เว็บไซต์หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล
เผยแพร่บทวิเคราะห์การเมืองไทย เรื่อง "มือพิฆาตของอำมาตย์ไทย-
รอยัลลิสต์เลือกตั้งแพ้ ก่อรัฐประหารโดยตุลาการ" ระบุว่า เมื่อวันพุธ
พลังรอยัลลิสต์เล่นงานระบอบประชาธิปไตยของไทยอีกครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญก่อรัฐประหารโดยตุลาการ
โค่นล้มนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะกรณีย้ายข้าราชการ
"นับเป็นครั้งที่สามในรอบหนึ่งทศวรรษ
สถาบันที่ขาดการรับผิดแห่งนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้การชักใยของระบอบอำมาตย์
กำจัดผู้นำจากการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลอันน่าเคลือบแคลง" บทวิเคราะห์ระบุ
บทวิเคราะห์บอกว่า
ศาลเข้าแทรกแซงด้วยการตบรางวัลแก่ประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองรอยัลลิสต์
ที่บอยคอตการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
หลังจากบรรดาแกนนำพรรคได้ออกไปนำการประท้วงเพื่อโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย
และแต่งตั้งสภาที่ประกอบด้วยชนชั้นนำ
เมื่อเดือนมีนาคม ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นโมฆะด้วยเหตุที่ว่า
พวกผู้ประท้วงขัดขวางการเลือกตั้ง
ทำให้ไม่สามารถจัดการลงคะแนนเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศได้
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ขัดขวางการออกเสียงครั้งใหม่ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นอัมพาต
สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องน่าหัวร่อ
และอันตรายอย่างยิ่ง
ความขัดแย้งนี้ปลุกให้พวกสุดโต่งในทั้งสองฝ่ายข่มขู่ที่จะทำสงครามกลางเมือง
ในรอบนี้ การเผชิญหน้าดูจะดุเดือดยิ่งขึ้น เพราะฝ่ายรอยัลลิสต์อยู่ในสภาพหลังพิงฝา
กลุ่มพลังที่สนับสนุนพี่น้องตระกูลชินวัตรชนะเลือกตั้งตลอด 5
ครั้งที่ผ่านมา คาดว่าในการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็จะชนะอีก ขณะที่กองทัพมีความแตกแยก
และลังเลที่จะเข้ายึดอำนาจอีก
ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเผด็จการที่คณะรัฐประหารสร้างไว้เมื่อปี
2550
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. และองค์กรอื่นๆ อาจขัดขวางเจตจำนงของผู้ออกเสียงเลือกตั้งก็จริงอยู่
แต่ไม้ตายนั้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
เพราะได้ยับยั้งความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกครั้งที่ผ่านมา
บทวิเคราะห์มองว่า
ทางออกเฉพาะหน้าเพื่อรักษาประชาธิปไตยอันเปราะบางของไทย และหลีกเลี่ยงการนองเลือด
คือ การเจรจาหาข้อยุติ
หากฝ่ายอำมาตย์ได้รับหลักประกันในเรื่องความมีอภิสิทธิ์ต่างๆ
และพรรคประชาธิปัตย์ได้ครองเก้าอี้จำนวนหนึ่ง ความขัดแย้งอาจทุเลาลงสัก 2-3 ปี อย่างไรก็ตาม
ภาวะสันติเช่นนั้นยังคงง่อนแง่น
เพราะทั้งสองฝ่ายมองอนาคตของประเทศไทยต่างกันลิบลับ ทักษิณ ชินวัตร
ได้เหยียบตาปลาของระบอบศักดินาเมื่อเขาปลุกให้สามัญชนเรียกร้องอำนาจที่แท้จริงเมื่อปี
2544
ยักษ์ที่ตื่นแล้วไม่อาจกลับไปหลับใหลอีกแม้ตระกูลชินวัตรถูกขับออกไปจากการเมืองก็ตาม
คำวินิจฉัยล่าสุดของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของระบอบเก่า
ทำลายความน่าศรัทธาของตนเองเมื่อพวกเขาดิ้นรนที่จะปิดกั้นพลังประชาธิปไตย
บทวิเคราะห์ตั้งความหวังว่า
ประเทศไทยจะมีผู้นำที่ชาญฉลาดสักคนบังเกิดขึ้นในฟากฝั่งพวกรอยัลลิสต์
ที่จะตระหนักถึงความจริงข้อนี้ และเลิกพยายามโค่นล้มประชาธิปไตย
แม้ประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถชนะเลือกตั้งได้ในอนาคตอันใกล้
พรรคนี้จะยังคงมีอิทธิพล และทัดทานกระแสประชานิยมของฝ่ายสนับสนุนตระกูลชินวัตรได้
"อย่างไรก็ดี
ในเวลานี้ ดูเหมือนฝ่ายอำมาตย์ไม่พร้อมที่จะสละการอ้างสิทธิ์เทพประทาน
ที่จะปกครองประเทศไทย และยอมรับบทบาทของฝ่ายตรงข้าม" วอลสตรีท เจอร์นัล สรุปในตอนท้าย.
Source: Wall Street Journal
Photos: AFP
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น