เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการปิดสถานีวิทยุชุมชน 13 แห่ง ว่า เป็นเรื่องที่ได้รับแจ้งจากเครือข่ายเฝ้าระวังภาคประชาชน ซึ่งแจ้งมาเราต้องดำเนินการโดยทางตำรวจนำหลักฐานมาดูพิสูจน์ รวมทั้งคณะกรรมการวิทยุโทรทัศน์ก็ต้องเข้ามาดูด้วยว่าสถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะที่ได้รับรายงานมาพบว่ามีการใช้คลื่นวิทยุความถี่แรงทำให้ประชาชนเดือดร้อน คลื่นวิทยุหลักและโทรทัศน์รับสัญญาณไม่ได้ นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบแล้วยังพบว่าเป็นสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาต
"มันมีเหตุผลมีกฎหมายอยู่ทั้งหมดว่าจับเพราะอะไร ถ้าไม่ดูส่วนนี้ก็จะมาพูดว่าที่จับเพราะเอาสถาบันมาเกี่ยวข้อง เอาสถาบันมาทำร้ายการเมือง ให้ย้อนไปดูประเด็นแรกก่อนว่ามันผิดหรือไม่ สิ่งที่สื่อในคลื่นวิทยุเสนอมีอะไรบ้างทั้งยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง แม้กระทั่งยุยงให้ทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็มีความผิดในมาตรากฎหมาย แล้วจะมาบอกว่าไม่ผิดได้อย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนของการปิดยูอาร์แอลหรือผู้ที่โพสท์ข้อความ ก็เช่นเดียวกัน มันมีคณะกรรมการพิเศษเฝ้าดูอยู่ เมื่อเขาดูแล้วเห็นว่าผิดก็ไปขอหมายศาลแล้วให้เจ้าหน้าที่มาปิด แต่ปิดแล้วท่านก็ไปเปิดที่อื่นต่อ ทำไมมันไม่เลิกเจตนามันคืออะไรต้องไปดูกัน ถ้าประชาชนไม่ช่วยเจ้าหน้าที่เราก็คงปิดไม่ไหวเพราะมีจำนวนมากเป็นหมื่นๆ ล้านๆ เว็บ ถ้าท่านไม่ช่วยเจ้าหน้าที่ในการทำงานให้มันง่ายขึ้น แล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากจะทำ เมื่อไม่อยากจะทำกฎหมายก็ไม่เป็นกฎหมาย บ้านเมืองก็เละเทะไปหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น