วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

น้ำตาชาวนา


เกิดเป็นชาวนาชาวไร่มันน่าเห็นใจจริงๆ น้ำมามากข้าวก็ตาย น้ำมาน้อยข้าวก็ตาย จะปลูกอะไรก็ต้องพึ่งดินพึ่งฟ้า อาชีพชาวนาชาวไร่ช่างเป็นอะไรที่รันทดจริงๆ

น้ำในเมืองขาดแคลนแทนที่หน่วยงานรัฐจะรณณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด แต่เปล่าเลย ดันมาบังคับให้ชาวนาชาวไร่งดปลูกพืชผลซะงั้น ถนนสี่เลนแปดเลนก็สร้างมันเข้าไป แต่ทีกับระบบชลประทานดันทำให้ไม่ได้ วันดีคืนดีพืชกำลังงามจะเก็บในวันสองวันนี้แล้วเพลี๊ยะก็ดันมาลงกินพืชผลไม่ยั้ง

พืชผลพอขายได้ก็ดันขายไม่ได้ราคาโดนนายทุนกดหัวตลอด ครั้นพอจะลืมตาอ้าปากได้ ขายข้าวได้เกวียนละเป็นหมื่น รัฐบาลที่อุ้มสมกันมาก็ต้องมีอันเป็นไปซะงั้น

ดอกเบี้ยที่กู้ ธกส มาก็พอกพูนเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่รายได้กับลดลงทุกวันสวนทางกันตลอด เสียงครวญชาวนา เซ็งโว๊ยๆๆๆ พออยากจะมีสิทธิ์มีเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ต้องการบ้าง ก็ไม่มีใครสนใจ ทั้งๆที่ชาวนาชาวไร่ก็คือผู้เสียสละมาตลอด

ปลูกข้าวเลี้ยงคนทั้งแผ่นดินหรืออาจจะทั้งโลก แต่ทำไมมันถึงได้จนเอ๊าจนเอา ร่ำร้องมันเข้าไป แหกปากมันเข้าไป ทำไงได้ล่ะ ประเทศนี้มันไม่ใช้ของประชาชนจริงๆนี่นา เพราะฉะนั้นเงียบซะ พูดมากเดี๋ยวจัดหน่วยสไนเปอร์ไปแอบซัดหัวซะเลย


เสียงชาวนาไทย
กระดูกสันหลังร้องไห้ใครมองเห็น
เหลียวแลบ้างเป็นไรตอนใจยังเต้น
ดีกว่ามาเห็นเมื่อตอนสิ้นลม

ไม่มีความคิดเห็น: