ที่ห้องประชุมชั้น 12 อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น. นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานสัปดาห์ครบรอบ 129 ปี การสถาปนาศาลยุติธรรม ระหว่างวันที่ 20 -23 เมษายนนี้ ซึ่งมีการจัดงานสัมมนาวิชาการ การอภิปราย และการบริจาคโลหิต วันที่ 21 เมษายนนี้ เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ อาคารศาลอาญาชั้น 2 รวมทั้งจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด บริเวณลานจอดรถ หน้าศูนย์อาหารสวัสดิการ สำนักงานศาลยุติธรรม ระหว่างวันที่ 18 -22 เมษายน นี้
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ศาลยุติธรรมยืนหยัดรับใช้สังคมเป็นเสาหลักมาได้ถึง 129 ปี ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ หรือความไม่ตั้งใจ แต่ศาลยุติธรรมอยู่ได้บนความศรัทธาของประชาชน เพราะตุลาการได้ปฏิบัติหน้าที่พิสูจน์ตัวเองว่าทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม ปราศจากอคติ มีความเป็นอิสระเป็นธรรมในการพิจารณาคดีที่ยืนอยู่บนหลักการ ไม่ว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ฝ่ายตุลาการอยู่ได้เพราะไม่ถูกการเมืองแทรกแซง
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงในสังคมแต่ละยุคสมัยเป็นเรื่องที่คาดหมายได้ยาก โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่สังคมไทยมีความคิดขัดแย้ง แตกแยกในทางการเมือง ซึ่งผลพวงของความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็เป็นช่องทางที่นำไปสู่ข้อพิพาทกัน เช่น ข้อหาก่อการร้าย การวางเพลิงเผาทรัพย์ ความผิดต่อ พ.ร.บ.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉินฯ การห้ามชุมนุมต่าง ๆ ซึ่งทำให้มีคดีที่เข้าสู่ศาลจำนวนไม่น้อย และศาลยุติธรรมถูกคาดหวังถึงการตัดสินคดีที่เป็นธรรมและจะได้รับความพอใจของคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งศาลยุติธรรมยืนยันว่า อยู่บนหลักการที่จะไม่มีสีเสื้อ โดยยืนยันว่า เราตัดสินคดีบนกรอบของกฎหมาย ด้วยความเป็นอิสระ เป็นธรรมตามบริบทที่กฎหมายบัญญัติ และหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนคำว่า 2 มาตรฐาน ที่ใช้ทั้งในทางการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เป็นคำที่ทำให้ศาลยุติธรรมถูกตั้งข้อสงสัย ซึ่งมาตรฐานที่ศาลยุติธรรมใช้ในการพิจารณา คือพยานหลักฐานพฤติการณ์แห่งคดี บทบัญญัติกฎหมายที่ให้อำนาจศาล ขณะที่อัตราโทษในการตัดสินจะแตกต่างกันไปตามหลักฐาน ไม่ใช่จากอคติ ความลำเอียงที่จะเกิดขึ้นเพราะรัก หรือหลง หรือกลัว อคติต้องไม่มี และไม่เกิด
“การกล่าวหาว่ามีใบสั่ง ไม่ได้อยู่บนรากฐานความยุติธรรม ที่มีคนตั้งคำถาม เรานิ่งเฉยเพราะเชื่อว่าทองคำแท้ ย่อมไม่หวั่นไหวต่อความร้อน สถาบันศาลยุติธรรม ไม่อยากที่จะลดตัวลงมาเพื่อวิวาทะกับคนหนึ่งคนใด เพราะเราอยากรักษาไว้ซึ่งความเป็นธรรมและเป็นกลาง แม้ว่าบางครั้งเราต้องเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาก็ตาม แต่ฝากถึงใครก็ตามที่ก้าวล่วง หรือล่วงล้ำก้ำเกินศาลยุติธรรมโดยอ้างสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ขอให้พึงเข้าใจว่า สิทธิเสรีภาพมีได้ตามกฎหมาย แต่อย่าได้ล่วงล้ำทำให้ศาลยุติธรรมที่มีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน ต้องสูญสิ้นเสรีภาพและความเป็นอิสระ เพราะหากได้ก้าวล่วงทำผิดกฎหมาย และศาลต้องกลายเป็นผู้เสียหาย ก็จะใช้มาตรการตั้งแต่อ่อนที่สุด ไปจนถึงเข้มที่สุดคือการดำเนินคดี ทั้งที่ศาลพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำ เพราะเข้าใจว่าบางครั้งท่านอาจเข้าใจอะไรผิดพลาดไป” โฆษกศาลยุติธรรม กล่าว.
|
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554
ศาลฯ ฮึ้ม!! "ก้าวล่วงศาลฯ ฟันไม่เลี้ยง"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น