มีค่าบัตรด้วยน่าจะ 8 บาทหรือ 10 บาทประมานนั้น ทำให้หน้าหนาวทุกปีจะมีคนขึ้นมาเที่ยวเยอะมาก
เจ้าของคือ คุณนายลัดดา พันธาภา เป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้นจะไปออกเดทกันเพราะมีความเชื่อว่า คู่ไหนไปอธิฐานขอความรักกับต้นไทรหน้าลัดดาแลนด์แล้วคู่นั้นจะได้รักกันไปตล อดชีวิต
ส่วนประชากรในหมู่บ้านทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นคนที่มีฐานะดีเข้าไปอยู่จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านเศรษฐีก็ได้
หรือบางครั้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
แต่จุดที่ผู้คนแถบนั้นเจอความเฮี้ยนกันจนอยู่ไม่ได้คือ บางคืนคนแถวนั้นจะเห็นครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้วออกมายืนหน้าบ้าน ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคนทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครจะกล้าออกจากบ้านเลย
นานวันเข้ายิ่งเฮี้ยนหนักจนถึงขั้นตามมาหลอกถึงบ้าน คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกไปเกือบหมด ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะ แต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหน และ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่ แต่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาว เพราะอย่างที่หร่อนๆ รู้กันว่าเมืองเชียงใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก
เจ้าของบ้านที่เป็นฝรั่งท่านนั้นได้จ้างเด็กสาวชาวพม่ามาเฝ้าบ้าน แต่ผ่านไปไม่นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้น และฆ่าเด็กสาวคนนั้น แล้วหมกศพไว้ในห้องเก็บของใต้บันไดกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบได้ก็คือ บ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้ๆ กัน ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในบ้าน แต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังคงเห็นเด็กสาวคนนี้มานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านทุ กวัน
จนวันหนึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวทนกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยคละคลุ้งไม่ไหว
จึงได้ตะโกนบอกเด็กสาวคนนั้นว่าให้ทำความสะอาดบ้านบ้าง อะไรบ้าง เพราะอาจจะมีหนูตาย
พูดยังไม่ทันจบ เด็กสาวก็หันหน้าเละๆ มา เพื่อนบ้านก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเปิดบ้านเพื่อทำการตรวจสอบจึงพบศพดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะพบศพและได้ทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลทางศาสนาแล้ว
แต่เด็กสาวคนนั้นก็ยังมานั่งอยู่ที่เดิมทุกวัน ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งกะชาวบ้านก็คงจะดี ไม่มีใครเดือดร้อน
แต่เพื่อนบ้านแถบนั้นเล่าว่า บางคืนเด็กสาวจะตามมายืนมอง ที่หน้าต่างห้องนอนตอนนอนกลางคืนเลยด้วยซ้ำดังนั้นเพื่อนบ้านทั้งแถบจึงพากั นย้ายออกอย่างไม่เสียดายบ้าน
เรื่องเล่าเขย่าขวัญมากมายเกี่ยวกับลัดดาแลนด์
ที่คนเชียงใหม่น่าจะรู้และจำกันได้ดี ยกตัวอย่างเช่น
1. มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรที่ลัด ดาแลนด์
แต่แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชาย ทั้งสองจึงมาแขวนคอตายคู่กันที่ใต้ต้นไทรนั้น
คนแถวนั้นเล่ากันว่า ทุกวันครบรอบวันที่ทั้งคู่ผูกคอตายเวียนมาบรรจบ (ดิชั้นไม่รู้นะคะว่าวันไหน)
คนแถวนั้นจะเห็นทั้งคู่ห้อยหัวโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้คนที่ผ่านไปมาได้พ บเห็น
2. ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จะทำบ่อน้ำทางโครงการได้พบกับโครงกระดูกมนุษย์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยให้บุคคลทั่วไปได้ทราบกัน
3. เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่รกร้างและเปลี่ยวมาก มีการนำศพคนตายที่ถูกปล้นหรือถูกฆ่าข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้น ที่พอทราบมา ณ ขณะนี้ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคืออย่างน้อยๆ ก็ 8 ศพ แต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะมาก
4. มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายคนที่ทำแท้ง แล้วนำซากเด็กทารกไปทิ้งไว้ในสระน้ำของโครงการลัดดาแลนด์เป็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่ามากกว่า 100 เลยทีเดียว
5. มีขี้ยาคนหนึ่งที่อัพยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อคตายคาศาลาที่ริมสระน้ำของโครงการกว่าจะมีคนมาพบ ศพก็เน่าหมดแล้ว แต่บางแหล่งข่าวเล่าว่า ที่ช็อคเพราะหัวใจวายเนื่องจากเห็นบางอย่างที่หน้าสะพรึงกลัวมากๆ
(หน้าของศพดวงตาเบิกโพลง และลิ้นจุกปาก) และสุดท้ายก็โดนเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน
เพราะกัญชายังเหลืออยู่ข้างๆ ศพอีกเยอะเลย
6. มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคาระห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จนทางเทศบาลต้องมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะถึงจะย้ายไปไกลแค่ไหน วันรุ่งขึ้นตุ๊กตาและศาลเหล่านั้นก็จะกลับมาอยู่ ณ ที่เดิม โดยไม่ทราบสาเหตุ
7. มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมากินยาฆ่าแมลง
ตายใต้ต้นไทรหน้าหมู่โครงการลัดดาแลนด์โดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นๆว่า "จะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป"
หลังจากนั้น ชาวบ้านแถบนั้นเล่าว่า วิญญาณจะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในโครงการ
ขอขอบคุณ
http://www.thailandbike.com/board2/topic/11643-aanoaaai-aoecoeeeiaiouciaoaaeae/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น