16 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟสบุ๊กส่วนตัว Facebook Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้
ครั้งล่าสุดที่คุณพ่อ-คุณแม่ผมเ จอกันที่ต่างประเทศ(อังกฤษ) คือรูปนี้ครับ
อยู่ๆ "สลิ่ม" ก็ Forward Message ต่อกันเป็นวรรคเป็นเวรว่า คุณพ่อ-คุณแม่ของผมไปเจอกัน และทำพิธีกรรมอะไรกันที่พม่า
ผมขอยืนยันว่า
"ตั้งแต่เกิดมาคุณแม่ผมยังไม่ เคยไปพม่าเลยแม้แต่ครั้งเดี ยวครับ..!!"
นอกจากนั้น ตั้งแต่คุณพ่อ-คุณแม่หย่าจากกั น
5ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอะเจอกันเลยแม้แต่ ครั้งเดียว มีแต่เจอกันทางหน้าจอสไกป์
และครั้งสุดท้ายที่เจอตัวกันจริ งๆ คือที่เมืองไทย
ก่อนที่จะมีการพิพากษา เรื่องคดีที่ดินรัชดาครับ..!!
ผมรู้ว่าหลังโพสต์เฟสบุ๊คนี้ จะต้องมีรูปนั้นรูปนี้ออกมาทั้ งรูปรีทัชและรูปเก่าสมัยปฏิวัติ 19ก.ย.49 ที่ครอบครัวผมไปอยู่ที่อังกฤษพั กหนึ่ง ซึ่งฝ่ายตรงข้ามจะเอามาโพสต์ หลอกสลิ่ม แล้วก็บอกว่านี่ไง ไหนบอกว่าไม่ได้เจอกัน ไหนบอกว่าไม่เคยไปพม่า ไม่ว่าเรื่องอะไร จะมีสาระหรือไม่มีสาระ ขอให้ได้ด่ากันไว้ก่อน
ครอบครัวผมต้องเดือดร้อน ผจญกับชะตากรรมที่ฝ่ายตรงข้ามทา งการเมือง พยายามยัดเยียดความผิด และป้ายสีเรื่องต่างๆตลอดเวลาตั ้งแต่คุณพ่อเข้าสู่การเมือง โดนการใช้กระบวนการยุติธรรม2มาต รฐาน แต่งตั้งบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กั บคุณพ่อผมอย่างชัดเจน มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและปั้ นเรื่องส่งฟ้องศาล ทำให้คุณพ่อต้องโดนโทษจำคุก2ปี ในข้อหาเล็กๆคือเซ็นต์ชื่อในฐาน ะสามี ยินยอมให้คุณแม่ไปซื้อที่ดินรั ชดา
ถ้ากระบวนการกฎหมายไทย ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไพร่หรือผู้ดี คงไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ แต่กรณีที่ดินคล้ายๆกัน เกิดขึ้นกับอดีตนายกรัฐมนตรี2คน คนหนึ่งภรรยาจ่ายตังค์ 7-8ร้อยล้านประมูลซื้อที่ดิน ต้องโดนจำคุก2ปี อีกคนหนึ่งบุกรุกที่ดินหลวง เอาพื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำ ซึ่งเป็นสมบัติชาติ เป็นของประชาชนโดยรวม มาเป็นรีสอร์ทส่วนตัว สร้างบ้านพักอาศัย ไม่อายเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา กลับเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ในสังคม สลิ่มกราบไหว้สรรเสริญ ไม่โดนเอาผิดใดๆทั้งสิ้น
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องคล้ ายๆกันเรื่องอื่นอีก เช่น สปก.4-01ที่เอาที่ดินทำกินของเก ษตรกร มาแจกคนรวยพรรคฯพวกเดียวกับตน นอกจากเรื่องเขายายเที่ยง ยังมีเขาสอยดาวและเขาอื่นๆ รวมถึงเรื่องราวอื่นๆอีกมากมาย ที่ไม่ชอบมาพากลซึ่งเกิดขึ้นในบ ้านเมืองเรา ทำความผิดกันเห็นๆ แต่กลับไม่โดนเอาผิดลงโทษใดๆเลย ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ยิ่งมีเรื่อง2มาตรฐานเกิดขึ้ นเยอะเท่าไหร่ ประเทศยิ่งถอยหลังล้าหลังขึ้ นเท่านั้นครับ ลองคิดดูว่ายิ่งหาเรื่อง, เอาเรื่อง, ยัดเยียดความผิด และสร้างความเกลียดชังขึ้นมาในส ังคม พยายามทำร้ายคุณพ่อและครอบครั วผมมา 7-8ปี พี่น้องประชาชนกลับยิ่งให้ความร ักความศรัทธาไม่เสื่อมคลาย ถ้ายังคิดจะใช้วิธี 2มาตรฐานนี้มาทำร้ายกันต่อไป ประเทศก็จะยิ่งเสื่อมถอยลงไปเรื ่อยๆ แต่จะไม่มีวันชนะใจพี่น้องประชา ชนได้ คนที่เขามีใจรักความยุติธรรมยั งมีอีกมากในประเทศนี้ครับ
เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากเป็นรัฐบาล อยากเป็นนายกรัฐมนตรีกันมาก จนทนรอสร้างคะแนนนิยมตามธรรมชาติไม่ไหว จะใช้วิธีอื่นที่ไม่เป็นประชาธิ ปไตย เช่นการปฏิวัติ, นายกฯแต่งตั้ง, นายกฯพระราชทาน, นายกฯม.7 หรือการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร คุณอาจได้เป็นนายกฯเป็นรัฐบาลสม ใจหวัง แต่เมื่อประเทศชาติกลับเข้าสู่ ประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งด้วยกติกาที่เป็ นธรรมเมื่อไหร่ คุณจะจัดตั้งมวลมหาประชาชนมาอย่ างไร ก็แพ้เสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องปร ะชาชนอยู่ดี ถ้าอยากจะให้ประเทศอยู่ในวังวนแ บบนี้ก็ตามใจ
เค้าว่ากันว่า 20ปีที่ผ่านมา พรรคเก่าแก่ขวัญใจแม่ยก,อำมาตย์ ทั้งหลาย ไม่เคยชนะใจพี่น้องประชาชน ได้เป็นรัฐบาลด้วยวิถีทางประชาธิปไตยล้วนๆสักที จริงหรือไม่ครับ..??
อยู่ๆ "สลิ่ม" ก็ Forward Message ต่อกันเป็นวรรคเป็นเวรว่า คุณพ่อ-คุณแม่ของผมไปเจอกัน
ผมขอยืนยันว่า
"ตั้งแต่เกิดมาคุณแม่ผมยังไม่
นอกจากนั้น ตั้งแต่คุณพ่อ-คุณแม่หย่าจากกั
5ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอะเจอกันเลยแม้แต่
และครั้งสุดท้ายที่เจอตัวกันจริ
ก่อนที่จะมีการพิพากษา เรื่องคดีที่ดินรัชดาครับ..!!
ผมรู้ว่าหลังโพสต์เฟสบุ๊คนี้
ครอบครัวผมต้องเดือดร้อน ผจญกับชะตากรรมที่ฝ่ายตรงข้ามทา
ถ้ากระบวนการกฎหมายไทย ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไพร่หรือผู้ดี คงไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ แต่กรณีที่ดินคล้ายๆกัน เกิดขึ้นกับอดีตนายกรัฐมนตรี2คน คนหนึ่งภรรยาจ่ายตังค์ 7-8ร้อยล้านประมูลซื้อที่ดิน ต้องโดนจำคุก2ปี อีกคนหนึ่งบุกรุกที่ดินหลวง
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องคล้
ยิ่งมีเรื่อง2มาตรฐานเกิดขึ้
เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากเป็นรัฐบาล อยากเป็นนายกรัฐมนตรีกันมาก
เค้าว่ากันว่า 20ปีที่ผ่านมา พรรคเก่าแก่ขวัญใจแม่ยก,อำมาตย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น