ต่างๆ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือนัดรวมตัวกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการป้องกันเหตุรุนแรง และประเมินจำนวนผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรม เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมามีการประเมินสถาการณ์คลาดเคลื่อนไปบ้างโดยในชั้นนี้ยังไม่มีการร้องขอกำลังทหารมาเพิ่มเติม เชื่อว่าที่เตรียมไว้ 15 กองร้อยน่าจะเพียงพออยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ที่มีการกิจกรรมก็ไม่มีอะไร เพราะมีการพูดคุยเรื่องขอบเขตอยู่แล้ว เช่นเดียวกับวันที่ 10 ตุลาคม ก็มีการคุยกันนอกรอบ

ไม่มีความคิดเห็น: