วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กัมพูชาทำบุญวัดพระแก้ว กลางพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.

เขมรจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ

wat_keo_sekha_kirisvarak_kan_ben_24_9_10
ทหารกัมพูชาและพุทธศาสนิกชนถ่ายรูปร่วมกันหน้าประตูวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ

ฟิฟทีนมูฟ — หนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพของเขมรรายงานข่าวรองผู้ว่าฯ จังหวัดพระวิหารของกัมพูชาจัดพิธีกันบิน (Kan Ben) ที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ในพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรซึ่งเขมรรุกล้ำเข้ามาและกลายเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างสองประเทศ โดยเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๓ นายสอร์ ทารี (Sor Thary) รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร นำคณะพุทธศาสนิกชนไปยังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ (Wat Keo Sekha Kirisvarak) พร้อมทหารซึ่งประจำการที่วัดดังกล่าวร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระกันบินแรกที่วัดซึ่งถูกทหารไทยรุกล้ำเมื่อกว่าสองปีที่แล้ว

ระหว่างพิธีทำบุญเลี้ยงพระ พุทธศาสนิกชนได้บริจาคน้ำบริสุทธิ์จำนวน ๑๔ กล่อง กล้วยกวน ๖๐๐ ชิ้น น้ำตาล ๑๐ กิโลกรัม ข้าว ๒ กระสอบ ซอสถั่วเหลือง ๑ โหล น้ำปลา ๒ โหล และถวายเงินให้พระสงฆ์จำนวน ๑๒ รูป ๆ ละ ๑๖๐,๐๐๐ เรียว (ประมาณ ๑,๓๐๐ บาท) มอบเงินให้แม่ชี ๑๕ คน ๆ ละ ๕๐,๐๐๐ เรียว รวมทั้งบริจาคเงิน ๓ ล้านเรียว ให้กับวัดเป็นค่าใช้จ่ายและดูแลวัด

กันบินเป็นพิธีบุญตามธรรมเนียมของกัมพูชา ซึ่งพุทธศาสนิกชนจะทำบุญเลี้ยงพระในช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้าเทศกาลพะจัมบิน (Pchum Ben) ซึ่งเป็นพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ (ฟิฟทีนมูฟ: คล้ายงานบุญเดือนสิบในหลายจังหวัดของไทย) ระหว่างที่พระจำพรรษาที่วัดในช่วงฤดูฝน

วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระกลายเป็นจุดที่เกิดความขัดแย้งและโต้เถียงระหว่างกัมพูชาและไทย ภายหลังที่ทหารไทยหลายร้อยนายรุกล้ำเข้าไปในวัดเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เจ็ดวันให้หลังการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ปัจจุบันยังคงมีทหารไทยที่ปลดอาวุธ ๑๐ นาย อยู่ประจำการ

ไม่มีความคิดเห็น: