นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
แถลงประกาศท่าทีหลังจากเดินสายพบปะทุกฝ่ายว่า จากการพบปะทุกฝ่าย
ล้วนแสดงความวิตกกังวลกับสถานการณ์ปัจจุบัน
อีกทั้งมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มกปปส.และนปช. และคดีความต่างๆ
ทั้งหมดเป็นความเสี่ยงที่คนจำนวนมากคาดการณ์หรือกังวลว่าจะเกิดความ รุนแรง และความสูญเสียซ้ำรอยเหตุรัฐประหารปี2549
ดังนั้นสิ่งที่ตนจะเสนอเพื่อหยุดยั้งความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
ไม่ต้องการเห็นการสูญเสียประชาธิปไตยที่เดินออกนอกรัฐธรรมนูญ
รวมทั้งต้องการหลีกเลี่ยงการดึงเอาสถาบันต่างๆ ที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
เข้ามาอยู่ในวังวนความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลและสถาบันพระมหากษัตริย์
ดังนั้นข้อเสนอตนจึงอยู่บนพื้นฐานตอบโจทย์ประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อเสนอของตนมีหลักการสำคัญคือ
1. ประเทศจะเดินหน้าไปด้วยดีต้องเข้าสู่การปฏิรูป
ที่ชอบธรรม มีการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เป็นตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
ประชาชนมั่นใจว่าใครที่มีผลประโยชน์และจะต่อต้านขัดขวางปฏิรูป เช่น นักการเมือง
ก็จะทำไม่ได้
2. ต้องเริ่มต้นปฏิรูปทันที
โดยต้องมีทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ทั้งในเรื่องสภาและรัฐบาล
3. ต้องมีการเลือกตั้งในจุดที่มีความพร้อม
ระยะเวลาที่เหมาะสม ต้องเป็นไปอย่างเสรี สุจริต เที่ยงธรรม ให้ทุกฝ่ายมีส่วนรวม
ให้เกิดการยอมรับการมีสภาและรัฐบาล 4.ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว ส่วนกลุ่ม
คดีก็ต้องเดินหน้าต่อไปตามกฎหมายเท่านั้น
ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะสำเร็จได้ต่อเมื่อทุกฝ่ายให้การยอมรับ แต่อาจจะไม่ถูกใจทั้งหมด
ใครที่ปฏิเสธต้องให้เหตุผลที่ดีต่อสังคมว่าทำไมไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตน เพราะตนไม่ใช่คนกลาง
ไม่ใช่เป็นกลาง
“ภายในวันที่ 3 พ.ค.จะเสนอข้อเสนอที่เป็นทางออกประเทศ ให้ทุกฝ่าย
ซึ่งขอประกาศว่าหากทุกฝ่ายรับข้อเสนอของผม ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็วหรือช้า
ผมจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และไม่รับตำแหน่งใดๆ
เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการเดินตามแผนข้อเสนอดังกล่าวผมจะไม่มีสถานะใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ขอเป็นประชาชนคนหนึ่งที่สนับสนุนการปฏิรูปให้เกิดขึ้นตามแนวทางของผม ขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ
ขอให้โอกาสประเทศโดยจะทำข้อเสนอให้ทุกฝ่ายพิจารณาด้วยเหตุผล
แล้วขอให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าแผนดังกล่าว
ผมจะไม่ได้รับประโยชน์ใดนอกจากประชาชนคนธรรมดา”นายอภิสิทธิ์
กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น