วันที่ 9 พ.ค. สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ออกแถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
เนื้อหาระบุว่า
ตามที่ทางแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(กปปส.) ได้เคลื่อนขบวนมวลชนไปตั้งเวทีชุมนุมที่หน้าสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ช่อง 3
ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่อง 11
โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของ
กปปส. และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาลนั้น
องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามสิทธิ เสรีภาพสื่อมวลชนหรือขัดขวางการทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน
ซึ่งขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพสื่อมวลชน
ด้วยเหตุนี้ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
และ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ขอให้แกนนำของ กปปส. และมวลชนผู้ร่วมชุมนุม
หยุดกระทำการดังกล่าวทันทีหรือ ทบทวนท่าทีในการปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ต่างๆ โดยด่วน
2.
ต้องไม่ไปกดดันให้กองบรรณาธิการข่าวของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
นำเสนอข่าวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียวและควรเคารพความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการต่างๆ
ในการใช้ดุลพินิจในการนำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป ที่สำคัญ
จะต้องไม่ทำให้ทรัพย์สินของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างเด็ดขาด
และต้องให้ความปลอดภัยและความสะดวกแก่พนักงานและผู้สื่อข่าวทุกคนของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ
3.
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ
ซึ่งมีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน
และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ
โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล
จะต้องไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล
ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
สมาคมนักข่าวทั้ง 2 สมาคม ขอยืนยันหลักการว่า
สื่อมวลชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นของทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม กองบรรณาธิการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
ควรตระหนักถึงการรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งต้องนำเสนอข่าวจากทุกฝ่าย
อย่างความเป็นธรรม โดยคำนึงถึงสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน
สมาคมนักข่าวทั้ง 2
มีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในภาคสนามทุกคน
โดยขอให้ระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเกินความจำเป็น ทั้งนี้
ให้ตระหนักว่าความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านมานำเสนอต่อสาธารณะชน
เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคน
ที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเพื่อประโยชน์ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
และขอให้ทุกฝ่ายเคารพและไม่แทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทุกรูปแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น