วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

"พิศิษฐ์"ยื่นศาลปกครองไต่สวนด่วน โวย"จารุวรรณ"แผลงฤทธิ์ไม่หยุด ออก3คำสั่งรวด ทำสตง.ป่วนหนัก

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการการแทนผู้ว่การตรวจเงินแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ในฐานะผู้ร้องสอดในคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2553 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินรวมทั้งห้ามผู้ถูกฟ้องคดีกระทำการใด อันมิชอบด้วยกฎหมายอีกต่อไป พร้อมทั้งมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์ ชั่วคราวว่า คุณหญิงจารุวรรณ ยังมีพฤติกรรมกระทำ ซ้ำซึ่งการแอบอ้างการใช้อำนาจของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ร้องสอด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการบริหาราชการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สต ง.)และการบริหารราชการแผ่นดินขึ้นอีกในเวลาต่อมา ดังนี้


1.ผู้ถูกฟ้องคดีได้ลงนามในบันทึกข้อความ สตง. ลงวันที่ 29 กันยายน 2553 เรื่อง แผนงานเพื่อความก้าวหน้าของ สตง. แจ้งเพื่อข้าราชการและลูกจ้างทุกระดับทราบโดยทั่วกันถึงนโยบายการบริหารงาน บุคคล และการปรับโครงสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายละเอียดปรากฏตามเอกสาร ท้ายคำร้อง


2. ลงนามในคำสั่ง สตง. ที่ 225/2553 ลงวันที่ 29 กันยายน 2553 เรื่อง ยกเลิกบรรดาคำสั่งทุกคำสั่ง บันทึกข้อความต่างๆ ของนายพิศิษฐ์ โดยอ้างว่าคดียังอยู่ระหว่างศาลนัดไต่สวน ดังนั้น คำสั่ง สตง. ที่ 184/2553 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2553 ที่ยกเลิกมิให้ผู้ร้องสอด(นายพิศิษฐ์)รักษาราชการแทน จึงมีผลอยู่ตามข้อ 69 ของระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดี ปกครอง พ.ศ. 2543


3. ลงนามในคำสั่ง สตง. ที่ 226/2553 ลงวันที่ 29 กันยายน 2553 เรื่อง มอบหมายให้รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ตรวจเงินแผ่นดิน 11 ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อแจ้งการมอบหมาย มอบอำนาจ ในการสั่งการอนุญาต อนุมัติ ปฏิบัติราชการแทน หรือดำเนินการอื่นแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน


4.ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างอำนาจเจ้าหน้าที่ของรัฐในตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กระทำการอันเป็นการรบกวน ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ร้องสอดในฐานะผู้รักษาราชการแทนผู้ว่าการฯ

การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีสร้างความสับสนให้กับ หน่วยรับตรวจ ข้าราชการและลูกจ้าง สตง.ก่อให้เกิดความเสียหายแก่งานการตรวจเงินแผ่นดินและการบริหารราชการของ รับโดยรวมซึ่งผู้ถูกฟ้องคดียังคงกระทำการดังกล่าวมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง


นอกจากนี้แล้ว การกระทำซ้ำซึ่งการแอบอ้างการใช้อำนาจเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวยังเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและเป็นเหตุให้ข้าราชการ ลูกจ้าง สตง.แตกความสามัคคี แบ่งพรรคแบ่งพวก โดย ผู้ถูกฟ้องคดีประสงค์จะชักจูง ให้ข้าราชการและลูกจ้างบางกลุ่มเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องคดียังคงมีอำนาจที่จะ ปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อไปได้และยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดี จึงเป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ร้องสอด

เป็นเหตุให้ผู้ร้องสอดไม่สามารถบริหารราชการได้ โดยปกติสุข นับเป็นความเสียหายทีเกิดขึ้นแก่ผู้ร้องสอดแล สตง.ที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขได้ในภายหลัง

ผู้ร้องสอดขอส่งเอกสารดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลในการไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้ม ครองชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวในวันที่ 4 ตุลาคม เวลา 10.00 น. โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีหยุดการกระทำอันเป็นการรบกวน ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ร้องสอดในฐานะผู้รักษาราชการแทนผู้ว่า การฯในระหว่างรอคำพิพากษาของศาล และขอให้ศาลมีคำสั่งพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของคุณหญิงจารุวรรณที่ให้ยกเลิกคำ สั่งของผู้ร้องสอด

ไม่มีความคิดเห็น: