ตำรวจชุดสืบสวนคดีคนร้ายปาระเบิด ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ซุกตัวในเขมร
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์
แหล่งข่าวในชุดสืบสวนคดีคนร้ายปาระเบิดในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนพยายามหาเบาะแสของคนร้าย
ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่นานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติจากศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามตำหนิรูปพรรณซึ่งปรากฏอยู่ในภาพถ่าย
ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว และเมื่อ 2
สัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพยายามหาเบาะแสของคนร้ายกระทั่งมีความชัดเจนว่า
บุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายคือนายกฤษฎา ไชยแค อายุ 41 ปี
แหล่งข่าวรายเดิมเปิดเผยด้วยว่า
ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ปรากฏว่า นายกฤษฎา
ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและบุตร ใน
จ.นนทบุรี ซึ่งได้เดินทางไปเชิญบุคคลใกล้ชิดของนายกฤษฎา
มาสอบถามและให้ดูภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งบุคคลใกล้ชิดรายนี้ยืนยันว่า
บุคคลในภาพคือนายกฤษฎาจริง
"นอกจากพยานบุคคลแล้ว
เรายังเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปตรวจเทียบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เก็บได้จากรถจักรยานยนต์
ที่คนร้ายว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดรวกบางบำรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ซึ่งพบว่าตรงกัน ซึ่งได้ส่งพยานหลักฐานที่พบนี้ให้กับพนักงานสอบสวนไปขออำนาจศาลออกหมายจับใหม่โดยระบุชื่อนายกฤษฎา
เป็นผู้ต้องหา ซึ่งได้ดำเนินการไปกว่า 2 สัปดาห์แล้ว"
แหล่งข่าวในชุดสืบสวน เปิดเผย
ตำรวจชุดสืบสวน เปิดเผยด้วยว่า
การสืบสวนทำให้ทราบว่าหลังเกิดเหตุนายกฤษฏา หลบหนีไปยัง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี
และคาดว่าน่าจะหนีข้ามไปกบดานในประเทศกัมพูชา โดยเส้นทางธรรมชาติ
ซึ่งคาดว่าเมื่อข้ามไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว นายกฤษฎา
น่าจะแฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม
เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีความเชี่ยวชาญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น