"เจ๊วา"สั่งตรึงราคาไข่
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่กระทรวงพาณิชย์ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เชิญกรมการค้าภายใน และกรมปศุสัตว์ หารือเรื่องปัญหาราคาไข่ไก่ เมื่อวันพุธที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลายลงระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในระบบลดลงจากเดิมไม่มากนัก และเริ่มฟื้นตัวในผู้เลี้ยงบางราย ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์บางรายการเริ่มอ่อนตัว ซึ่งจากการตรวจสอบของกรมการค้าภายใน พบว่าปลายข้าว รำข้าว กากถั่วเหลือง และปลาป่นอ่อนตัวลงแล้ว นอกจากนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือให้ผู้เลี้ยงและผู้ค้าช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยขอความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ที่ฟองละ 3.00-3.10 บาท ให้ชะลอการส่งออกชั่วคราว และจัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า โดยให้จัดหาไข่ไก่มาจำหน่ายวันละ 1 ล้านฟอง แต่จากการติดตามข้อเท็จจริงราคาไข่ในปัจจุบัน พบว่าราคาไข่คละหน้าฟาร์มกลับปรับราคาเพิ่มขึ้นฟองละ 0.10-0.20 บาท คือ ปรับเป็นฟองละ 3.20-3.30 บาท
สั่งจับ-ปรับขายเกินราคา
"ปัญหาไข่ไก่ขณะนี้ยังไม่คลี่คลาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้เลี้ยงไม่สามารถจัดหาไข่ไก่ให้โครงการธงฟ้าเพียงวันละ 2 แสนฟอง หรือประมาณ 20% ของจำนวนที่ตกลงไว้เดิม ว่าจะจัดหาให้วันละ 1 ล้านฟอง โดยอ้างว่าผลผลิตมีน้อย ส่วนปัญหาเรื่องการฮั้ว ก็เป็นเรื่องที่มีการพูดกัน ซึ่งเรากำลังเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนั้น เพื่อกำกับดูแลให้ราคาขายสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน ตนได้ลงนามออกประกาศใช้มาตรการบริหารกำหนดให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่ 5 หมื่นตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณไข่ไก่ที่ผลิตได้เป็นรายวัน โดยให้จัดทำบัญชีและรวบรวมรายงานต่อกรมการค้าภายในทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ และประกาศราคาแนะนำไข่ไก่ ที่เป็นธรรมทั้งราคาหน้าฟาร์ม ขายส่งและขายปลีก โดยให้มีผลบังคับใช้ในต้นสัปดาห์หน้า หากพ่อค้าขายเกินราคาแนะนำจะถือว่าค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นางพรทิวา กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น