เครือข่ายความร่วมมือต่อต้านระเบิดดาวกระจาย(ซีเอ็มซี)ได้เข้าไปตรวจสอบ และสามารถยืนยันคำกล่าวอ้างของรัฐบาลกัมพูชาได้ว่า อาวุธร้ายแรงชนิดนี้ข้ามไปตกในฝั่งกัมพูชาในช่วง 4 วันของการปะทะ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ซีเอ็มซี ระบุว่า สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ยอมรับในที่ประชุมเมื่อวันอังคาร(5)ว่า เจ้าหน้าที่ไทยใช้ระเบิดดาวกระจายจริง
“ทูตของไทยกล่าวว่า ทหารไทยใช้ระเบิดดาวกระจายเพื่อป้องกันตนเอง โดยยึดหลักความจำเป็น, ความพอเหมาะ และจริยธรรมของกองทัพ” แถลงการณ์จากซีเอ็มซี ระบุ
“ช่างน่าตกใจที่บางประเทศยังใช้ระเบิดดาวกระจายอยู่ ทั้งที่นานาชาติต่อต้านอาวุธชนิดนี้” ลอรา ชีสแมน ผู้อำนวยการซีเอ็มซี กล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยออกมายืนยันหรือปฏิเสธคำพูดของผู้แทนไทย
อนุสัญญาต่อต้านระเบิดดาวกระจายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยกำหนดให้ประเทศผู้ลงนามยุติการใช้อาวุธชนิดนี้ แต่ไทยและกัมพูชาไม่ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว
ซีเอ็มซี ระบุว่า เหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรกที่ปรากฎการใช้ระเบิดดาวกระจาย หลังจากที่อนุสัญญามีผลบังคับใช้ ซึ่งระเบิดได้คร่าชีวิตตำรวจกัมพูชาไป 2 นาย พร้อมเตือนว่า ประชาชนอีกหลายพันคนตามแนวตะเข็บชายแดนตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากระเบิดดาวกระจายซึ่งยิงจากพื้นดินหรือปล่อยลงจากที่สูงจะแตกออกเป็นลูกเล็กๆจำนวนมาก ซึ่งระเบิดที่ไม่ทำงานอาจฝังซ่อนอยู่ตามพื้นดิน และมีอายุยาวนานหลายสิบปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น